ขณะที่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย อัตราการว่างงานสูงขึ้น ค่าจ้างเฉลี่ยลดลง คนญี่ปุ่นระมัดการใช้จ่ายสินค้า brand หรู และยอดการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือย ประเภท อัญมณี เครื่องประดับ งานศิลปะ และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายคุณภาพดี การออกแบบมีลักษณะเฉพาะที่มีราคาค่อนข้างสูงจำหน่ายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม 2551-กันยายน 2552 สินค้าแฟชั่นที่คุณภาพพอใช้ได้แต่ราคาไม่แพงกลับเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ปี 2551 เช่น ร้านเสื้อผ้า Uniqlo ซึ่งเป็นยี่ห้อญี่ปุ่น มี chain store ทั่วประเทศ เป็นเสื้อผ้าสำหรับชีวิตประจำวัน แบบเรียบ คุณภาพปานกลาง ราคาประหยัดได้รับความนิยมจากผู้บริโภคญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมาก รวมทั้งร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ยี่ห้อ H&M ของสวีเดนที่ไปเปิดตัวที่โตเกียวก็ได้รับการต้อนรับจากลูกค้าญี่ปุ่นด้วยเหตุผลที่มีราคาไม่แพง แต่เป็นสินค้าที่มี design เป็นต้น
ปี 2552 นี้ สงครามการแข่งขันด้านราคารุนแรงมากขึ้น ผู้ประกอบการค้าปลีก ต่างก็ใช้กลยุทธ์จำหน่ายเสื้อผ้าราคาถูกลงเพื่อดึงดูดลูกค้า พยายามลดต้นทุนด้วยการสั่งผลิตจากต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำ ตาม design เนื้อผ้า และวัสดุที่ต้องการ รวมทั้งควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่เป็น casual wear โดยเมื่อเดือน มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา บริษัท Fast Retailing เจ้าของร้านเสื้อผ้า Uniqlo นำกางเกงยีนส์ราคาเพียง 990 เยน (370 บาท) วางตลาดภายใต้ยี่ห้อ g.u. ซึ่งเป็น brand สินค้าราคาถูกของบริษัท หลังจากนั้น ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก/ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไม่ว่าจะเป็น AEON JUSCO ห้างฯ SEIYU ซึ่งดำเนินงานโดย Wal-Mart ของสหรัฐฯ เริ่มนำเสื้อผ้า private brand ราคาถูกวางจำหน่ายเพื่อจูงใจลูกค้าเช่นกัน และเร็วๆ นี้ Don Quijote ผู้ประกอบการ discount store สินค้าทั่วไป นำยีนส์ราคาถูกภายใต้ private brand ของตนวางจำหน่ายในราคาเพียงตัวละ 690 เยน
สินค้าที่ผู้ประกอบการนำมาวางตลาด ไม่เพียงแต่มีราคาถูกเท่านั้น แต่เลือกเนื้อผ้าเหมาะกับฤดูกาลออกแบบเข้ากับแฟชั่น เช่นในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง บริษัท Fast Retailing และ AEON JUSCO นำเสื้อยืด และ แจ๊คเก็ต ที่ทำจากผ้า fleece ที่ให้ความรู้สึกคล้ายเสื้อหนัง จำหน่ายราคาตั้งแต่ 490 - 3,990 เยน โดยออกแบบหลากหลาย และมีสีให้เลือกกว่า 100 สี เป็นต้น
ในช่วงฤดู ใบไม้ร่วงต่อเนื่องฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงแฟชั่นย้อนยุค 1980s ที่ราคาไม่แพงกำลังมาแรงโดยเฉพาะสไตล์ rock ‘n’ roll แจ๊คเก็ตหนัง และสินค้าอื่นที่ตกแต่งด้วยหมุด เข็มขัด ซิปและอุปกรณ์โลหะต่างๆ กำลังเป็นที่นิยม สาวๆ ญี่ปุ่นให้ความสนใจเลือกซื้อสินค้า “good buys” ที่ in trend แต่ราคาไม่แพง เช่น แจ๊คเก็ต หนังสังเคราะห์ของ Uniqlo ราคา 5,990 เยน ขณะที่ห้างฯ Seiyu นำสินค้าคล้ายกันภายใต้ยี่ห้อของห้างฯ ออกจำหน่ายในราคา 4,990 เยน หรือแม้แต่แจ๊คเก็ตที่ผลิตจากหนังแท้ราคา 15,000-30,000 เยน ซึ่งต่ำกว่าราคาปีที่แล้ว 20-30% ทำให้ยอดขายพุ่งสูงกว่าปีที่แล้ว 2-3 เท่า
นอกจากเสื้อผ้าแล้ว รองเท้าบู้ทสูง 20-30 ซม. ที่สามารถพับลงให้เป็นรองเท้าแบบใหม่ในคู่เดียวก็เป็นที่นิยม โดยลูกค้าสตรีวัย 20-40 ปี ของห้างฯไดมารูสนใจซื้อรองเท้าบู้ทหนังเทียมราคา 8,000-15,000 เยน ทำให้ยอดขายรองเท้าบู้ทสตรีของห้างฯสัปดาห์แรกเดือนกันยายน 2552 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
เห็นได้ว่า ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้าสำเร็จรูปและสินค้าแฟชั่นของญี่ปุ่น ที่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดจำหน่ายสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ได้ปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภค ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ เลือก/ออกแบบเนื้อผ้าคุณภาพดี สไตล์ in trend ราคาไม่แพง ลดต้นทุนต่อหน่วยถูกลง ด้วยการเพิ่มปริมาณการผลิตแต่ละ lot มากขึ้น จากการการออกแบบมี design ที่ให้คนจำนวนมากใช้ได้ แต่เพิ่มความหลากหลาย ที่มีแบบและสีให้เลือกมากขึ้น รวมทั้งบริหารให้คงเหลือสินค้าในสต๊อคน้อยที่สุด เพื่อลดต้นทุนการเก็บสินค้า และหลีกเลี่ยงการลดราคาสินค้าครั้งใหญ่
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: http://www.depthai.go.th