หนังสือพิมพ์ The Sydney Morning Herald วันที่ 26 สิงหาคม 2552 รายงานข่าว Woolworth วางแผนที่จะแข่งขันในตลาดฮาร์ดแวร์และ Home Improvement กับ Bunning ซึ่ง เป็นห้างลักษณะคลังสินค้า (warehouse style store) ที่ครองตลาดสินค้าฮาร์ดแวร์และ Home Improvement ของออสเตรเลียมากที่สุด โดย Woolworth จะร่วมลงทุนกับบริษัท Lowe’s ซึ่งเป็น retail chain สินค้าฮาร์ดแวร์ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก การ จับมือระหว่าง Woolworth และ Lowe’s จะเป็นการสร้างผู้ค้าส่งรายใหญ่ที่สุดในตลาดออสเตรเลีย
คาดว่า Woolworth จะลงทุนเป็นมูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย ในช่วงเวลา 4 ปี เพื่อพัฒนาโครงข่ายการจำหน่ายสินค้าประเภทฮาร์ดแวร์ และ Home Improvement โดย ตั้งเป้าที่จะเปิดห้างซึ่งมีพื้นที่เกินกว่า 10,000 ตารางเมตรจำนวน 150 สาขา ภายในปี 2014-2015 และบริษัท Lowe’s จะร่วมลงทุนเป็นมูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 477 ล้านเหรียญออสเตรเลีย
Woolworth และ Lowe’s ได้ร่วมซื้อหุ้นของบริษัท Danks ซึ่งเป็นบริษัทกระจายสินค้าฮาร์ดแวร์อันดับ 2 ของออสเตรเลีย และเป็นผู้จัดหาสินค้าส่งให้แก่ Home Timber & Hardware, Thrifty-Link Hardware และ Plants Plus Garden Centre Outlet ซึ่งเป็นกลุ่มร้านค้าปลีกอิสระที่เป็นสมาชิกของบริษัท Danks มีสาขารวมกันประมาณ 583 แห่ง และร้านค้าปลีกอิสระอีกประมาณ 1,000 แห่ง โดย Lowe’s จะถือหุ้น 1 ใน 3 ของธุรกิจฮาร์ดแวร์ และจะสนับสนุนในด้านความเชี่ยวชาญในการจัดการ
ปี 2008 อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และ home improvement ในออสเตรเลียมีมูลค่าประมาณ 36 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย สัดส่วนตลาดฮาร์ดแวร์และ Home Improvement เป็นของ Bunning 18% มูลค่าการขายประมาณ 5.3 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย Mitre 10 สัดส่วนตลาด 5.9% มูลค่าการขายประมาณ 1.7 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย Danks สัดส่วนตลาด 3.6% มูลค่าการขายประมาณ 560 ล้านเหรียญออสเตรเลีย และอื่นๆ มีสัดส่วน 72.5%
Bunning มีบริษัท Wesfarmer เป็นบริษัทแม่ ซึ่งเป็นเจ้าของห้าง Bunning จำนวน 175 ห้าง โดยบริษัทดังกล่าวยังเป็นเจ้าของห้างซูเปอร์มาร์เก็ต Coles ซึ่งครองตลาดค้าปลีกที่เกี่ยวกับอาหารเป็นอันดับ 2 รองจาก Woolworth ในปี 2551/2552 ซึ่งในช่วงเศรษฐกิจซบเซา Bunning มียอดการขายมากกว่า 5.3 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย บริษัทยังมีอัตราการเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลัก
Bunning มีบริษัท Wesfarmer เป็นบริษัทแม่ ซึ่งเป็นเจ้าของห้าง Bunning จำนวน 175 ห้าง โดยบริษัทดังกล่าวยังเป็นเจ้าของห้างซูเปอร์มาร์เก็ต Coles ซึ่งครองตลาดค้าปลีกที่เกี่ยวกับอาหารเป็นอันดับ 2 รองจาก Woolworth ในปี 2551/2552 ซึ่งในช่วงเศรษฐกิจซบเซา Bunning มียอดการขายมากกว่า 5.3 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย บริษัทยังมีอัตราการเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลัก
Woolworths Limited Group เป็นบริษัทผู้จ้าง (private employer) ใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย มีสำนักงานใหญ่ในซิดนีย์ ประกอบธุรกิจหลากหลาย เช่น ซูเปอร์มาเก็ต ร้านขายของอุปโภคบริโภค (Woolworths/Safeway/Big W/ThomasDux) เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ (Dick Smith/Tandy), ร้านขายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (BWS, Dan Murphy’s) ปั๊มน้ำมัน และมีซูเปอร์มาเก็ตในนิวซีแลนด์ ในชื่อของ Foodtown, Woolworths, Countdown, Fresh Choice และ SuperValue นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจให้บริการการเงินในรูปของบัตรรางวัล (reward card) และบัตรเครดิต ทั้งนี้ เป็นผู้นำในธุรกิจซูเปอร์มาเก็ต มีสัดส่วนตลาด 30%
Woolworth ให้เหตุผลในการลงทุนในสาขาฮาร์ดแวร์ว่า เนื่องจากบริษัทเห็นโอกาสสำหรับสินค้าและบริการที่ยังไม่มีในตลาดออสเตรเลีย ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เห็นว่า ในระยะสั้น การแข่งขันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค แต่ก็เกรงผลกระทบที่จะเกิดกับร้านฮาร์ดแวร์อิสระขนาดเล็กที่อาจถูกบีบให้ต้องปิดกิจการในอนาคต
ตลาด home improvement มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากราคาค่าบ้านในออสเตรเลียมีราคาสูง เจ้าของบ้านจะซ่อมแซม ตกแต่งบ้านมากกว่าที่จะซื้อบ้านหลังใหม่ ทำให้ตลาดมีความต้องการสินค้าสำหรับการซ่อมแซม ตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดฮาร์ดแวร์และ Home Improvement จะเป็นการเพิ่มโอกาสแก่ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ที่จะขายสินค้ามายังตลาดออสเตรเลีย ทั้งนี้ สินค้าแต่ละประเภทมีกฎ ระเบียบและมาตรฐานที่แตกต่างกัน จำเป็นที่ผู้ส่งออกต้องศึกษาเพื่อให้สามารถเสนอสินค้าที่สอดคล้องกับตลาดของออสเตรเลีย รวมทั้ง การศึกษาสินค้าใหม่ๆ ที่อาจเป็นที่ต้องการในออสเตรเลียแต่ยังไม่มีในตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกให้มากขึ้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์
ที่มา: http://www.depthai.go.th