รายงานการเยือนงานแสดงสินค้า All Things Organic 2009 17-18 มิถุนายน 2552 ณ McCormick Place นครชิคาโก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 8, 2009 11:02 —กรมส่งเสริมการส่งออก

การจัดงาน

งาน All Things Organic จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการผลิต การขาย และ การตลาดสินค้าอินทรีย์ของสหรัฐฯ และเป็นช่องทางและโอกาสในการแนะนำสินค้าใหม่เข้าตลาด ให้ผู้ซื้อ-ผู้ขายสินค้าได้พบกัน สร้างเครือข่ายในวงการสินค้าอินทรีย์

งาน All Things Organic เป็นงานแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอเมริกา จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่นครชิคาโกโดยสมาคม Organic Trade Association และใช้พื้นที่สุทธิจัดงานฯ ประมาณ 150,000 ตารางฟุต (14,500 ตารางเมตร) เปิดให้ชมเฉพาะนักธุรกิจและบุคคลในวงการเข้าชมเท่านั้น และ ผู้เข้าชมงานทุกรายต้องชำระค่าธรรมเนียมลงทะเบียนทุกคนๆละ 75 เหรียญสหรัฐฯ นอกจากนั้นแล้ว ยังจัดควบไปกับงานแสดงสินค้าอีก 2 งาน คือ งาน All Asia Expo และ Expo Comida Latina ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าอาหารเอเซียและอาหารฮิสแปนิก

ผู้เข้าร่วมงาน (Exhibitor)

ผู้เข้าร่วมงานมีจำนวน 455 บริษัท ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 18 และมีผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศ 15 ประเทศ ผู้เข้าร่วมงาน 7 ประเทศ คือ แคนาดา อาร์เจนติน่า เม็กซิโก บราซิล เปรู เอลซัลวาดอร์ ตุรกี จัดคูหาในรูปแบบ Country Pavilion และ ประเทศไทยเข้าร่วมงานโดยกรมการค้าต่างประเทศ จัดคูหาประชาสัมพันธ์ และนำข้าวหอมมะลิอินทรีย์ไปเผยแพร่ (สคต.ชิคาโกเป็นผู้ประสานงานในการเข้าร่วมงาน) คู่แข่งขันของไทยที่ไปเข้าร่วมงาน ได้แก่ ฮอนดูรัส นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ศรีลังกา เป็นต้น

ผู้เข้าชมงาน

มีผู้เข้าชมงานจำนวน 12,700 คน ลดลงจากงานในปี 2551 ร้อยละ -12 และมีผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศ 40 ประเทศ จำนวนประมาณ 850 คน ผู้เข้าชมงานจำแนกได้ ดังนี้

Retail (Food and Non-Food).............42.0%

Manufacturer/Processor/Supplier........35.0%

Foodservice/Hospitality................20.0%

International..........................11.0%

Distributor............................13.0%

Other................................. 10.0%

สินค้าที่จัดแสดง

สินค้าที่จัดแสดงในงานฯ ครอบคลุมไปยังสินค้าอาหารอินทรีย์ เกษตรอินทรีย์ทุกชนิดซึ่งแยกออกเป็น 10 หมวดใหญ่ ๆ ดังนี้

          * กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม           * กลุ่มผลิตภัณฑ์เกษตรกรรม
          * กลุ่มนมเนย                     * กลุ่มสินค้าประทินผิวและความงาม
          * กลุ่มเสริมความงาม               * กลุ่มของขบเคี้ยวและทานเล่น
          * กลุ่มผักและผลไม้สด               * กลุ่มเครื่องปรุงอาหาร
          * กลุ่มสิ่งทอ                      * กลุ่มให้บริการ

ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ

1. สหรัฐฯ เป็นตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของมูลค่าจำหน่ายเกษตรอินทรีย์ของโลก สมาคม Organic Trade Association ของสหรัฐฯ ประมาณว่าตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในสหรัฐฯ จะมีมูลค่าสูงถึง 23,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2552 หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15

2. อุปสรรคการขยายตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยในสหรัฐฯ ที่พบคือ

2.1 ปัจจุบัน ผู้นำเข้า/จัดจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักและทราบถึงศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยมากเพียงพอ หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันของไทย เช่น จีน ศรีลังกา อินเดีย บราซิล อิตาลี่ หรือ เม็กซิโก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้นำเข้าสหรัฐฯ

2.2 สินค้าไทยยังขาดความหลากหลายให้ผู้นำเข้าได้เลือกซื้อ ข้าวหอมมะลิเป็นสินค้าไทยที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์สหรัฐฯ ในขณะที่ผู้นำเข้า/จัดจำหน่ายสหรัฐฯ มีต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ชนิดอื่นๆ เช่น ข้าวเหนียวอินทรีย์ หรือ แป้งเกษตรอินทรีย์ ผลไม้สดเกษตรอินทรีย์โดยเฉพาะมังคุด สมุนไพรเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น

2.3 สินค้าอินทรีย์ของไทย ยังมีจำนวนน้อยรายการที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์สหรัฐฯ(USDA) หรือมาตรฐานเทียบเท่ากับของสหรัฐฯ

3. เพื่อการสร้างศักยภาพและโอกาสการขยายตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยในสหรัฐฯ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐจะต้องให้การสนันสนุนและผลักดันในด้านต่างๆ อย่างจริงจัง ดังนี้

3.1 การโฆษณาเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ศักยภาพในการผลิต สินค้าเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทย ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะการโฆษณาแบบ Onlineใน Website ของวารสารของธุรกิจนค้าเกษตรอินทรีย์สหรัฐฯ

3.2 ให้สนับสนุนการดำเนินแผนการตลาดเชิงรุกเพื่อการขยายตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศสหรัฐฯ ด้วยการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า All Things Organic ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีที่นครชิคาโก โดยในส่วนของกรมฯ ควรเน้นสินค้าเกษตรอินทรียแปรรูปชนิดต่างๆ แต่เนื่องจาก ผู้ผลิต/ส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้มาตรฐานของ USDA Organic มีจำนวนน้อย การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในรูปแบบ Country Pavilion ไม่อาจดำเนินการได้ จึงเห็นว่า โดยอาจจะเป็นการนำผู้ผลิต/ส่งออกไทยมาร่วมงาน หรือ การจัดคูหาประชาสัมพันธ์+จัดแสดงตัวอย่างสินค้าและศักยภาพ เพื่อเป็นตัวกลางเชื่อมโยงให้กับผู้ประกอบการไทยกับผู้นำเข้าสหรัฐฯ โดยให้การสนับสนุนสมาคมสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยในการไปร่วมงาน All Things Organic ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 มิถุนายน 2553 ณ นครชิคาโก

3.3 ผลักดันให้ผู้ประกอบการสร้างความหลากหลายสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยไปสู่สินค้ากลุ่มอื่นๆ ที่ตลาดมีความต้องการให้มีจำนวนมากขึ้น เช่น น้ำตาลอินทรีย์ แป้งอินทรีย์ สมุนไพรอินทรีย์ เป็นต้น อีกทั้ง ผลักดันให้ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรอินทรีย์ยกระดับการผลิตให้ได้มาตรฐานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) หรือมาตรฐานเทียบเท่ากับของสหรัฐฯ เช่น BioAgricert เป็นต้น

สำนักงานส่งเสริมการค้าไทย ณ นครชิคาโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ