พาณิชย์กระตุ้นการค้าชายแดน คึกคัก ช่วยเงินสะพัดกว่า 100 ล้าน คนทั้งไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 5 แสนคน ลาว- พม่าขนสินค้าร่วมงาน “มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง”
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยภายหลังการเปิดงาน”มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง” ณ สนามฝึกนักศึกษาวิชาทหาร อ.เมือง จ.เชียงราย ที่จะมีงานตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2552 ว่า การจัดงานในครั้งนี้คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในงานประมาณ 100 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมชมงาน 3 — 5 แสนคน เนื่องจากจะมีเพื่อนบ้านทั้งพม่า ลาวและจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด รวมถึงการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นงานใหญ่ที่ไม่เคยมีการจัดมาก่อนในจังหวัดนี้ ประกอบกับการคมนาคมที่สะดวก จะทำให้ผู้บริโภค นักท่องเที่ยวเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น
“ การจัดงานมหกรรมลุ่มน้ำโขงที่จ.อุดรธานี อุบลราชธานี มุกดาหารและเชียงราย รวม 4 ครั้งคาดว่าส่งเสริมให้มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทย- ลาวและไทย-พม่า เพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000ล้านบาท รวมทั้งผู้ประกอบการไทยจะใช้โอกาสนี้ได้รู้จักตนเองและพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น ทำให้ระบบการค้าเข้มแข็งส่งผลให้มูลค่าภาพรวมดีขึ้นตามไปด้วย” นายราเชนทร์ กล่าว
ภายในงานมหกรรมลุ่มน้ำโขงที่จ.เชียงรายครั้งที่ 4 นี้ มีผู้ประกอบการร่วมงานแสดงสินค้ากว่า 452 ประกอบด้วย สินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นสินค้าจากผู้ประกอบการไทย และสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ลาว และพม่า รวมทั้งสินค้าพื้นเมืองของจังหวัดภาคเหนือ และพบกับการแสดงจากศิลปินชั้นนำ อาทิชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต , แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์,พี สะเดิด , คอนเสิร์ต ETC คอนเสิร์ต วงมายด์ และคอนเสิร์ตสาวมาด เมกะแดนซ์ ฯลฯ และตลอดระยะเวลาการจัดงานจะมีการแจกของรางวับจำนวนมาก ให้กับผู้เข้าร่วมงาน
ทั้งนี้จากภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศมีแนวโน้มลดลง โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2552 มีสัดส่วนการส่งออกลดลง 20% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การค้าชายแดนเพื่อนบ้านอาเซียนทั้ง 4 ประเทศ ได้แก่ ลาว พม่า กัมพูชา และมาเลเซีย มีมูลค่ารวมประมาณ 3 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 25 % ของการส่งออกทั้งประเทศ กระทรวงพาณิชย์จึงมอบหมายนโยบายให้หาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ ซึ่งกรมส่งเสริมการส่งออกเห็นว่า การค้าชายแดนน่าจะช่วยกระตุ้นให้มีการซื้อขายมากขึ้นได้ จึงจัดทำโครงการมหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขงปี 2552 ในจังหวัดที่มีการติดต่อซื้อขายตามแนวชายแดน
งานมหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขงปี 2552 ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สานสัมพันธ์การค้าระหว่างประเทศ ส่งเสริมการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคในภูมิภาคได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพส่งออกที่หลากหลาย ลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
“ การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องนับเป็นการส่งเสริมสร้างแบรนด์ ส่งเสริมให้ผู้บริโภคจดจำสินค้า ทำให้เกิดการค้าลงทุนแบบยั่งยืน ผนวกกับการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้เพิ่มมูลค่าสินค้าบริการมากขึ้นเกิดการจับจ่ายใช้สอยหมุนเวียนกันในระบบเศรษฐกิจ”นายราเชนทร์กล่าว
ที่มา: http://www.depthai.go.th