ไข้หวัดเม็กซิโกกับการส่งออกของไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 29, 2009 15:11 —กรมส่งเสริมการส่งออก

จากการที่ประเทศเม็กซิโก เป็นประเทศแรกที่เกิดการแพร่ระบาดเชื้อโรคไข้หวัดหมู (swine flu)หรือไข้หวัดเม็กซิโก ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 149 คนแล้วในขณะนี้ และแพร่กระจายไปยังสหรัฐฯ แคนาดา รวมถึงสเปนซึ่งเป็นประเทศแรกในยุโรปที่มีผู้ติดเชื้อ และยังมีข่าวแพร่กระจายไปในอีกหลายประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส และอิสราเอล ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยไวรัสจากระดับ 3 เป็น ระดับ 4 แล้ว คือมีการติดต่อจากคนไปสู่คน

ทั้งนี้ ไข้หวัดเม็กซิโกเป็นโรคทางเดินหายใจที่พบในหมู มีสาเหตุมาจากไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ ส่วนการระบาดของไข้หวัดเม็กซิโกในครั้งนี้ มีการยืนยันว่าเป็นการแพร่เชื้อจากคนสู่คน ผู้ป่วยบางรายในขณะนี้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ สายพันธุ์ H1N1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์พิเศษในแบบที่พบทั้งในคน นก และหมู ไวรัส H1N1 ในรูปแบบใหม่นี้อาจเกิดจากการผสมของไวรัสหลายสายพันธุ์รวมกัน

โดยในหลายประเทศ เช่น จีน รัสเซีย เซอร์เบีย เกาหลีใต้ ได้ประกาศห้ามนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากเม็กซิโกและบางรัฐของสหรัฐแล้วโดยให้มีผลทันทีซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันเชื้อไข้หวัดเม็กซิกันแพร่เข้าสู่ประเทศ และมีการติดตั้งเครื่องสแกนเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินหลัก เพื่อตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้า และประกาศเตือนให้เลี่ยงการเดินทางไปยังเม็กซิโกโดยไม่จำเป็น

สำนักงานเลขาธิการอาเซียน มีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไข้หวัดเม็กซิโกมีการประสานนโยบายด้านสาธารณสุขของประเทศในอาเซียน 10 ประเทศ เพื่อช่วยกันหาแนวทางการรับมือรวมถึงควบคุมการแพร่ระบาดและมาตรการแก้ไขปัญหา หากเกิดการแพร่ระบาดในภูมิภาค ซึ่งขณะนี้เรามีวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกที่คล้ายกับไข้หวัดที่แพร่ระบาดอยู่ในตอนนี้ประมาณ 5 แสนโด๊ส ถูกเก็บไว้ในคลังยาที่สิงคโปร์ ภายใต้ความช่วยเหลือของญี่ปุ่น วัคซีนดังกล่าวจะสามารถนำออกมาให้ช่วยเหลือประชาชนในภูมิภาคอาเซียนได้ทันที อย่างไรก็ตามการแสดงถึงความพร้อมของอาเซียนในการจัดการกับการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดเม็กซิโก มีผลในแง่จิตวิทยาที่จะสร้างความเชื่อมั่นในด้านการค้า การส่งออก และการท่องเที่ยว

ความเคลื่อนไหวในประเทศไทย

ในส่วนของภาครัฐ ขณะนี้รัฐบาลไทยยังไม่มีมาตรการห้ามคนไทยเดินทางไปยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดในเม็กซิโก แต่จะให้ข้อมูลเตรียมความพร้อมในการปฎิบัติ ขณะที่จะมีมาตรการเข้มงวดกับบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด โดยต้องเข้าสู่กระบวนเฝ้าระวังตามที่กระทรวงสาธารณสุขวางมาตรการไว้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้รับทราบระบบเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งประสานกับองค์การอนามัยโลก(WHO) อย่างใกล้ชิด เพื่อวางวิธีป้องกันให้ดีที่สุดตั้งแต่ต้นทางจนถึงประเทศไทย

จากสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดเม็กซิโกได้ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการบริโภคของประชาชน ซึ่งจะส่งผลทำให้ราคาเนื้อหมูที่มีราคาแพงอยู่ขณะนี้ปรับราคาลดลง แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกันรณรงค์บริโภคเนื้อหมูในประเทศว่ามีความปลอดภัย

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่าผลกระทบจากปัญหาไข้หวัดหมูในเม็กซิโกที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการบริโภคในประเทศไทยเนื่องจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเม็กซิโก ไม่เกี่ยวกับสุกรแต่อย่างใด เนื่องจากการเลี้ยงสุกรของประเทศไทยได้มีการพัฒนาการเลี้ยงขึ้นมามาก เพื่อให้สอดคล้องกับการก้าวเข้าสู่มาตรฐานอาหารปลอดภัย (Food Safety) ตามนโยบายของรัฐบาลและต้องการให้รัฐบาลสั่งงดการนำเข้าเครื่องในและชิ้นส่วนสุกร รวมทั้งพ่อแม่พันธุ์สุกรจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลียทันทีเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดโรคระบาดที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการนำเข้าไว้ก่อนในขณะที่อธิบดีกรมควบคุมโรค และนักวิชาการ ต่างออกมายืนยันแล้วว่าการรับประทานเนื้อสุกรปรุงสุกไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาททางผู้เลี้ยงสุกรควรจะระมัดระวังการเข้าออกฟาร์มอย่างเต็มที่ไม่ให้เชื้อโรคติดเข้าไปในฟาร์ม สำหรับภาวะราคาเนื้อสุกรขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการระบาดข้างต้น แต่เป็นเรื่องปกติของสินค้าปศุสัตว์ ที่ในช่วงหน้าร้อน สุกรจะกินอาหารน้อย โตช้า และมีความเสียหายสูงจากสภาพอากาศ ซึ่งสามารถดูกราฟย้อนหลังได้ เพราะทุกปีจะเป็นอย่างนี้ ที่หมูจะมีราคาแพงในช่วงหน้าร้อน

ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มองว่ากรณีไข้หวัดเม็กซิโกกระทรวงสาธารณสุข และการท่าอากาศยานได้เตรียมการทำระบบรองรับเอาไว้แล้วไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแต่ในทางกลับกันน่าจะสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับประเทศไทยมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวน่าจะมีความเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยของไทยในการบริหารจัดการไข้หวัดนกรวมถึงโรคซาร์ที่ผ่านมา

ด้านการส่งออกของไทย

ขณะนี้อุตสาหกรรมสายการบินอยู่ในภาวะเปราะบางเนื่องจากมาร์จิ้นที่เดิมน้อยอยู่แล้วนั้นมีแนวโน้มว่าจะน้อยลงอีกเพราะจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศน้อยลง และการแพร่ระบาดของไข้หวัดเม็กซิโกจะยิ่งทำให้จำนวนเที่ยวบินหดตัวลงอีก ขณะที่การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยคาดว่าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป ในส่วนของน้ำมันเจทซึ่งใช้สำหรับเครื่องบินจะมีแนวโน้มการส่งออกที่ลดลง

โอกาสทางการค้า

ตามที่หลายประเทศ ได้ประกาศห้ามนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากเม็กซิโก บางรัฐของสหรัฐและแคนาดา นับว่าเป็นโอกาสดีในการส่งออกเนื้อหมูของไทย ซึ่งมีระบบป้องกันโรคสุกรอย่างเข้มงวดภายในฟาร์มระบบปิด ทั้งยังมีมาตรฐานการจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์อยู่ในระดับสูง เป็นที่ยอมรับขององค์การสากลระหว่างประเทศ รวมถึงระบบมาตรฐานอาหารปลอดภัย (Food Safety) ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

แม้ว่าหลายฝ่ายออกมายืนยันว่าโรคไข้หวัดเม็กซิโก เป็นโรคที่เไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับสุกร และเป็นโรคติดต่อจากคนสู่คนเท่านั้น ซึ่งในคนไม่เกี่ยวกับหมู แต่ผู้บริโภคบางส่วนก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่กินหมู เนื่องจากมีอาหารชนิดอื่นให้เลือกรับประทานมากมาย ดังนั้นจึงนับเป็นโอกาสทางการตลาดสำหรับสินค้าอาหารของไทยซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของตลาดโลก ได้แก่ อาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์จากอาหารกระป๋อง ไก่ปรุงสุก เป็นต้น

เม็กซิโกมียอดการส่งออกสุกรสด/แช่เย็นแช่แข็ง สำหรับในปี 2551 (มค-ธค.) มูลค่า 325.217 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการส่งออกใน 10 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ คิวบา บราซิล แคนาดา ไต้หวัน และเอลซาวาดอร์ เป็นต้น

สหรัฐฯมียอดการส่งออกสุกรสด/แช่เย็นแช่แข็งสำหรับในปี 2551 (มค-ธค.) มูลค่า 3,789.158 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการส่งออกใน 10 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น เม็กซิโก แคนาดา รัสเซีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ เป็นต้น

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ