รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะการค้าประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีระหว่างวันที่ 1—15 สิงหาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 19, 2009 13:49 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. ผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากต้องแจ้งกิจการล้มละลายส่วนใหญ่จะเป็นกิจการขนาดเล็ก ขนาดกลาง ที่มีปัญหาไม่สามารถหาเงินทุนหมุนเวียน สำรองสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น ได้แก่ ค่าเช่าสถานที่ เงินเดือนคนงาน ค่าสินค้า วัตถุดิบในการผลิต เป็นต้น เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่ยังมีเงื่อนไขข้อแม้ที่เข้มงวด เคร่งครัดมากเป็นพิเศษในการให้กู้ยืมเงิน จึงทำให้โดยเฉลี่ยมีการแจ้งกิจการล้มละลายเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอดและในเดือนพฤษภาคม 2552 เป็นจำนวนประมาณ 2,600 กิจการ สำหรับกิจการขนาดใหญ่ที่ต้องแจ้งกิจการล้มละลาย ที่สำคัญๆ ได้แก่

  • Arcandor เป็นกลุ่มธุรกิจประกอบกิจการห้างสรรพสินค้า Karstadt (คนงาน ประมาณ 30,000 คน ยอดขายปีละประมาณ 4 แสนล้านยูโร) การขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตโดย Primondo (คนงานประมาณ 20,000 คน ยอดขายปีละประมาณ 4 แสนล้านยูโร) และ กิจการท่องเที่ยว Thomas Cook (คนงาน ประมาณ 34,000 คน ยอดขายปีละประมาณ 11,000 ล้านยูโร)
  • ห้างสรรพสินค้า Hertie ที่มีการขายสาขาในเมืองต่างๆ รวม 19 แห่งในเดือนกรกฎาคม 2551 และจะปิดกิจการที่เหลืออีก 54 แห่งและสำนักงานใหญ่ในเดือนสิงหาคมปี 2552 นี้ ในช่วงที่ทำธุรกิจปกติห้างฯ มีคนงานประมาณ 3,500 คน ยอดขายปีละประมาณ 700 ล้านยูโร
  • ผู้ผลิตสินค้าแฟชั่น Escada (คนงานประมาณ 4,000 คน ยอดขายปีละประมาณ 600 ล้านยูโร)

2. การขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่สองปี 2552 นี้สามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากมี Order การผลิต สินค้าเพิ่มขึ้นตลอดมาในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา โดยในเดือนมิถุนายน มี Order เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 การผลิตสินค้าในประเทศ ลดลงร้อยละ 0.1 ทำให้คาดการณ์ว่า ปัจจุบันการถดถอยของเศรษฐกิจอาจจะถึงจุดต่ำที่สุดแล้ว

3. นับจากเดือนตุลาคม 2551 — มิถุนายน 2552 ได้มีผู้ประกอบการแจ้งขออนุญาตลดชั่วโมงทำงานรวม 136,500 กิจการ เป็นจำนวนคนงานในกิจการเหล่านี้กว่า 3.3 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ได้มีการลดชั่วโมงทำงานจริงสำหรับคนงาน 1.4 ล้านคน เป็นจำนวนที่สูงมากและหลายฝ่ายคาดว่า คนงานเกินกว่าครึ่งหนึ่งคงจะต้องว่างงานในที่สุด เนื่องจากกิจการจำนวนมากขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่ได้รับความร่วมมือจากธนาคารอย่างเต็มที่

4. ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าจะมีการจัดตั้ง Bad Bank ในเยอรมนี นั้น สรุปได้ว่า คงจะไม่มีความจำเป็นเท่าใด เนื่องจากข้อแม้ต่างๆ ที่กำหนดให้ธนาคารที่ต้องการความช่วยเหลือถือปฏิบัติ เข้มงวด เคร่งครัดและสร้างภาระค่าใช้จ่าย ไม่เป็นที่พอใจของ กิจการธนาคารที่มีปัญหา และนอกจากนี้แล้ว ที่ผ่านมา หลายๆ ธนาคารในเยอรมนีได้นำตราสารหนี้ต่างๆ รวมทั้งตราสารหนี้จากที่อยู่อาศัยที่หลายฝ่ายเห็นว่า มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง ไปเป็นหลักทรัพย์ประกันในการกู้ยืมเงินจากรัฐบาลเยอรมัน และยังมีการจัดทำตราสารหนี้ใหม่ๆ ขึ้นอีกเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ในขอกู้ยืมเงินเพิ่มเติมจากรัฐบาล ทำให้ไม่มีธนาคารใดในเยอรมนีสนใจที่จะใช้ Bad Bank

5. ในเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมานี้ ดัชนีค่าครองชีพในเยอรมนีได้ลดลงในอัตราร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน เป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงได้ลดลงมาก เช่น น้ำมันเครื่องทำไออุ่นลดลงร้อยละ 44.7 น้ำมันดีเซลลดลงร้อยละ 29 สินค้าอาหารประเภท นมและผลิตภัณฑ์ลดลงร้อยละ 20 เครื่องใช้ไฟฟ้า (โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ลดลงร้อยละ 20 — 25) เป็นต้น นอกจากนี้ดัชนีราคาค้าส่งยังมีอัตราติดลบที่ร้อยละ 10.6 ส่งผลให้ดัชนีโดยรวมของเยอรมนีลดลง

6. ในด้านการค้าต่างประเทศ ในเดือนมิถุนายน 2552 เยอรมนีสามารถส่งออกและนำเข้าสินค้าเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ กล่าวคือ มีการส่งออกเป็นมูลค่า 68,500 และนำเข้ามูลค่า 56,300 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 และ 6.8 ตามลำดับ หากเทียบกับเดือนมิถุนายนปี 2551 มูลค่าลดลงร้อยละ 22.3 และ 17.2 ตามลำดับ โดยมีการส่งออกและนำเข้าสินค้าจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเป็นมูลค่า 43,800 และ 37,800 ล้านยูโร ตามลำดับ มูลค่าลดลงจากปีก่อนร้อยละ 22.1 และ 15.8 สำหรับประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากสหภาพยุโรปมีการส่งออกเป็นมูลค่า 24,700 และนำเข้ามูลค่า 18,500 ล้านยูโร มูลค่าลดลงร้อยละ 22.4 และ 19.8 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนปี 2551 ที่ผ่านมา

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ