รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์นายอลงกรณ์ พลบุตร ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวในงาน Thailand International Logistics Fairs 2009 ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 8-13 กันยายน มีผู้ประกอบการจากประเทศต่างๆกว่า 180 ประเทศ เข้าร่วม ซึ่งถือเป็นงานแสดงสินค้าด้านโลจิสติกส์ที่ใหญ่และครบครันที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะลงทุนด้านโลจิสติกส์มูลค่า 3แสนล้านบาท เป็นโอกาสอันดีของนักลงทุนชาวจีน
ผู้ประกอบการจีนเข้าร่วมงานมากมาย บนพื้นที่ขนาด 9,600 ตารางเมตร นับได้ว่าเป็นงานโลจิสติกส์แฟร์ที่ใหญ่ที่สุคในอาเซียนดึงดูดนักธุรกิจโลจิสติกส์ การบริการ และซอฟแวร์ จากจีนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก เช่นบริษัทเจ้อเจียงยี่วู นายหงยิงจวิ้น ผู้จัดการใหญ่ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ที่ยี่วู มีพื้นที่แสดงสินค้าไทยขนาด 4,000 ตารางเมตร ต้องการให้ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรไทยเข้าไปลงทุน ผู้จัดการใหญ่ บ.เซี่ยงไฮ้จิ่งเฉิงโลจิสติกส์ นายไช่เฉินจิ่ง เผยว่าได้ร่วมงานมา 3 ครั้งนอกจากจะทำให้เห็นโอกาสในการลงทุนกับไทยแล้ว ยังได้นักลงทุนจากไทยไปลงทุนในจีนด้วยเช่นกัน นายหวัง ผู้ประกอบการบ.HSยูนนานได้คำนวณให้เห็นว่าแต่เดิมขนส่งส่งดอกไม้สดจากคุนหมิงไปไทยได้เฉพาะทางเครื่องบินต้นทุน 14-20 หยวน หลังจากเปิดเส้นทาง อาร์ 3 เอ ต้นทุนลดลงไป 4 หยวน ซึ่งตลาดไทยยังต้องการ กระเทียม และ ส้มเช้ง จากเสฉวนจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะมีตลาดในไทยแล้ว ตลาดของกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงเช่น ลาว เวียดนาม กัมพูชา พม่า ก็ยังมีโอกาสอีกมาก
ส่งผลดีต่อโครงการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอลงกรณ์ พลบุตรได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่าเนื่องจากผลผลิตมวลรวมGDPไทยร้อยละ 70 พึ่งพาการส่งออก กิจการด้านโลจิสติกส์จึงสำคัญต่อไทยอย่างยิ่ง แต่เนื่องจากต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของไทยคิดเป็นร้อยละ18.9 ของGDP ซึ่งหากสามารถลดต้นทุนตรงนี้ได้ก็จะเพิ่มศักยภาพการส่งออกของไทยได้มากยิ่งขึ้น โดยประเทศไทยมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.44 ล้านล้านบาท โดยจะนำมาลงทุนด้านโลจิสติกส์ภายใน 3 ปีนี้ มูลค่า3 แสนล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจีนก็เป็นตลาดเป้าหมายที่สำคัญของไทย โดยส่วนตัวแล้วตนเองก็รู้จักเฉิงตูเป็นอย่างดี ที่นั่นมีหมีแพนด้าลือชื่อ และที่เฉิงตูกระทรวงพาณิชย์ของเราได้ตั้งสำนักงานส่งเสริมการในค้าต่างประเทศที่นั่น เฉิงตูจะเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าไทยที่สำคัญในพื้นที่จีนตะวันตก เหตุการณ์แผ่นดินไหวในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยก็ได้มีกิจกรรมช่วยเหลือ และก็คาดหวังว่าความสัมพันธ์ของไทย-เสฉวนจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: http://www.depthai.go.th