“ส่งออก” เตรียมจัดงานเครื่องเย็น หวัง กระตุ้นยอดส่งออกให้สูงขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 9, 2009 10:58 —กรมส่งเสริมการส่งออก

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยถึงการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 112,000 ล้านบาท กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็นมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37% ของยอดส่งออกรวม ซึ่งขณะนี้อุตสาหกรรมกลุ่มเครื่องทำความเย็นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร ปิโตรเคมี พลาสติกและการค้าอื่นๆ กลับมีการเติบโตสูงอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม การจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น 2552 ระหว่างวันที่ 7-11 ต.ค.52 (Bangkok RHVAC 2009) จะเป็นงานที่แสดงถึงศักยภาพการผลิตสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นไทย ซึ่งเป็นงานที่แสดงศักยภาพในงานนี้จะได้พบกับสินค้าและเทคโนโลยีที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อนและประหยัดพลังงาน รวมถึงเพื่อผลักดันให้เกิดยอดส่งออกในไตรมาสสุดท้าย เพื่อให้สอดรับกับช่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และน่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้ยอดส่งออกเพิ่มสูงขึ้นโดยใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

ด้านนายไพรัตน์ เอื้อชูยศ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลประกาศลดภาษีสรรพสามิตสำหรับเครื่องปรับอากาศขนาด 72,000 บีทียู จะเป็นช่วงสุญญากาศของการซื้อเครื่องปรับอากาศต่อไปอีก 2-3 เดือน แต่หลังจากมีความชัดเจนเรื่องการคืนภาษีสรรพสามิตแล้วจะทำให้กำลังการซื้อเครื่องปรับอากาศขยายตัว ในส่วนของยอดส่งออกกลุ่มเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นในปีนี้ คาดว่าจะลดลงประมาณ 20% เนื่องจากกำลังซื้อในครึ่งปีแรกได้หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจของโลก จากยอดส่งออกรวมประมาณ 3 แสนล้านบาท และจะส่งผลต่อการค้าต่างประเทศให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นด้วย

นายไพรัตน์ กล่าวต่อว่า หากจะมีการจำหน่ายแอร์ที่ค้างสต๊อก 100,000 ชุด ในราคาลดลง ผู้ประกอบการคงต้องขายขาดทุน และมีความเป็นไปได้ที่จะนำเครื่องปรับอากาศสต๊อกเก่าออกมาจำหน่ายแทนเพื่อลดการขาดทุน ซึ่งต่อจากนี้จะเร่งทำหนังสือถึงกรมการค้าภายในเพื่อชี้แจงถึงเหตุผลหากไม่สามารถจำหน่ายเครื่องปรับอากาศได้ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากยังติดปัญหาสต๊อกเก่า

อย่างไรก็ตาม ในการเปิดการค้าเสรีอาเซียนในปีหน้า ผู้ผลิตไทยต้องระวังการเข้ามาตีตลาดแอร์จากประเทศจีน เนื่องจากจีนมีการดั๊มราคาขายต่ำกว่าไทย 2-3 เท่า ซึ่งเมื่อเทียบขนาด 72,000 บีทียู ขายอยู่ที่ราคาชุดละ 8,000 บาท ในขณะที่ไทยราคาชุดละประมาณ 20,000 บาท ซึ่งจีนมีกำลังการผลิตสูงถึงปีละ 35 ล้านชุด รวมถึงต้องระวังกลุ่มประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย ซึ่งมีกำลังการผลิตเครื่องปรับอากาศรวมอยู่ที่ 17 ล้านชุดต่อปี

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ