ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในช่วงปี 2008(2551) ทำให้ฮ่องกงและตลาดทั่วโลกมีการนำเข้าสินค้าลดน้อยลงใน ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2552 เมื่อเปรียบเทียบปีที่ผ่านมาอัตราขยายตัวลดลงร้อยละ 5.8 (ช่วงเดียวกันของปี 2008 ขยายตัวร้อยละ 2.4)
อัตราการขยายตัว ปี 2552 ปี 2551
(ม.ค.- ส.ค.)
ราคาดัชนีผู้บริโภค - 0.2% + 4.3% (ม.ค.-ส.ค.) อัตราการว่างงาน 5.4% 3.6% (ทั้งปี) การค้าปลีก - 4.6% 10.6% (ทั้งปี) การส่งออก -17.6% 5.1% (ทั้งปี) จำนวนนักท่องเที่ยว - 4.9% 4.7% (16.1 ล้านคน) (29.5ล้านคน) ทั้งปี สถิติการค้าฮ่องกง ภาพเศรษฐกิจโดยรวมของฮ่องกง ดัชนีชี้วัด 2551 คาดการณ์ 2552 Population, Mid — year(Million) 6.98 7.01 a Gross Domestic Products(US$ billion) 215.2 205.3-207.5 b Real GDP Growth(%) 2.4 -3.5-4.5% b GDP per Capital(US$) 30,800 29,800-29,600 อัตราเงินเฟ้อ(inflation)(%) +4.3 +0.2 c อัตราการว่างงาน(Unemployment Rate) (%) 3.6 5.4d A 2009, b government forecast for 2009, c year-on-year change in January —August 2009; d June-August 2009 การค้าของฮ่องกง - Merchandise Trade 2550 2551 2552(ม.ค.-ส.ค.) US$ billion Growth% US$ billion Growth% US$ billion Growth% Total Export 344.6 9.2 362.1 5.1 198.0 -17.2 Domestic Exports 14.0 -18.9 11.6 -16.8 4.7 -41.5 Re-Exports 330.6 10.8 350.4 6.0 193.3 -16.3 Imports 367.7 10.3 387.9 5.5 213.5 -17.4 Total Trade 712.2 9.8 749.9 5.3 411.5 -17.3 Trade Balance -23.1 N/A -25.8 N/A -15.5 N/A - Service Trade 2550 2551 2552(ม.ค.-ส.ค.) US$ billion Growth US$ billion Growth US$ billion Growth Exports 84.7 16.9 92.3 8.8 38.2 -12.6 Imports 42.6 15.4 45.8 7.5 19.6 -13.4 Total Trade 127.3 16.4 137.9 8.3 57.8 -12.9 Trade Balance 42.1 N/A 46.4 N/A 18.6 N/A สถานะด้านเศรษฐกิจในปัจจุบัน
- ฮ่องกงถูกจัดว่ามีเศรษฐกิจการค้าที่เสรีที่สุดในโลก
- ฮ่องกงมีความเข้มแข็งด้านการค้าบริการมากที่สุด(คิดเป็นจำนวน 90% ของ GDP)
- เป็นศูนย์กลางเงินการธนาคารใหญ่อันดับสองของโลก
- การถือเงินตราต่างประเทศใหญ่เป็นอันดับเจ็ด
- ฮ่องกงเป็นแหล่งการลงทุนตรงจากต่างประเทศ(Foreign direct investment(FDI) ใหญ่
เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย
แม้ว่าในปี 2551 ภาวะเศรษฐกิจฮ่องกงได้รับผลกระทบจากภาวะการเงินทั่วโลก แต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2552 เศรษฐกิจรวมของฮ่องกงมีการพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้น แต่หากดูภาพรวมครึ่งปีแรกของปี 2552 เศรษฐกิจฮ่องกงมีอัตราขยายตัว ลดลง 5.8% ครึ่งปีแรกของปี 2551 มีการขยายตัว 2.4%) การบริโภคลดลงตัวร้อยละ 3.5 การลงทุนชะลอตัวลดลงร้อยละ 13.8 การส่งออกสินค้าและภาคบริการชะลอตัวลงร้อยละ 17.4 และ ร้อยละ 6.0 ตามลำดับ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2551 ขยายตัว 1.9% และ 5.7% และในปี 2552 ตลอดทั้งปี รัฐบาลคาดการณ์อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจระหว่าง 3.5- 4.5%
เศรษฐกิจฮ่องกงมีภาคธุรกิจที่เป็นหลักสำคัญ 4 ภาคธุรกิจ ได้แก่ Trading and logistics (25.8% ของ GDP ในปี 2007) Tourism (3.4%), Financial service (19.5%) และ Professional service and other producer services(11%)
- เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจการค้าใหญ่เป็นอันดับ 13 ของโลก
- เป็นเมืองที่มีการดำเนินธุรกิจการส่งออกด้านบริการใหญ่เป็นอันดับ 12 ของโลก
มูลค่าการส่งออกของฮ่องกงเดือนสิงหาคม 2552 หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ที่ร้อยละ -13.6 ชะลอลงจาก ร้อยละ -19.9 ในเดือนก่อนหน้า โดย มูลค่าการส่งออกสินค้านำเข้า(Re-export) ซึ่งมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 97 ของการส่งออก รวม หดตัวลงที่ร้อยละ -13.2 ในขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ผลิตในประเทศ ยังคงหดตัวในระดับสูง แต่ด้วยอัตราที่ชะลอลงที่ ร้อยละ -37.3 ในแง่มิติประเทศคู่ค้าการส่งออกไปยังเอเชียโดยรวมหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -10.7 ในขณะที่การส่งออกไปยัง สหรัฐฯ และจีน ยังคงหดตัวถึงร้อยละ -14.6 และร้อยละ -11.1 ตามลำดับ ในขณะที่การนำเข้าสินค้าเดือนสิงหาคม 2552 หดตัวร้อยละ -9.8 ชะลอลงมากจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -17.8 ทำให้ดุลการค้าฮ่องกงเดือนสิงหาคม 2552 ขาดดุล ที่ -21.8 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง
รัฐบาลจัดสรรงบประมาณของปี 2009-2010 ให้เป็นงบขาดดุล 40 พันล้านเหรียญฮ่องกง คิดเป็นร้อยละ 2 ของ GDP มุ่งเป็นที่จะรักษาระดับการงบประมาณมูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญ เพื่อเพิ่มงานจำนวน 62,000 งาน ภายในใน 3 ปีข้างหน้า
รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 300 ล้านเหรียญ ให้กับโครงการร่วมมือระหว่างฮ่องกง/กวางตุ้ง/ไต้หวัน/มาเก๊า เพื่อ สนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดงานประชุม การจัดงานแสดงสินค้า ท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมไวน์ ทั้งนี้ยังต้องการ พัฒนาตลาดพันธบัตร ที่ออกโดยพันธบัตรรัฐบาล
ในช่วงตุลาคม 2551 รัฐบาลฮ่องกงเผชิญปัญหาภาวะวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ฮ่องกงคงยังต้องรักษาตำแหน่งศูนย์ กลางด้านการเงินของโลกให้แข็งแกร็งขึ้น
ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาการค้า รัฐบาลมุ่งตรงไปยังโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น สร้างความร่วมมือกับมณฑล กวางตุ้ง อุตสาหกรรมด้านบริการ ด้านสื่อสารเทคโนโลยี่ไปยังจีนแผ่นดินใหญ่และทั่วโลก สร้างความสัมพันธ์กับไต้หวันด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และส่งเสริมการค้าอุตสาหกรรมไวน์ ตลอดจนการพิจารณาเพิ่มพื้นที่จัดงานแสดงสินค้าในฮ่องกง
ฮ่องกงได้ขยายการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะเวลาขนาดกลางและยาวนาน โดยมีการส่งเสริมอุตสาหกรรม 6 ด้าน เช่น การบริการด้านการศึกษา การแพทย์ ทดสอบและรับรองอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี่และนวัตกรรม และวัฒนธรรม และสร้างอุตสาหกรรมใหม่
ตลอดจนการสนับสนุนความตกลงการค้าเสรีประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้ Closer Economic Partnership Arrangement(CEPA) โดยการลงนามร่วมมือเพิ่มเติมครั้งที่ 6 (9 พ.ค. 2552) ทำให้เปิดเสรีทางการค้า ในธุรกิจบริการ 20 รายการ(รวมครอบคลุมสินค้าและบริการทั้งสิ้น 42 กลุ่มธุรกิจ) และการร่วมมือยังได้สนับสนุนทางการเงิน เพื่อให้นักธุรกิจชาวฮ่องกงเข้าไปลงทุนและแข่งขันพัฒนาภาคบริการในจีน
ฮ่องกงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนต่างชาติ ตามรายงานของ UNCTAD World Investment Report 2009 ฮ่องกงได้รับการยอมรับว่าเป็นชาติน่าลงทุนที่สุดเป็นอันดับสองในเอเชีย และใหญ่อันดับเจ็ดที่มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน (FDI) ปี 2551 มีเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลมาฮ่องกงประมาณ 63 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 16% และฮ่องกงถือเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย ที่มีการลงทุนในต่างประเทศคิดเป็น 60 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การลงทุนในภาคธุรกิจบริการ ได้แก่ real estate, การขายส่ง การค้าปลีก และธุรกิจการค้า ได้แก่ Banking, Finance และ การประกันภัย ตลอดจน การขนส่งและการสื่อสาร
- ฮ่องกงเป็นที่เก็บสินค้าที่สำคัญของจีน
- ฮ่องกงมีการลงทุนในจีนมากที่สุด
- ศูนย์กลางการลงทุนนอกฝั่งที่สำคัญของจีน
- จีนถือฮ่องกงเป็นแหล่งการลงทุนภายนอกใหญ่อันดับสอง
ฮ่องกงนับว่าเป็นที่เก็บสินค้าของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการ re-export ไป-มาจากจีนไปยังที่อื่นๆ คิดเป็น อัตราส่วน 17% ที่ฮ่องกงเป็นผู้ดำเนินการ คิดเป็นอัตราสูงในการขนส่งสินค้าจากจีนผ่านฮ่องกง จากสถิติปี 2551 ตัวเลขการส่งออก ของจีน 63% และส่งไปยังจีน 49% และฮ่องกงถือเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของจีนรองจากสหรัฐฯและญีปุ่น
ฮ่องกงเป็นบริษัทต่างประเทศที่มีการลงทุนในจีนมากที่สุด โดยปลายปี 2551มีโครงการเงินทุนร่วมที่จดทะเบียนในจีนคิด เป็นร้อยละ 45 เป็นการลงทุนจากฮ่องกงมูลค่า 350 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และคิดเป็นร้อยละ 40 จากต่างประเทศ
จีนเป็นอันดับหนึ่งที่มีการลงทุนในฮ่องกง จากตัวเลขของหน่วยงานสถิติแห่งชาติฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ลงทุนในฮ่องกง คิดเป็นมูลค่า 479 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือร้อยละ 41 ของช่วงปี 2550
ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2552 ฮ่องกงได้อนุญาตให้ธนาคาร 7 ธนาคาร และ 6 สำนักงานตัวแทน ที่จดทะเบียนในจีน เข้ามาจัดตั้งสำนักงานสาขาในฮ่องกง รายใหญ่ๆ ได้แก่ Bank of China, Industrial and Commercial Bank of China, Agricultural Bank of China and China Construction Bank
ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการลงทุนนอกฝั่งที่สำคัญของจีน ในเดือนธันวาคม 2551 มีจำนวนบริษัทจากจีน 465 ราย ประกอบ ด้วย H-share, red-chip และ private companies โดยมีการลงทุนด้านตลาด มูลค่า 790 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 60 ของยอดรวมการตลาดทั้งหมด สำหรับช่วง 10 ปีผ่านมา บริษัทจีนลงทุนผ่านการซื้อหุ้นฮ่องกงมีมูลค่า $1.4 trillion(180 พันล้านเหรียญสหรัฐ)
- ฮ่องกงได้รับความนิยมในการที่มีสำนักงานตัวแทนและสำนักงานใหญ่ของบริษัทต่างชาติมาจัดตั้ง
- เป็นผู้นำด้านการสื่อสารโทรคมนาคมในเขตเอเชียแปซิฟิก
- มีธุรกิจการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
- เป็นท่าเรือใหญ่อันดับ 3 ของโลก
- เป็นศูนย์กลางการลงทุนร่วมทุนใหญ่ที่สุดในเอเชีย
- ตลาด Stock Market ใหญ่อันดับ 3 ของเอเชียและใหญ่อันดับ 7 ของโลก
- ตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราใหญ่อันดับ 3 ในเอเชีย และอันดับ 6 ของโลก
ฮ่องกงได้รับความนิยมในการที่มีบริษัท Headquarters หรือสำนักงานตัวแทน สำหรับบริษัทต่างประเทศมาจัดตั้ง ได้แก่ เขต Asia Pacific และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ในปี 2551 มีบริษัทต่างประเทศรวม 3,882 บริษัท และเพิ่มขึ้น 21% ในเวลา 5 ปีที่ผ่านมาฮ่องกงถือเป็นประตูการค้าสำคัญของจีน ที่มีบริษัทตัวแทนต่างๆ ตั้งอยู่ในฮ่องกง ประมาณร้อยละ 84 เช่น สหรัฐอเมริกามี RHQs/ROs ร้อยละ 24 ญี่ปุ่น ร้อยละ 19 สหราชอาณาจักร ร้อยละ 9 และจีน ร้อยละ 6 จำนวนครึ่งหนึ่ง ดำเนินธุรกิจประเภท ค้าส่ง ค้าปลีก นำเข้าและส่งออกและอื่นๆ เช่น ธุรกิจด้านบริการ(18%) สถาบันการเงินและธนาคาร(10%) และการขนส่ง(9%)
ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางธนาคารและสถาบันการเงินที่ใหญ่ในเอเชียแปซิฟิก ในปลายปี 2551 ฮ่องกงมีจำนวนธนาคาร กว่า 200 และสำนักงานตัวแทนกว่า 71 บริษัท ทำดำเนินการกู้ยืมเงินจากธนาคารให้แก่สถาบันการเงินต่างประเทศ และกู้ยืม อื่นๆให้กับต่างประเทศ มีมูลค่ากว่า 24 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 70 พันล้านเหรียญ ตามลำดับ
ฮ่องกงเป็นตลาด Stock Market ใหญ่อันดับ 3 ของเอเชียและใหญ่อันดับ 7 ของโลก จำนวน 1,254 บริษัท และ 189 บริษัทที่จะเกิดขึ้น
ฮ่องกงเป็นผู้นำด้านการสื่อสารโทรคมนาคมใหญ่ในเอเชียแปซิฟิก ปลายปี 2551 มีจำนวน สายโทรศัพท์ 3.71 ล้านสาย และโทรสาร 319,000 สาย และ ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนกว่า 11.4 ล้าน มากกว่าจำนวนประชากรของฮ่องกง และส่วน แบ่งตลาดของ Broadband internet เกินกว่า 77% ครัวเรือน
ฮ่องกงเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกในการทำธุรกิจและจัดงานแสดงสินค้าใหญ่ๆ ในแต่ละปีมีการจัดงานแสดงสินค้าและการ ประชุมมากกว่า 300 งาน
2007 2008 2009(ม.ค.-ส.ค.) US$ million Change% 07/06 US$ million Change% 08/07 US$ million Change% 09/08 Total Export 3,693 15.9 4,048 9.6 1,969 -27.5 Domestic Exports 138 -21.7 178 28.5 67 -40.7 Re-Exports 3,555 18.1 3,870 8.9 1,901 -26.9 Imports 7,356 8.1 8,174 11.1 4,548 -18.1 (Of which re-exported) 6,018 34.8 6,087 1.1 3,879 2.3 Total Trade 11,049 10.6 12,222 10.6 6,516 -21.2 Trade Balance -3,662 -4,126 -2,579
ในปี 2009(ม.ค.-ส.ค.) ฮ่องกงนำเข้าสินค้ามีมูลค่า 213,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (-17.4) ในขณะที่นำเข้า สินค้าจากไทยมูลค่า 4,548 ล้านเหรียญสหรัฐ(-18.1) สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์(-23.0) อุปกรณ์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์(-18.0) เครื่องสื่อสารอุปกรณ์และชิ้นส่วนต่างๆ(-13.3)
ในขณะที่ผลไม้และผลไม้แห้ง (+44.6) ของเด็กเล่นและเกมส์ (+19.7) ส่วนประกอบและชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์ (+7.2) เนื้อสัตว์ สด แช่เย็น/แช่แข็ง (+9.7) ข้าว (+4.4)
- ข้าว /ผลไม้/อาหารทะเลแช่แข็ง/เครื่องปรุงรสที่ใช้ในภัตตาคาร/โรงแรม
- วัตถุดิบในการผลิตต่อ เช่น แผงวงจรไฟฟ้า ชิ้นส่วน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
- ของเด็กเล่นและเกมส์
- สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ
- สนับสนุนภาพเอกชนในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าให้มากขึ้น(ไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในฮ่องกงประมาณ
- เร่งรัดหาข้อสรุปการทำข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ฮ่องกง(CEPA) ให้เห็นผลทางปฏิบัติ เพื่อเปิดตลาด
สินค้าไทยผ่านฮ่องกงไปจีนให้มากขึ้น(โดยเฉพาะมณฑลทาง PRD) สนับสนุนการจัดตั้ง Thai-Macau Chamber of Commerce
เพื่อใช้ประโยชน์ในการขยายตลาดส่งออกไปยังมาเก๊าและประเทศที่พูดภาษาโปรตุเกศให้มากขึ้น(อาทิ โปรตุเกส บราซิล)
Top 10 Imports from Thailand to Hong Kong
Rank Category
1 Computers
2 Semi-Conductors, Electronic Valves & Tubes, Etc
3 Telecommunications Equipments & Parts
4 Fruits (fresh or dried)
5 Parts & Accessories of Office Machines / Computers
6 Rice
7 Electrical Apparatus for Electrical Circuits
8 Polymers of Styrene
9 Pearls, Precious & Semi-Precious Stones
10 Other plastics, in primary forms
ที่มา: http://www.depthai.go.th