การวางแผนหาสินค้าของขวัญของที่ระลึกมาเสนอแก่ลูกค้าในทุกวันนี้ ต้องคำนึงถึงความคิดเห็นและความรอบคอบของผู้ซื้อมากขึ้นเพราะผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย โดยจะพึงพอใจกับของที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางจิตใจจริงๆ ทำให้ผู้ขายส่งและขายปลีกต้องมีการปรับตัวทั้งในด้านการเลือกสินค้าและการให้ความสะดวกแก่ผู้บริโภค ซึ่งมีผลต่อการทำธุรกิจตามแนวโน้มความต้องการของตลาด เช่น การปรับจำนวนสินค้าคงคลังให้มีจำนวนน้อยลงหรือใช้พื้นที่เก็บน้อยลง รวมทั้งการเก็บรักษาสินค้าให้แก่ลูกค้า และการสั่งซื้อในระบบออนไลน์ที่สามารถจัดส่งสินค้าได้รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัด
สินค้าของขวัญของที่ระลึกที่ยังมีลู่ทางดี จึงต้องตอบสนองต่อแนวโน้มดังกล่าวได้ ตามที่ Gifts & Novelties Newsletter ได้รายงานไว้ พอจะสรุปเป็นแนวโน้มได้ ดังนี้
- สินค้าที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อผ้ารีสอร์ท เช่น เสื้อผ้าปักหรือพิมพ์ลาย เสื้อกันหนาวแบบมีที่คลุมศีรษะ
- สินค้าที่เป็นประโยชน์หรือมีความจำเป็นในการศึกษา เช่น อุปกรณ์ทำงานศิลปะ เครื่องเขียน และของที่ครูและนักเรียนต้องใช้ในการเรียนการสอนงานศิลปะ
- สินค้าของเล่นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการศึกษาธรรมชาติ เช่น ตุ๊กตาหรือหุ่นจำลองรูปสัตว์ที่ควรแก่การศึกษา ตัวอย่างเช่น ไดโนเสาร์ ปลาฉลาม เป็นต้น
- สินค้าที่ประดิษฐ์มาจากดอกไม้ ใบไม้จริง เป็นของสะสมและเป็นงานศิลปะ ซึ่งมีเอกลักษณ์และสอดคล้องกับความต้องการงานฝีมือท้องถิ่นของคนอเมริกัน ซึ่งผู้ซื้อหรือผู้บริโภคจะให้คุณค่ามากกว่าสินค้านำเข้าที่เป็นการผลิตแบบ mass production
ในประเด็นสุดท้ายนี้ อาจนำมาพิจารณาได้ว่า สินค้าที่มาจากธรรมชาติและมีแนวคิดในการยกย่องธรรมชาติ ศิลปะ และส่งทอดความคิดในการรักษาสิ่งแวดล้อม หรือการทำการตลาดสินค้า “Green” ก็ยังได้รับความสนใจจากลูกค้าอยู่
แม้ว่าการสั่งซื้อในฤดูใบไม้ร่วงจะผ่านไปแล้ว แนวความคิดดังกล่าวก็ยังจะใช้ได้กับฤดูการสั่งซื้อในต้นปีหน้า ซึ่งผู้บริโภคยังได้รับผลของภาวะเศรษฐกิจซบเซาในปีที่ผ่านมา ผู้ส่งออกจึงควรจะต้องคิดวางแผนการผลิตสินค้าที่สอดคล้องกับการปรับวิธีการทำธุรกิจของผู้ขายส่ง — ขายปลีก รวมทั้งสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
ที่มา: http://www.depthai.go.th