รายงานสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภาวะการค้าของสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 16-30 มิถุนายน 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 10, 2009 13:00 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ก. ภาวะเศรษฐกิจ/การค้าทั่วไป

1. International Enterprise Singapore ได้ประกาศการค้ารวมระหว่างประเทศของสิงคโปร์ ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2552 มีมูลค่า 281,799.81 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ -27.65 โดยการค้าลดลงจากประเทศคู่ค้าสำคัญ 10 อันดับแรกคือ (1) มาเลเซีย มูลค่า 30,876.47 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ลดลงร้อยละ -34.90 (2) จีน มูลค่า 27,940.32 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ -25.09 (3) สหรัฐฯ มูลค่า 26,491.29 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ -28.64 (4) อินโดนีเซีย มูลค่า 22,319.46 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ -27.03 (5) ฮ่องกง มูลค่า 18,154.99 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ -19.35 (6) ญี่ปุ่น มูลค่า 16,314.13 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ -35.65 (7) เกาหลีใต้ มูลค่า 13,692.43 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ -26.89 (8) ไต้หวัน มูลค่า 10,603.15 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ -30.50 (9) ไทย มูลค่า 9,730.69 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ -30.38 และ (10) อินเดีย มูลค่า 9,059.79 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ -29.74

2. ส่วนการค้ากับประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2552 โดยสิงคโปร์นำเข้าจากไทยมูลค่า 4,210.71 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ -31.40 สัดส่วนตลาดร้อยละ 3.12 (ประเทศคู่ค้านำเข้าอันดับ 1 คือ สหรัฐฯ รองลงมาได้แก่ มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฝรั่งเศส ซาอุดิอาระเบีย เยอรมนี และไทย-อันดับที่ 11 ซึ่งนำเข้าจากทุกประเทศข้างต้นลดลง ยกเว้น ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.97) และสิงคโปร์ส่งออกไปยังไทยมูลค่า 5,519.98 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ -29.57 สัดส่วนตลาดร้อยละ 3.76 (ประเทศคู่ค้าส่งออกอันดับ 1 คือ ฮ่องกง รองลงมาได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน สหรัฐฯ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย และ ไทย-อันดับ 10 ซึ่งส่งออกไปยังทุกประเทศข้างต้นลดลง)

3. สำหรับการส่งออกในเดือนพฤษภาคม 2552 ลดลงเล็กน้อย โดย International Enterprise Singapore ได้ประกาศข้อมูลการส่งออกสินค้าต่างๆ ดังนี้ (1) สินค้าทั่วไป(ไม่ใช่น้ำมัน) ลดลงร้อยละ 12.1 (2) สินค้าอิเล็คทรอนิกส์ ลดลงร้อยละ 21.8 และ (3) สินค้าที่ไม่ใช่อิเล็คทรอนิกส์(รวมเภสัชภัณฑ์และปิโตรเคมี) ลดลงร้อยละ 5.6 ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าทั่วไป(ไม่ใช่น้ำมัน)ไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญๆลดลงอย่างมาก ได้แก่ สหรัฐฯ มาเลเซีย และญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี การส่งออกไปยังสหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และอินเดียมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

4. ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสิงคโปร์ในเดือนพฤษภาคม 2552 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 (เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) แม้ว่าผลผลิตจะลดลงร้อยละ 1.6 ก็ตาม ทั้งนี้ Mr. Lim Hng Kiang รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์สร้างความมั่นใจให้แก่บริษัทนานาชาติและ SMEs ว่า ภาคการผลิตเป็นภาคสำคัญในการส่งเสริมให้เศรษฐกิจมีการเจริญเติบโต แม้ว่าความต้องการสั่งซื้อจากต่างประเทศจะลดลง และอัตราการจ้างงานของภาคการผลิตในช่วงไตรมาสแรก (มค.-มีค.) ของปี 2552 ลดลงประมาณ 22,100 อัตรา แต่การผลิตสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ ในเดือนพฤษภาคม 2552 มี PMI (Purchasing Managers’ Index) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 52.9 (เมษายน 51.6) อย่างไรก็ดี Singapore Manufacturers’ Federation จะดำเนินการร่วมกับภาครัฐในการศึกษาและร่างแผนการ/แนวโน้มการผลิตของประเทศสำหรับ 5 ปีข้างหน้าเพื่อช่วยให้ผู้ผลิตมองเห็นทิศทางในการดำเนินธุรกิจในอนาคต

5. การค้าปลีกในเดือนเมษายน 2552 ลดลงร้อยละ 11.7 นับเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ ผ่านมสินค้าที่ลดลงมาก ได้แก่ รถยนต์ (ลดลงร้อยละ 10.2) อุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคม (ร้อยละ -12.1) ยกเว้นนาฬิกาและเครื่องประดับ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.3 อนึ่ง คาดว่า การค้าปลีกในเดือนต่อๆไปจะลดลงอีก เนื่องจากอัตราการว่างงานจะสูงขึ้นประมาณร้อยละ 4- 4.5 และค่าจ้าง/เงินเดือนจะลดลงอีกร้อยละ 3.7

6. Department of Statistics (DOS) ได้ประกาศดัชนีผู้บริโภค (CPI) ในเดือนพฤษภาคม 2552 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 (เทียบกับเดือนเมษายน 2552) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกหลังจากช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ราคาสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ รถยนต์ และน้ำมัน(ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2552 เพิ่มขึ้น 20 เซนต์/ลิตร) ทำให้ค่าใช้จ่ายเดินทางและค่าสินค้าบริโภคเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อปี 2552 จะอยู่ที่ร้อยละ -1 ถึง 0.2

7. ภาคการเดินเรือของสิงคโปร์มีการขยายตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม 2552 ซึ่งจากการจดบันทึกของ Maritime and Port Authority (MPA) ปรากฎว่า เรือเดินทะเลเข้าเทียบท่าสิงคโปร์จำนวน 2.099 million standard-sized containers (เดือนเมษายน 2552 จำนวน 2.085 million containers) ทั้งนี้ การขนถ่ายคอนเทนเนอร์ทั่วโลกคาดว่าจะชะลอตัวลงร้อยละ 2.8 ในปี 2552

8. การจ้างงานในช่วงไตรมาสแรก(มค.-มีค.) ของปี 2552 ซึ่ง Ministry of Manpower ประกาศอัตราการจ้างงาน ดังนี้ (1) ภาคการผลิต ลดลง 22,100 อัตรา (2) ภาคการบริการ เพิ่มขึ้น 7,500 อัตรา และ (3) ภาคการก่อสร้าง เพิ่มขึ้น 8,300 อัตราดังนั้น ส่งผลให้การจ้างงานรวมลดลง 6,200 อัตรา

9. ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติ จากการสำรวจของ Investment Intentions Asia Survey 2009 แสดงให้เห็นสัดส่วน ความสนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติในสิงคโปร์เพียงร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับจีน (ร้อยละ 90) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 55) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 42) เกาหลีใต้/ฮ่องกงและอินเดีย (ร้อยละ 18)

10. Mr. Goh Chok Tong, Senior Minister ได้คาดการณ์สถานการณ์ภาคการเงิน/ การธนาคารในสิงคโปร์ว่า จะกลับฟื้นตัวและมีความสดใสขึ้น เพียงแต่ว่าทุกฝ่ายต้อง ปรับตัวให้เข้ากับสภาวะจริงในปัจจุบัน เพื่อจะทำให้สิงคโปร์ยังคงเป็นผู้นำศูนย์กลางการเงิน/การคลังต่อไป เนื่องจากสิงคโปร์ตั้งอยู่ในจุดที่เป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตของเอเชีย ซึ่ง Mr. Goh ได้ให้นโยบาย 5 ประการคือ (1) สิงคโปร์ต้องคงไว้ซึ่งกฎ/ระเบียบที่ดี ไม่ซับซ้อน และเพื่อความก้าวหน้า (2) ควรหาโอกาสจากการเจริญเติบโตของเอเชีย และแสดงให้เห็นการลงทุนที่โปร่งใส (3) ให้ความสำคัญด้านความต้องการโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย ซึ่งจะมีความก้าวหน้าต่อไปอีกใน 10 ปีข้าง ในมูลค่าประมาณ 11.6 ล้านล้านเหรียญสิงคโปร์ (4) ยกระดับ/เพิ่มคุณค่าความสามารถการจัดการความเสี่ยงและโครงสร้างการตลาด ซึ่งสิงคโปร์มีศักยภาพในการเป็นผู้นำ (5) ควรใช้ความได้เปรียบในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อที่จะสร้างเครือข่ายผู้ชำนาญการด้านการเงิน/การคลัง และมีระบบใหม่เพื่อกระตุ้นการสร้างงานและโอกาสแก่เด็กรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมต่างๆ

11. Media Development Authority of Singapore (MDA) ได้เปิดตัว Singapore Media Fusion Plan (SMFP) แผนการพิมพ์เขียวสื่อสารมวลชนแห่งชาติ โดยใช้พื้นฐานจาก Media 21 Plan และจะส่งเสริมให้ การเปลี่ยนแปลงของประเทศให้สร้างศักยภาพแก่เศรษฐกิจโดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งมีนโยบายสำคัญ 3 ประการ คือ (1) มุ่งเน้นการจัดหาสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจการสื่อสาร (2) การวิจัยและการพัฒนาเพื่อช่วยภาคการสื่อสารให้ได้รับความสำเร็จและมีโอกาสด้าน digital media value chain และ (3) สร้างให้สิงคโปร์มี เครือข่ายไปทั่วโลกเพื่อยกระดับเสริมสร้างผลงานและการบริการ ของบริษัทสิงคโปร์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่ง MDA ให้เงินสนับสนุน ประมาณ 230 ล้านเหรียญสิงคโปร์เพื่อผลักดันการริเริ่มผลงาน นอกจากนี้ MDA ได้ให้ความร่วมมือกับ SingTel มีนโยบายส่งเสริมความสามารถการจัดหาสื่อของ สิงคโปร์ โดยมี SingTel’s Broadcast Innovation Centre (BIC) ต่อเนื่องไปยัง Mediapolis@one-north เพื่อส่งเสริมให้เป็น gateway ที่มีศักยภาพในการสื่อสารโทรคมนาคมไปยัง media centre ทั่วโลกให้ได้รับข้อมูลของสิงคโปร์ผ่าน satellite และ terrestrial fibre networks.

12. Ministry of Information, Communications and the Arts (MICA)ได้จัดให้บริการอินเตอร์เน็ท Wireless@SG (ปรแกรมเปิดตัวเมื่อปี 2549 มีจุดต่ออินเตอร์เน็ทถึง 7,500 จุดทั่วประเทศและมีผู้ใช้ประมาณ 1.3 ล้านคน ถึงปัจจุบันนี้ MICA ได้ประกาศการขยายเวลาโปรแกรม Wireless@SG ต่อไปอีกจนถึงเดือนมีนาคม 2556 เพื่อส่งเสริมให้จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ทเพิ่มมากขึ้น และภาครัฐสามารถใช้บริการของระบบดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ต่อการเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆจากประชาชนผ่าน Wireless@SG อีกด้วย ข. ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ

1. สิงคโปร์กับอิตาลี

Mr. Adolfo Urso, Deputy Minister of International Trade ของอิตาลี ได้นำคณะผู้แทนการค้าอิตาลีเยือนสิงคโปร์และได้เข้าเยี่ยมคารวะ Mr. Goh Chok Tong, Senior Miniser ของสิงคโปร์ นอกเหนือจากการปรึกษาหารือด้านความสัมพันธทางการทูต และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าแล้ว ยังหารือถึงการที่ สิงคโปร์สามารถเป็นฐานของบริษัทอิตาลีในการค้า-ขายกับประเทศที่สิงคโปร์มีเครือข่าย เช่น จีน อินเดีย และเวียดนาม อีกด้วย 2.สิงคโปร์กับ Botswana Mr. Seretese Khama Ian Khama, President of Botswana ได้เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการและเยี่ยมคารวะ Mr. S R Nathan, President สิงคโปร์ และนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง อีกทั้งได้พบ Mr. Lim Hng Kiang, Minister for Trade and Industry และ Mr. Mah Bow Tan, Minister for National Development นอกจากนี้ ได้เป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือการส่งเสริมด้านการค้าระหว่าง Singapore Business Federation (SBF) และ Botswana Export and Development Investment Authority ให้บริษัทสิงคโปร์สามารถดำเนินธุรกิจใน Botswana และประเทศอื่นๆในภูมิภาค ได้แก่ Angola, Malawi, Mozambique, Swaziland, Tanzania, Zambia และZimbabwe เนื่องจาก Botswana มีเครือข่ายร่วมกับ Southern African Development Community และ the Southern African Customs Union ทั้งนี้ การค้ารวมระหว่างสิงคโปร์กับ Botswana ในปี 2551 มีมูลค่า 19.8 ล้านเหรียญสิงคโปร์ สินค้าสำคัญที่สิงคโปร์ส่งออก ได้แก่ รถยนต์ และ เครื่องมือ/อุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคม นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังสามารถให้บริการด้านการท่องเที่ยว สุขอนามัย การศึกษา และการเงิน/การธนาคาร อีกด้วย 3.สิงคโปร์กับเกาหลีใต้ Mr. Yu In Chon, Minister for Culture, Sports and Tourism ของเกาหลีใต้ ได้ประกาศการจัดตั้ง Korean Culture Centre ในสิงคโปร์ ตามคำแนะนำของ Mr. Lee Hsien Loong, นายกฯสิงคโปร์ คาดว่า จะสร้างแล้วเสร็จในปี 2553 อนึ่ง ศูนย์ฯ ได้จัดตั้งแล้วในภูมิภาค เอเชียเหนือ ยุโรป และ

ค. การลงทุนในสิงคโปร์

1. National University of Singapore (NUS) และ GE Singapore ได้ร่วมมือลงทุนในการสร้าง NUS-GE Singapore Water Technology Centre เป็นศูนย์ความร่วมมือการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับน้ำเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อพัฒนาการผลิตน้ำดื่มที่ปลอดภัยและประหยัด โดยศูนย์ฯ มีมูลค่า 150 ล้านเหรียญสิงคโปร์ สร้างบนพื้นที่ 2,700 ตารางเมตร และมีนักวิจัย/นักวิทยาศาสตร์จำนวน 37 คน ทั้งนี้ จะได้รับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ 70 ล้านเหรียญสิงคโปร์ และการวิจัยส่วนใหญ่มุ่งเน้นการแยกส่วนที่เป็นเกลือออกจากน้ำโดยใช้พลังงานน้อยที่สุด รวมถึงการสำรวจพลังงานแสงแดดและการเสาะหาพลังงานตัวเลือกอื่นๆเพื่อใช้เทคโนโลยีปรับให้น้ำสะอาดบริสุทธิ์

2. หน่วยงาน Public Utilities Board สิงคโปร์ ได้ลงทุนสร้าง The Changi Water Reclamation Plant (CWRP) ณ เขต Changi เพื่อทำให้สิงคโปร์มีน้ำใช้โดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้า ซึ่งเป็นการสร้างระบบ Deep Tunnel Severage System (DTSS) ประกอบด้วยอุโมงค์ยาว 48 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังสร้าง The Changi NEWater factory ด้านบนของ CWRP สำหรับผลิตน้ำเสียให้เป็นน้ำดี ซึ่งคาดว่า สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำได้อีกร้อยละ 30

3. บริษัท Eurocopter SEA เดิมบริษัทตั้งอยู่ที่ Loyang Way ใกล้ๆ Changi Point ได้ลงทุนเปิดสำนักงานใหม่ ณ Seletar Aerospace Park ของสิงคโปร์ บนเนื้อที่ 8,200 ตารางเมตร มูลค่าการก่อสร้าง 13.1 ล้านเหรียญสิงคโปร์ บริษัทฯให้บริการบำรุงรักษาเฮลิคอปเตอร์ 300 ลำ ซึ่งรวมถึงรุ่น Super Puma ของ หน่วยกำลังพลทหารสิงคโปร์ด้วย อนึ่ง สิงคโปร์ได้มุ่งมั่นสร้างให้ Seletar Aerospace Park เป็น Aviation Hub อย่างเต็มตัวภายในปี 2018 พร้อมกับการสร้างงานจำนวน 10,000 อัตรา ทั้งนี้ ในปี 2551 อุตสาหกรรมด้านการบินของสิงคโปร์มีมูลค่าเกิน 7 พันล้านเหรียญสิงคโปร์

4. กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์สร้าง Health-care Hub ในด้านเหนือของสิงคโปร์ โดยสร้างโรงพยาบาล Khoo Teck Puat Hospital (KTPH) บนพื้นที่ 3.4 เฮกตาร์ จำนวนเตียง 550 เตียง นอกจากนี้ กำหนดสร้าง Nursing Home อีก 2 แห่ง (Villa Francis Nursing Home และ Singapore Christian Home) ในปี 2012 และ Community Hospital ในปี 2013

ง. การลงทุนในต่างประเทศ

1.สิงคโปร์ได้ร่วมลงทุนและเปิดตัว Suzhou-Nantong High Tech Park ในเมือง Nantong มลรัฐ Jiangsu ของจีน ซึ่งเป็นผลงานชิ้นสำคัญในความร่วมมือระหว่าง Sino-Singaporean และต่อมา Singapore-Chinese Chamber of Commerce and Industry ได้จัดสัมมนา Singapore-Nantong Investment Promotion Seminar ในสิงคโปร์ ซึ่งคณะผู้แทนจาก Nantong ได้เชิญชวนให้บริษัทสิงคโปร์เข้าไปลงทุนด้านโลจิสติกส์ Information Technology และ Petrochemicals ทั้งนี้ ถึงปัจจุบัน บริษัทสิงคโปร์จำนวน 224 บริษัท ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจใน Nantong ซึ่งรวมถึงบริษัทใหญ่ๆ เช่น Cosco Shipyard Group and Keppel Corp มีมูลค่าการลงทุน 573 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าการค้าระหว่างสิงคโปร์กับ Nantong ในปี 2551 รวม 437 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

2.International Enterprise Singapore ได้แนะนำให้บริษัทสิงคโปร์เข้าไปลงทุนในรัสเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่ยังสามารถทำรายได้ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม เนื่องจาก Regional and Municipal Governments, Federal Agencies และภาคเอกชน ในรัสเซียให้ความสนใจที่จะเชิญชวนชาวต่างชาติให้เข้าไปลงทุนในโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งประมาณมูลค่าถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และตลาดที่มีประชากรถึง 140 ล้านคน ทั้งนี้ รัสเซียประสงค์ให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในเมืองอื่นๆนอกเหนือจาก Moscow และ St Petersburg

3. การเข้าไปลงทุนในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงเศรษฐกิจถดถอย โดยในช่วงไตรมาสแรก (มค.-มีค.) ของปี 2552 มีการเจริญเติบโตร้อยละ 4.4 ดังนั้นInternational Enterprise Singapore ได้จัดตั้ง Network Indonesia สำหรับ SMEs ซึ่งเป็นการจัดตั้งโครงสร้างเครือข่ายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก มีจุดมุ่งหมายในการประสานงาน สร้างเครือข่ายในกลุ่มบริษัทสิงคโปร์ที่มีความสนใจลงทุนในอินโดนีเซีย และจัดคณะผู้แทนการค้าเยือนอินโดนีเซียด้วย ทั้งนี้ บริษัทสิงคโปร์ที่ได้เข้าไปลงทุนในอินโดนีเซียแล้ว ได้แก่ Keppel Land, Ya Kun และ Charles & Keith เมืองที่น่าสนใจ ได้แก่ Riau Islands (ซึ่งได้อนุมัติให้ Batam, Bintan และ Karinum เป็นเขต Free Trade Zone) และ Surabaya จ. ข่าวโรคไข้หวัด Influenza A (H1N1-2009)

1. ผู้ติดเชื้อโรคไข้หวัด H1N1-2009 ในสิงคโปร์ ถึง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 มีจำนวน 659 ราย โดยครั้งแรก จากสหรัฐฯ 26 ราย ต่อมาจากออสเตรเลีย 56 ราย และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากประเทศในอาเซียน มากกว่า 30 ราย ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศมีมากกว่าที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นสถานการณ์ที่พึงเฝ้าระวังอย่างมาก คาดว่า จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และจะมีผู้เสียชีวิต 2-3 คนในทุกๆ 1,000 คนที่ติดเชื้อ ทั้งนี้ ความร้ายแรงของ H1N1 สูงเป็น 4 เท่าของไข้หวัดทั่วไป และ World Health Organization คาดว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรแต่ละประเทศจะ ติดเชื้อไข้หวัด H1N1-2009

2. ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2552 กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ได้ขึ้นบัญชีประเทศที่เกิดการระบาดของเชื้อโรคไข้หวัด H1N1-2009 จำนวน 15 ประเทศ คือ (1) อาร์เจ็นตินา (2) ออสเตรเลีย (3) แคนาดา (4) ชิลี (5) สาธารณรัฐโดมินิกัน (6) ฮ่องกง (7) อินโดนีเซีย (8) ญี่ปุ่น (9) เม็กซิโก (10) ปานามา (11) ฟิลิปปินส์ (12) สเปน (13) ไทย (14) สหราชอาณาจักร และ (15) สหรัฐฯ

3.มาตรการการควบคุม

3.1 ตรวจอุณหภูมิร่างกายผู้เดินทาง ณ ด่านเข้า-ออก

3.2 ระกาศข่าวเกี่ยวกับโรคไข้หวัด H1N1-2009 ให้ประชาชนทราบทุกวัน

3.3 ให้คำแนะนำด้านสุขอนามัย และเตือนให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากผู้ป่วยเป็นหวัดเล็กน้อย เมื่อพบแพทย์แล้ว ให้พักอยู่ที่บ้าน

3.4 เมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อ ส่งเข้ารักษาในโรงพยาบาล และควบคุมสุขอนามัยผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อเป็นเวลา 7 วัน

3.5 โรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมในการตรวจสอบการติดเชื้อ และโรงพยาบาลทุกแห่งสามารถให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ติดเชื้อโรค H1N1-2009

3.6 สถานพยาบาลอื่นๆ เช่น Polyclinic หรือ Clinic ทั่วไป จำนวน 500 แห่ง ได้รับแต่งตั้งให้เป็น Pandemic Preparedness Clinics โดยมีป้าย “H1N1 Ready” และให้การรักษาโดยสั่งยาให้ และควบคุมสุขอนามัยระยะหนึ่งสำหรับผู้ป่วยไม่ติดเชื้อรุนแรง ส่วนผู้ป่วยที่ติดเชื้อรุนแรงจะนำส่งโรงพยาบาลทันทีโดยรถพยาบาลพิเศษ

3.7 ปิดสถานทำการต่างๆ เช่น โรงเรียน โรงงาน สำนักงานฯ ประมาณ 7-15 วัน หากมีผู้ติด

ฉ. งานแสดงสินค้าในสิงคโปร์

สิงคโปร์กำหนดเป็นเจ้าภาพงาน Global Space and Technology Convention (GSTC) and Satellite Technology Asia (SATTECH) and DTC Conferences ระหว่างวันที่ 28 -30 มกราคม 2553 ซึ่งถือเสมือนเป็น Space Mega Event คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจากภูมิภาคและนานาชาติประมาณ 500 ราย และงานนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก Singapore Economic Development Board นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนจาก Ukraine Space Agency และ Israel Aerospace Industries Space Division เข้าร่วมงานด้วย

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ