ธุรกิจ On-line ช่องทางการขายที่เติบโตเร็ว

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 9, 2009 15:46 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ญี่ปุ่น ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าสลับซับซ้อนและมีต้นทุนการขายสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ขณะเดียวกันก็เป็นประเทศที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึงสินค้าได้มากที่สุดเช่นกัน ยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย ผู้คนใช้จ่ายอย่างประหยัด ผู้ขายจึงต้องแข่งขันกันทุกวิถีทาง ทั้งด้วยราคาที่ต่ำกว่า ให้ความสะดวกแก่ผู้ซื้อมากกว่า แต่ยังต้องคงรักษาความปลอดภัยและคุณภาพสินค้าไว้ในระดับสูง เมื่อราคาสินค้ามีแนวโน้มว่าต้องลดลง ทางอยู่รอดในธุรกิจ คือ ต้องลดต้นทุนลง ธุรกิจขายปลีกทาง web-site หรือ online business จึงเติบโต และเมื่อผนวกกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ (influenza) ผู้ซื้อที่เคยนิยมใช้เวลาว่าง shopping ดูสินค้าใหม่ๆ ก็เปลี่ยนมาใช้วิธี Stay at home consumption

ในจำนวนประชากร 127 ล้านคน มีจำนวนชาวญี่ปุ่นที่เชื่อมต่อกับ internet จำนวนมากถึง 80 ล้านคนหรือคิดเป็นร้อยละ 75 จึงถือเป็นจุดพลิกผันให้ธุรกิจ Supermarket Chain บางราย เช่น Summit Inc. (บริษัทในเครือของ Sumitomo Corp.) ปิดร้านซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วเปลี่ยนสถานที่มาเป็นศูนย์เตรียม และจัดส่งสินค้า(merchandise-processing and shipping center) เปลี่ยนจากการขายในร้าย มาเป็นการขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (on-line store) ซึ่งผู้บริหารธุรกิจนี้มั่นใจว่าตลาดจะขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อเนื่องกันอีกนานกว่า 10 ข้างหน้า

สถาบันวิจัย Nomura Research Institute, Japan Direct Marketing Association ประมาณว่ามูลค่าการขายผ่านเวปไซด์ (on-line sale)มีมูลค่าสูงถึง 6,000 พันล้านเยน เมื่อรวมกับการขายทาง mail-order แล้วน่าจะมีมูลค่ามากกว่า 8,000 พันล้านเยนในปีงบประมาณ 2551 และมีการขยายตัวมากกว่าปีละ 20% ต่อปีขณะที่การขายผ่านห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตมียอดขายลดลงประมาณ 20 % ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สูงกว่ายอดขายของห้างสรรพสินค้า (ต่ำกว่า 8,000 พันล้านเยน) และร้านสะดวกซื้อ(ประมาณ 7,000 พันล้านเยน)

ร้านค้าสะดวกซื้อ เช่น Seven & I ก็วางเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจ on-line โดยจะผนึกเวปไซด์ของธุรกิจในเครือ ได้แก่ Ito-Yokada Co. กับ Seven & I ซึ่งทั้งสองบริษัทต่างก็มีและข้อมูลเป็นอิสระ เข้าเป็นเวปไซด์เดียวกัน นอกจากนี้จะตั้งศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่จังหวัด Saitama ให้มีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับสินค้าจำนวนมากถึง 5 ล้านรายการ ด้วยระบบการขายใหม่นี้ ลูกค้าจะสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้าจากเวปไซด์ และทำการสั่งซื้อ จากนั้นกำหนดให้จัดส่งไปที่บ้าน หรือระบุสาขาของ Seven & I ที่จะไปรับสินค้าด้วยตนเองก็ได้เช่นกัน ระบบดังกล่าว Seven & I อยู่ในช่วงปรับปรุง และกำลังมองหาบริษัทที่มีความชำนาญมาร่วมดำเนินการ

บริษัทที่ริเริ่มขาย on-line ที่ประสบความสำเร็จและถือว่าเป็นผู้นำของตลาดขณะนี้ คือ Rakuten Ichiba ซึ่งเป็นที่รู้จักกว้างขวางว่าเป็น on-line shopping mall ธุรกิจของ Rakuten ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สินค้าที่ขาย มี หลากหลายทั้งสินค้าที่ผลิตในประเทศและที่นำเข้า มูลค่าการขายในบางวันมีมูลค่าสูงกว่า 3,000 ล้านเยน ความสำเร็จของเวปไซด์นี้อยู่ที่หลายปัจจัย เช่น

  • การผนึกกำลังกับบริษัทขายปลีกที่มีชื่อ เช่น Maruetsu Inc., Kinokuniya Co., และ Tokyu Store Chain Co., สินค้าไทยก็เข้าไปจำหน่ายในเวปไซด์นี้หลายรายการ
  • การพัฒนารูปแบบเวปไซด์ให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนการเข้าไปในห้างสรรพสินค้า (virtual store)
  • การสร้างเครือข่ายลูกค้าที่เป็นสมาชิก ซึ่งมีจำนวนมาถึง 58 ล้านคน
  • การสร้างความมั่นใจแก่ผู้ซื้อเรื่องคุณภาพ การส่งมอบ และบริการหลังการขาย

เมื่อการซื้อ-ขายทางเวปไซด์เป็นที่นิยม และตลาดขายตัว การแข่งขันก็สูงขึ้นเป็นธรรมดา ทำให้สร้างโอกาสแก่สินค้าจากต่างประเทศ แต่ละเวปไซด์ต่างก็แข่งขันกันเพิ่มความหลากหลายและแนะนำสินค้าใหม่จากต่างประเทศ เหมือนมีร้านค้าย่อย ๆ เฉพาะอย่างในร้านของเวปไซด์ใหญ่ การร่วมมือกับบริษัทที่ทำธุรกิจ on-line จึงมีต้นทุนเริ่มต้นไม่สูงนักและสามารถเข้าถึงลูกค้าที่เป็นสมาชิกได้จำนวนมากพร้อมๆ กัน ขณะเดียวกันบริษัทของไทยก็สามารถใช้แนวคิดเดียวกันนี้ในการสร้างเวทีซื้อ-ขายสินค้าไทยในตลาดต่างประเทศ สิ่งสำคัญคือการสร้างความเชื่อถือและความมั่นใจแก่พันธมิตร และผู้ซื้อเรื่องคุณภาพ มาตรฐานของสินค้าและ การตรงต่อเวลาในการส่งมอบ

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก ญี่ปุ่น  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ