มวยไทยในประเทศอิตาลีถือเป็นอีกกีฬาหนึ่งที่กำลังเป็นที่น่าสนใจและได้รับความนิยมจากชาวอิตาเลียนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ วัยรุ่นและเด็ก เพราะถือเป็นกีฬาที่เน้นใช้ศิลปะในการป้องกันตัวที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ พบว่าจำนวนผู้หญิงหันมาให้ความสนใจการออกกำลังกายในรูปแบบของการใช้ศิลปะในการป้องกันตัวเพิ่มมากขึ้น นอกจากมวยไทยแล้วอิตาลียังให้ความสนใจในกีฬารูปแบบอื่น ๆ ที่มีต้นแบบมาจากประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี โดยมีการเน้นใช้ศิลปะในการป้องกันตัว เช่น ยูโด คาราเต้ กังฟู มวยญี่ปุ่น เป็นต้น
ในปี 2008 จากข้อมูลของสมาคมอิตาเลียนมวยไทย (Federazione Italiana Muay Thai) ได้เปิดเผยถึงจำนวนของโรงฝึกและศูนย์ฝึกสอนมวยไทยที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 250 แห่ง โดยจำนวนดังกล่าวทางสมาคมฯ ได้กล่าวชื่นชมถึงการให้ความสำคัญและการพัฒนาอย่างจริงจังและต่อเนื่องของศูนย์ฝึกและผู้ฝึก ส่งผลให้สมาคมฯ กลายเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับอย่างรวดเร็วในประเทศอิตาลี นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังคาดหวังไว้สำหรับ ปี 2009 ไม่ว่าจะเป็นจำนวนกิจกรรมการแข่งขัน คอร์สฝึกมวยไทยและจำนวนของศูนย์ฝึกมวยไทยจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
สมาคมอิตาเลียนมวยไทย (Federazione Italiana Muay Thai) ถือเป็นสมาคมเดียวที่ได้รับความยอมรับจากรัฐบาลไทยโดยผ่านทาง WMC (World Muay Thai Council) IFMA (International Federation of Muay Thai Amateur) GAISF (General Association of International Sports Federations) นอกจากนี้ ถ้าในอนาคตกีฬามวยไทยได้รับเลือกบรรจุให้เป็นกีฬาโอลิมปิก นักชกอิตาเลียนที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ก็สามารถที่จะเข้าร่วมการแข่งขันได้
ทางสมาคมฯ ได้มีการจัดกิจกรรมการชกมวยไทยกับหลายประเทศ ได้แก่ มวยไทยสมัครเล่น มวยไทยสำหรับการออกกำลังกาย และมวยไทยมืออาชีพ เป็นต้น ระหว่างปี 2007- 2008 ทางสมาคมฯ ได้มีการจัดกิจกรรมและจัดการเข้าร่วมการแข่งขันชกมวยไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
1. การแข่งขันในประเทศอิตาลี จำนวน 30 รอบ
2. การแข่งขันในต่างประเทศสำหรับนักชกมืออาชีพ จำนวน 15 รอบ
3. การแข่งขันในต่างประเทศสำหรับนักชกมือสมัครเล่น จำนวน 45 รอบ
1. การแข่งขันชกมวยไทยระดับโลก IFMA 2007 (International Federation of Muay Thai Amateur) จัดที่ประเทศไทย โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 110 ประเทศ
2. การแข่งขันชกมวยไทยระดับยุโรป IFMA (ประเภทเดี่ยว) จัดที่ประเทศเยอรมัน มีจำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 33 ประเทศ
3. การแข่งขันชกมวยไทยระดับยุโรป IFMA (ประเภททีม) จัดที่ประเทศโปแลนด์
4. การแข่งขันชกมวยไทย King’s Cup และ S1 จัดที่ประเทศไทย
5. การแข่งขันชกมวยไทย WMC (World Muay Thai Council) โดยจัดขึ้นในหลายประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง สิงค์โปร์ มาเก๊า ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ยูเครน กาตาร์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน สาธารณรัฐเบลารุส สาธารณรัฐไซปรัส เป็นต้น
อิตาลีได้มีการนำเข้าอุปกรณ์กีฬามวยไทยจากประเทศไทย เช่น กางเกงมวย ถุงเท้า นวม สนับเข่า สนับแขน ที่รัดข้อมือ ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกาย อุปกรณ์ป้องกันตัว อุปกรณ์และเครื่องอำนวยความสะดวกในการฝึก เป็นต้น
บริษัท Yokkao จำกัด เป็นผู้นำเข้ารายหนึ่งในอิตาลีที่นำเข้าอุปกรณ์มวยไทย โดยทางบริษัทฯ ได้นำเข้าผลิตภัณฑ์หลากหลายยี่ห้อ ได้แก่ Twins Special, Raja Boxing, King Professional Boxing Equipment Tuff Thai Boxing เป็นต้น มาตราฐานในการดำเนินธุรกิจ
มาตราฐานสำหรับชาวอิตาเลียนที่ต้องการที่จะเป็นครูฝึก ครูให้คำปรึกษาด้านเทคนิคและผู้ช่วยครูฝึกมวยไทย ทางสมาคมฯ ได้มีการจัดคอร์สฝึกสอนขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์กร Alleanza Sportiva Italiana (ASI) และ Comitato Olimpico Nazionale Italianao (CONI) โดยผู้สนใจในการเข้ารับฝึกสอนนั้นจะต้องมีประสบการณ์ในด้านกีฬาสำหรับการป้องกันตัวจำนวน 6 ปีในด้านการฝึกหัด (Practice) ซึ่งใบประกาศนียบัตรในการฝึกนั้นถือเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
จากศูนย์ฝึก Muay Thai Connection ตั้งอยู่ที่เมืองโรม ได้เปิดเผยรูปแบบและมาตราฐานของมวยไทย โดยจะเน้นรูปแบบการฝึกสอนที่เอื้ออำนวยความสะดวกแก่ชีวิตประจำวันของชาวอิตาเลียนที่มีเวลาอย่างจำกัด จากงานและครอบครัว จึงทำให้ผู้ฝึกหัดมวยไทยไม่สามารถทุ่มเทเวลาได้เหมือนการฝึกหัดในเมืองไทย ซึ่งผู้ฝึกหัดมวยไทยในอิตาลีส่วนใหญ่จะให้ความสนใจในการฝึกโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการป้องกันตัว เพื่อความสนุกสนาน อยากทดลองกีฬารูปแบบใหม่ ต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรงและรูปร่างดี สำหรับคอร์สจะใช้เวลาฝึกต่อครั้งประมาณ 1-1.30 ชั่วโมง โดยเวลาดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ช่วง
1. การอบอุ่นร่างกาย การระดมกล้ามเนื้อ การยืดหยุ่นร่างกาย
2. การฝึกด้านเทคนิคเป็นคู่ การฝึกต่อย เตะกับถุงทรายและกับลม
3. การทบทวนฝึกด้านเทคนิคเป็นคู่
สถานที่ใช้ในการฝึกสอนมวยไทยในอีตาลีจะอยู่กระจายตามแคว้นต่างๆ ได้แก่ ลอมบาร์เดีย กัมปาเนีย เอมีเลีย-โรมานญา ลาซีโอ เวเนโต ปูเกลีย ซีซีลี ปีเอมอนเต เตรนตีโน-อัลโตอาดีเจ และตอสกานา เป็นต้น โดยสถานที่ฝึกจะอยู่ในรูปแบบของโรงฝึก/ศูนย์ฝึกกีฬาขนาดเล็ก กลางและใหญ่ ศูนย์สุขภาพ ซึ่งศูนย์ฝึกดังกล่าวอาจจะมีกีฬาอื่น ๆ ร่วมอยู่ด้วยเพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้ฝึก
โดยเจ้าของศูนย์ฝึกมวยไทยส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่นั้น ๆ อาจารย์ผู้ฝึกสอนส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาเลียนในพื้นที่หรือเจ้าของศูนย์ฝึกฯที่มีประสบการณ์ด้านมวยไทย โดยมีการเดินทางไปเรียนรู้การฝึกสอนจากค่ายมวยต่าง ๆ ในเมืองไทยในช่วงระยะเวลาสั้นหรือยาว แต่อย่างไรนั้นอาจารย์ผู้สอนที่เป็นคนไทยมีจำนวนน้อยมาก อันเนื่องมาจากปัญหาในเรื่องการสื่อสารและการดำเนินเรื่องในการมาทำงานในประเทศอิตาลี
อิตาลีมีโรงฝึกและศูนย์ฝึกมวยไทยอยู่มากมาย สามารถหาข้อมูลได้ตามเวปไซต์ดังนี้
1. http://www.100ma.it/index.php/palestre/scheda-palestre
2. http://www.fimt.it/modules/palestra/index.php
3. http://www.palestrathai.it/blog/thai-boxe-kickboxing.htm
4. http://www.emagister.it/palestra_muay_thai-eh.htm
ทางสมาคมอิตาเลียนมวยไทย (FIMT) ได้มีการจัดตั้งทีมสนับสนุนในการระดมเงินทุนให้กับนักมวยทีมชาติของอิตาลี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือแก่นักชกมวยไทยที่เข้าร่วมในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ ค่าเดินทาง ค่าที่พักและค่าอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ พบว่าผู้ฝึกมวยไทยในอิตาลีมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกมวยไทยที่ต้องการสร้างอาชีพเป็นนักชกมืออาชีพ โดยจะเห็นได้จากการเข้าร่วมการแข่งขันตามเวทีต่าง ๆ ทั้งในอิตาลีและประเทศอื่น ๆ
จึงถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องในด้านกีฬามวยไทยในการสร้างความร่วมมือในการขยายตลาดมวยไทยไปสู่ตลาดอิตาลี ดังนี้
1. สนับสนุนในเรื่องการจัดหาที่พักสำหรับนักมวยชาวอิตาเลียน-ไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้ง 2 ประเทศ
2. สนับสนุนให้มีการจัดคอร์สฝึกสอนทักษะมวยไทยให้กับผู้ที่สนใจในอิตาลี โดยเน้นให้นักมวยอิตาเลียนได้เรียนรู้ทักษะมวยไทยที่ถูกต้อง
3. เสนอให้มีการเปิดสอนคอร์สภาษาอิตาเลียน-ไทยให้แก่ครูฝึกสอน นักชก ผู้ตัดสิน ผู้ช่วยฝึก เป็นต้น และส่งเสริมให้มีการจัดทำหนังสือคู่มือมวยไทยเป็นภาษาอิตาเลียน
4. เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนนักชกมวยไทยทั้ง 2 ประเทศ และสนับสนุนให้มีการจัดทัวร์โชว์การชกมวยไทยในอิตาลี(ตามเมืองสำคัญต่าง ๆ) เพื่อเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่ให้ความรู้ความเข้าใจอันดีต่อกีฬามวยไทย
5. ส่งเสริมให้มีการส่งออกอุปกรณ์กีฬามวยไทยที่มีประสิทธิ์ภาพในราคาที่เหมาะสม
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th