รายงานภาวะสินค้าในไต้หวัน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

สินค้า ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ในไต้หวัน

HS Code : 2309, 4201, 4205 0090 10

ขอบเขตสินค้า สินค้าอาหารสุนัขและแมว เครื่องใช้สัตว์ทำด้วยผ้าหนังสัตว์ พลาสติก และวัสดุอื่น ๆ ฯลฯ

ตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของไต้หวัน มีการพัฒนาเลียนแบบตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงญี่ปุ่น กล่าวคือในอดีตร้านค้าขนาดกลางและเล็กเป็นผู้ประกอบการหลัก ต่อมาบริษัทขนาดใหญ่เริ่มเข้าสู่ตลาดด้วยการผลิตสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงและของใช้สัตว์เลี้ยงป้อนเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ตลอดจนมีการจัดตั้ง ร้านแฟรนไชส์สัตว์เลี้ยง ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมีความคึกคัก และเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงด้วยความเอาใจใส่มากขึ้น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมีการขยายตัวตามไปด้วย เช่นร้านเสริมสวยสัตว์เลี้ยง คลินิกสัตว์เลี้ยง

เว็บไซต์ Catnip (www.catwant.com) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอาหารสัตว์เลี้ยงในไต้หวันให้ข้อมูลว่า ขนาดตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์ เลี้ยงในไต้หวันมีมูลค่าประมาณปีละ 12,500 ล้านเหรียญไต้หวัน (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญไต้หวัน = 1 บาทโดยประมาณ) ในจำนวนนี้อาหารสัตว์เลี้ยงมีสัดส่วนเท่ากับ 30% หรือคิดเป็นมูลค่า 3,771 ล้านเหรียญไต้หวัน ซึ่งคาดว่าสัตว์เลี้ยงในไต้หวันมีจำนวน 850,000 ตัว ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของสัตว์เลี้ยงคือ ตัวละ 1,200 เหรียญไต้หวันต่อเดือน

การประเมินตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมีสัดส่วน ดังนี้

สินค้าของใช้ 35 %

สินค้าอาหาร 30 %

การรักษาพยาบาล 12 %

การซื้อขายสัตว์เลี้ยง 10 %

การเสริมสวย 6 %

การฝึกสอน 2 %

ภัตตาคารสัตว์เลี้ยง 1 %

อื่น ๆ 4 %

ไต้หวันมีการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงปีละประมาณ 10,000 ตัน ผู้ผลิตรายใหญ่ในไต้หวันได้แก่ บริษัท ฟูโซ่ว (FWUSOW INDUSTRY PRODUCTS CO LTD ) และ โถ่งอี (UNI-PRESIDENT ENTERPRISES CORP), COO COO G PET STORE , ไห่โฟง (HAI FENG FEEDS CO LTD)

ในด้านการส่งออกนั้นในปี 2008 ไต้หวันส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงมูลค่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2007 ร้อยละ 5.21 โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญคือ มาเลเซีย เวียตนาม จีน เกาหลี ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ อินโดนิเซีย อินเดีย ฯลฯ

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาไต้หวันนำเข้าผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ในปี 2009 (มกราคม — พฤษภาคม) เริ่มหดตัวลงตามกระแสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา การนำเข้าสินค้าชนิดต่าง ๆ ที่มีการเก็บสถิติโดยกรมศุลกากรของไต้หวันปรากฎดังนี้

• การนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยง

ในปี 2008 ไต้หวันนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงมูลค่า 153.49 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2007 ร้อยละ2.91 แหล่งนำเข้าที่สำคัญคือ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ไทย จีน ฯลฯ สำหรับปี 2009 (มกราคม — พฤษภาคม) นำเข้ามูลค่า 55.99 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 13.99 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2008

• การนำเข้าของใช้สัตว์เลี้ยง

ในปี 2008 ไต้หวันนำเข้าของใช้สัตว์เลี้ยงมูลค่า 1.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2007 ร้อยละ17.22 แหล่งนำเข้าที่สำคัญคือ จีน ญี่ปุ่น ไทย ฝรั่งเศส ยูเครน ฯลฯ สำหรับปี 2009 (มกราคม — พฤษภาคม) นำเข้ามูลค่า 0.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 18.15

• การนำเข้าผลิตภัณฑ์เคี้ยวสำหรับสัตว์เลี้ยง

ในปี 2008 นำเข้ามูลค่า 1.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2007 ร้อยละ 65.78 แหล่งนำเข้าที่สำคัญคือ จีน ไทย เวียตนาม สหรัฐฯ สำหรับในปี 2009 (มกราคม — พฤษภาคม) นำเข้า 0.39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2008 ร้อยละ 18.42

ในปี 2008 ไต้หวันนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงจากไทย 15.78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2007 ร้อยละ51.42 ไทยมีส่วนแบ่งการตลาด ร้อยละ 10.29 ไต้หวันนำเข้าจากไทยเป็นลำดับ 4

สำหรับของใช้สัตว์เลี้ยงและของขบเคี้ยวสัตว์เลี้ยงนั้นมีมูลค่าค่อนข้างน้อย กล่าวคือ ในปี 2008 ไต้หวันนำเข้าของใช้สัตว์เลี้ยงจากไทยมูลค่า 0.05 และ 0.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ

1. ไต้หวันกำหนดระเบียบการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้ง จากประเทศที่มีการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อย (รวมทั้งไทย) จะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบโรงงาน ซึ่งจะต้องสอดคล้องตามมาตรฐานการผลิตที่ไต้หวันกำหนดในเรื่องสุขอนามัยและการกักกันโรค ปัจจุบันโรงงานที่ผ่านการตรวจสอบและมีสิทธิ์ส่งไปยังไต้หวัน แล้วคือ

1) Effem Food (Thailand)

2) S.W.T. Co., Ltd.

3) Bangkok Produce Merchandising Public Co., Ltd.

4) Nutrix Public Company Limited

5) Pet Treats Limited

6) World Pets International Co., Ltd.

2. ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงกระป๋องที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูงนำเข้าไต้หวันได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจโรงงาน

3. อัตราภาษีศุลกากรอาหารสุนัขและแมว 2.0% สินค้าของใช้สัตว์เลี้ยง 7.5%

4.1 อาหารสุนัขและแมวแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ อาหารแบบแห้ง อาหารนิ่ม และอาหารกระป๋อง ความแตกต่างที่เด่นชัดคือ ปริมาณน้ำแตกต่างกัน นอกจากนี้ราคา และรสชาติที่สัตว์เลี้ยงชอบหรือยอมรับได้จะแตกต่างกันด้วย ตลอดจนสารอาหารและความเข้มข้นของส่วนผสม ปริมาณเคลอรี่ที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคจะให้ความสนใจในรายละเอียดเหล่านี้ ซึ่งผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงเน้นผลิตอาหารสัตว์ที่มีส่วนผสมตอบสนองต่อความต้องการต่าง ๆ

อาหารสัตว์เลี้ยงในตลาดไต้หวันมีความหลากหลายมากจึงมีการแข่งขันในระดับสูง ผู้บริโภคสามารถซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงที่มีรสชาติและคุณสมบัติตรงกับความต้องการได้อย่างง่ายดาย

4.2 รูปแบบและราคาสินค้าที่วางจำหน่ายในไต้หวัน

1) อาหารสุนัขและแมวแบบแห้ง สินค้าที่วางจำหน่ายมีหลายชนิด ในส่วนของอาหารสุนัขแบ่งเป็นรสเนื้อวัว เนื้อแพะ เนื้อไก่ ผสมผัก ฯลฯ สำหรับสุนัขเพศผู้ สุนัขเพศเมีย ลูกสุนัข สุนัขลดความอ้วน เป็นต้น สำหรับอาหารแมวแบ่งเป็นแมวโต แมวเล็ก แมวสลัดขน เป็นต้น ราคาจำหน่ายเริ่มตั้งแต่ 200 กว่าเหรียญไต้หวันจนถึง 2,000 เหรียญไต้หวัน และขนาดบรรจุที่แตกต่างกันตั้งแต่ 1 กิโลกรัมจนถึง 20 กิโลกรัม ยี่ห้อสินค้าที่มีให้เลือกได้แก่ Cesar, Pedigree, Royal Canin, Purina, Hill’s, Solution, Science diet, Natural Choice, Friskies ฯลฯ

2) อาหารสุนัขและแมวกระป๋อง ส่วนใหญ่บรรจุขนาด 400 กรัม รสชาติที่วางจำหน่ายได้แก่ เนื้อวัว ไก่ แพะ ซึ่งมีทั้งแบบผสมผักและไม่ผสมผัก ราคาขายปลีกตามร้านค้าทั่วไป กระป๋องละ 23 — 35 เหรียญไต้หวัน แล้วแต่ชนิดและราคา สินค้าที่วางจำหน่ายได้แก่ Yami Yami ราคา 29 เหรียญไต้หวัน, Weles ราคา 25 เหรียญไต้หวัน, Pedigree ราคา 35 เหรียญไต้หวัน, Frisian Dog’s Choice ราคา 30 เหรียญไต้หวัน

3) อาหารสุนัขและแมวแบบนิ่ม(กล่องปิดผนึก) ขนาดบรรจุแบ่งเป็น 75 กรัม 80 กรัม 100 กรัม ราคาจำหน่าย ประมาณกล่องละ 19 — 31 เหรียญไต้หวัน ยี่ห้อสินค้าที่วางจำหน่ายได้แก่ Ceasar, Feet Rite, Biogisan, Yami Yami, Whiskas, Pure ฯลฯ

4) สินค้าอาหารเสริมและของกินเล่น อาหารเสริมสำหรับสัตว์ที่มีวางจำหน่ายได้แก่ อาหารประเภท วิตามิน แคลเซี่ยม เพิ่มความสามารถในการตั้งครรภ์ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ซุปไก่สกัด นมผง ฯลฯ ราคาจำหน่ายปลีก ประมาณตั้งแต่ 50 เหรียญไต้หวัน — 600 เหรียญไต้หวัน

5) ของใช้สัตว์เลี้ยงที่วางจำหน่ายทั่วไป ได้แก่ ขวดนม ชาม จาน ขวดน้ำดื่ม การตั้งราคาจำหน่ายปลีกส่วนใหญ่จะจำหน่าย ในระดับ 50 — 600 เหรียญไต้หวัน สินค้าประเภทกรงหรือที่นอน กระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยง มีราคาประมาณ 600 — 7000 เหรียญไต้หวัน

4.3. ช่องทางการตลาด

การจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแบ่งเป็น 2 ช่องทางหลักคือ

1 ร้านค้าปลีกได้แก่ ร้านอาหารสัตว์เลี้ยง ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต มีมูลค่าการจำหน่ายประมาณ 20 % ของมูลค่าตลาดทั้งหมด

2 ร้านบริการ ได้แก่ ร้านเสริมสวย คลินิกสัตว์เลี้ยง ร้านสัตว์เลี้ยงแฟรนไชส์ ร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยงและปลา มีมูลค่าการจำหน่ายประมาณ 80 % ของมูลค่าตลาดทั้งหมด

ความตื่นตัวในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของไต้หวันเพิ่งจะเริ่มขึ้นในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าขนาดตลาดขยายตัวได้อีกมาก ประกอบกับประเทศไทยมีวัตถุดิบในการผลิตอาหารเพียงพอและมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในไต้หวัน ผู้ส่งออกไทยที่ประสงค์จะขยายตลาดไปยังไต้หวันติดต่อผู้นำเข้าได้ตามรายชื่อดังแนบ

ที่มา: http://www.depthai.go.th