รมว.พาณิชย์(นางพรทิวา นาคาศัย)นำผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ พร้อมผู้บริหารระดับสูงภาคเอกชนและนักธุรกิจไทยประชุมสุดยอดภาคธุรกิจอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN-ROK CEO Summit) ก่อนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีสมัยพิเศษ (ASEAN-ROK Commemorative Summit) ณ เกาะเจจู หวังกระตุ้นส่งออก
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นำผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ พร้อมนักธุรกิจไทย 30 ราย ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงสมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ประชุมสุดยอดภาคธุรกิจอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN-ROK CEO Summit) ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า พบปะกับนักธุรกิจรายสำคัญของสาธารณรัฐเกาหลี (Small Group country meeting) และกลุ่มประเทศอาเซียนก่อนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีสมัยพิเศษ (ASEAN-ROK Commemorative Summit) ระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน 2552 ณ เกาะเจจู
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวถึงผลการนำนักธุรกิจไทย 4 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและภัตตาคารไทย อุตสาหกรรมกระดาษ ธุรกิจบริการดิจิตัลคอนเท้นต์ และโรงพยาบาล และสถาบันเสริมความงามเดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-เกาหลี ภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่างภาคเอกชนทั้งสองประเทศ อาทิ บริษัท Advance Agro Public Co.,Ltd ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดกระดาษนำเข้าของเกาหลีร้อยละ 36 ได้ลงนาม ร่วมกับบริษัท JDI Trading Co.,Ltd. (Korea) ผู้จัดจำหน่ายสินค้ากระดาษสำนักงาน และเครื่องคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของเกาหลีใต้เพื่อเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้ากระดาษ Double A ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้ากระดาษไทยไปตลาดเกาหลีใต้ สูงขึ้นถึง 43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน คิดเป็นปีละ 516 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 18,000 ล้านบาท สินค้ากระดาษไทย ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีคุณภาพที่ดี ถึงแม้จะมีราคาที่สูงกว่ากระดาษในประเทศ
นอกจากนี้ มีการลงนาม MOU นำนักท่องเที่ยวเกาหลีและประเทศในเครือข่ายไปใช้บริการรักษาพยาบาลสุขภาพด้าน Medical Tourism และ Wellness Tourism ในไทยจำนวน 2 ราย คือ บริษัท Happyday Tour Agent ลงนามกับบริษัทกลุ่ม Bangpakok Hospital Group และบริษัท GM 3T Korea ลงนามกับบริษัท PAI International คาดว่าจะเพิ่มการใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนไทยอีกว่า 10,000 รายต่อปี
นางพรทิวาได้หารือกับ Mr. Shin Hyun Taek, Chairman of Korean Foundation for International Culture Exchange: KOFICE ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงวัฒนธรรม ท่องเที่ยวและการกีฬาของรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี ทำหน้าที่ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมบันเทิง (Content) ผ่านทางการสนับสนุนให้เกิดการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และติดตามความคืบหน้ากิจกรรมที่ได้ดำเนินการร่วมกันรวมถึงการนำคณะศิลปินเกาหลีไปจัดคอนเสิร์ตในช่วงงาน Thailand Entertainment Expo 2009 ระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2552 และการที่จะร่วมสนับสนุนการร่วมสร้างละครไทย-เกาหลี (Co-production) ซึ่งเป็นผลจากการลงนาม KOFICE ร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออก เมื่อเดือนมีนาคม 2552 ในโอกาสนี้ บริษัท Kin Mobile Co., Ltd. บริษัทผู้จัดจำหน่าย Graphic Design, Multimedia Digital Broadcasting on Mobile และผู้ให้บริการ Internet Service ของประเทศเกาหลี ลงนาม MOU กับบริษัท Imagimax Animation & Design Studio เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายผลงานภาพยนต์การ์ตูน และเกมส์คอมพิวเตอร์ของบริษัทไทยในประเทศเกาหลี
สินค้าอาหารเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ไทยมีศักยภาพสูงในตลาดเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุ้ง และอาหารทะเล เมื่อข้อตกลงที่ไทยได้ลงนาม FTA กับเกาหลีมีผลบังคับใช้แล้ว จะส่งผลให้ไทยมีโอกาสทางการค้า สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดคืนจากคู่แข่งสำคัญ คือเวียดนามได้ ในปี 2551 ไทยส่งออกสินค้าอาหารมาเกาหลีใต้ มูลค่ากว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 14,000 ล้านบาทอย่างไรก็ตาม เกาหลี เป็นประเทศที่มีการกีดกันทางการค้าสูงอันดับต้นๆ ของโลกอนุญาตให้นำเข้าสินค้าผลไม้สดจากไทยได้เพียง 5 ชนิดเท่านั้น
ในปี 2551 การค้าระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีกับไทยมีมูลค่าประมาณ 10,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยส่งออกไปเกาหลีมูลค่า 3,670 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 และในช่วง ม.ค-เม.ย. 2552 ไทยส่งออกไปเกาหลีได้เพียง 844 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 21 สำหรับการนำเข้าในปี 2551 ประเทศไทยนำเข้าจากเกาหลี มูลค่า 6,830 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.22 ในขณะที่ช่วง ม.ค-เม.ย. 2552 ไทยนำเข้าจากเกาหลี 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าลดลงร้อยละ 27 ไทยและเกาหลี มีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีมาโดยตลอด และคาดว่าเมื่อ การจัดทำ FTA เกาหลี-อาเซียน 10 ประเทศมีผลบังคับใช้เดือนตุลาคม 2552 ซึ่งจะสามารถสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ไทยได้มากขึ้น และเป็นช่องทางสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ สำหรับผู้ส่งออกไทย
การเดินทางเยือนเกาหลีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางพรทิวา นาคาศัย) ในครั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ด้านการค้า และการลงทุนต่อนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ให้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการได้ร่วมเจรจาทางการค้าระหว่างภาคเอกชนของทั้งประเทศ จะช่วยส่งเสริมการตลาดเชิงรุก เพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยและเกาหลีใต้ได้มากขึ้น
ที่มา: http://www.depthai.go.th