ชาวโปแลนด์หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น จึงบริโภคน้ำผลไม้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6 คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.9 พันล้านสว๊อตตี้ หรือประมาณ 20.58 หมื่นล้านบาท ตลาดน้ำผลไม้จึงมีแนวโน้มขยายตัวสูงอีกนาน เปิด โอกาสทองให้แก่ผู้ส่งออกน้ำผลไม้ไทย
นางวรรณภรณ์ เกตุทัต ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ได้กล่าวถึงผลการวิจัยตลาดเครื่องดื่มในโปแลนด์ ของหนังสือพิมพ์ Rzeczpospolita ประจำวันที่ 18 สิงหาคม 2552 พบว่า ยอดจำหน่ายเครื่องดื่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดปี 2009 คาดว่าชาวโปแลนด์จะบริโภคเครื่องดื่มมากถึง 2 หมื่นล้านสว๊อตตี้ (2.4 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ในขณะที่การบริโภคน้ำเปล่าเพิ่มจาก 4.6 เป็น 4.9 พันล้านสว๊อตตี้ ในปีนี้ บริษัทผู้ผลิตน้ำดื่มรายใหญ่แจ้งว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 13 — 14
นอกจากนี้ ชาวโปแลนด์ใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น จึงหันมาบริโภคน้ำผลไม้และเครื่องดื่มทั่วไปเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6 คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.9 พันล้านสว๊อตตี้ หรือประมาณ 20.58 หมื่นล้านบาท ซึ่งผู้ผลิตน้ำผลไม้รายใหญ่ในโปแลนด์ กล่าวว่า ในปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตน้ำผลไม้หันมาจับกลุ่มเด็ก ผู้สนใจสุขภาพ และผู้แสวงหาความแปลกใหม่ จึงผลิตสินค้าใหม่ เช่น น้ำผลไม้เสริมสร้างระบบอิมมูน น้ำผลไม้ 100% น้ำผลไม้ที่ใช้ผลไม้จากต่างชาติ Guanabana จากอเมริกากลาง น้ำทับทิมจากจีน สละจากอินโดนีเซีย รวมทั้ง สับปะรดจากไทย และนำน้ำผลไม้หลายชนิดมาผสมกัน เช่น น้ำกล้วยผสมสับปะรดผสมลิ้นจี่ น้ำองุ่นผสมสับปะรด น้ำกล้วยปั่นผสมสตอร์เบอรรี่ น้ำมะพร้าวผสมสับปะรดผสมกล้วย เป็นต้น เนื่องจากชาวโปแลนด์เชื่อว่ามีวิตามินและคุณค่าสารอาหาร จึงทำให้อัตราการขยายตัวของตลาดน้ำผลไม้ มีสูงถึงร้อยละ 100 มูลค่าการขายเพิ่มขึ้น ร้อยละ 28 นอกจากนี้ เครื่องดื่มบำรุงกำลังมียอดจำหน่าย 730 ล้านสว๊อตตี้ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11
ประเทศโปแลนด์เป็นประเทศเกษตรกรรม มีผลิตผลมากมายที่นำมาใช้ในการผลิตน้ำผลไม้ จึงทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ ผู้ผลิตในโปแลนด์จึงยังครองตลาดน้ำผลไม้ อุปสรรคของบริษัทต่างชาติที่เข้ามาเจาะตลาดนี้คือด้านราคาเนื่องจากสินค้าต่างชาติคุณภาพสูง แต่ราคาก็สูงไปด้วย ผู้บริโภคยังเลือกสินค้าที่ราคาต่ำกว่า อีกทั้ง บริษัทโปแลนด์รู้จักรสนิยมชาวโปลเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามชาวโปแลนด์ไม่นิยมน้ำผลไม้ที่มีเนื้อผลไม้ผสมอยู่ ปัจจุบันตลาดโปแลนด์เริ่มเปิดรับอาหารจากเอเชียมากขึ้น การส่งออกน้ำผลไม้ไปยังผู้ผลิตโปแลนด์จึงมีโอกาสดี ส่วนการที่จะแนะนำยี่ห้อสินค้าจากไทย ก็มีโอกาสเช่นกัน แต่ต้องคำนึงถึงราคาด้วย และต้องเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน หรือลูกค้าต่างชาติ ในระยะแรก ทั้งนี้ ตลาดเพิ่งเริ่มต้นการตอบรับยังเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา: http://www.depthai.go.th