นับตั้งแต่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป ผู้ส่งออกสินค้าอาหารของไทยไปตลาดฮ่องกงต้องเตรียมรับมือกับร้านค้าปลีกทั้งหลายในฮ่องกง จะเริ่มเข้มงวดกับการติดฉลากโภชนาการของสินค้าอาหารที่ขายในร้าน ให้สอดคล้องกฏหมายฉลากอาหารใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฏาคม 2553
ในเนื้อหาหลักของฉลากโภชนาการใหม่ คือ
1. ต้องระบุ พลังงาน +7 สารอาหารหลัก(Energy plus 7 Core Nutritions) ซึ่งได้แก่ โปรตีน คาร์บอไฮเดรท ไขมันรวม ไขมันอิ่มตัว Transfat โซเดียม และน้ำตาล
2. หากมีการกล่าวอ้างสรรพคุณอาหาร หรือสารอาหารอื่นใดเพิ่มเติม นอกเหนือจาก ข้อ 1 ต้องแสดงในฉลากด้วย
3. หน่วยการแสดง ถ้าเป็นพลังงานใช้ K cal(Kilo — calories) หรือ KC (Kilo — Joules) ถ้าเป็นสารอาหาร ใช้สัดส่วน 100 กรัมต่อมิลลิลิตร(100g/ml) หรือต่อ การรับประทาน 1 ครั้ง(per serving)
4. ฉลากแสดงคุณค่าทางโภชนาการต้องในรูปแบบตารางเป็นภาษาอังกฤษ หรือ จีน หรือทั้ง 2 ภาษา
5. ฉลากจะต้องไม่อยู่ในส่วนของฉลากสินค้า
ทั้งนี้ ห้ามกล่าวอ้าง/โฆษณา สรรพคุณ ที่ยังไม่มีมาตรฐานหรือหลักฐานวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์ทางสากล เช่น Health Heart, High Omega-3 เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องติดฉลากโภชนการ(Nutrition Label) ได้แก่
- อาหารสดธรรมชาติ (Natural fresh food) ไม่มีการใส่ส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น เนื้อสัตว์ต่างๆ ผัก/ผลไม้สดและแห้ง
- สินค้าที่มีพื้นผิวบรรจุภัณฑ์น้อยกว่า 100 ตร.ซม.
- สินค้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยมาก เช่น ใบชา เครื่องเทศ
- สินค้าอาหารที่ยอดจำหน่ายรวมต่อปี ไม่เกิน 30,000 ชิ้น โดยจะต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานของฮ่องกง ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนในเดือนเมษายน 2553
ดังนั้นผู้ส่งออกไทยต้องเตรียมรับมือกับกฏหมายนี้แต่เนิ่นๆ โดยประสานกับผู้นำเข้า
อย่างใกล้ชิด เพราะหากทางการฮ่องกงตรวจพบจะแจ้งผู้ค้าปลีกให้ดำเนินการนำสินค้าลงจากชั้น เพื่อแก้ไข ผู้ค้าปลีกจะแจ้งผู้นำเข้าให้ดำเนินการ เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายในฮ่องกงส่วนใหญ่จะนำเข้าผ่านผู้นำเข้าหรือ Agent ก็จะแจ้งผู้ผลิตให้ดำเนินการ ซึ่งกว่าดำเนินการแก้ไข สินค้าอาจหมดอายุ ซึ่งเป็นต้นทุนที่ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยต้องรับภาระต่อไป
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.fehd.gov.hk/safefood/foodlaw1.htm หรือติดต่อ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ที่ Email: thaicomm@netvigator.com
ที่มา: http://www.depthai.go.th