1.1 การค้าและการบริโภคข้าวของฮ่องกง
ข้าวเป็นสินค้าที่ชาวฮ่องกงส่วนใหญ่บริโภคทุกวัน โดยมีอัตราการบริโภคเฉลี่ยต่อคนประมาณ 48-50 กก. ต่อปี ฮ่องกงไม่ผลิตข้าว แต่จะนำเข้าข้าวจากต่างประเทศประมาณ 300,000 ตันต่อปี มูลค่าปีละ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ครองตลาดร้อยละ 80-85 ส่วนใหญ่จะใช้บริโภคภายในประเทศ ส่วนที่เหลือจะส่งต่อไปยังประเทศ ที่สาม อาทิ มาเก๊า จีน แคนาดา สหรัฐอเมริกา ปัจจัยที่สำคัญที่มีผลในการเลือกซื้อข้าวของชาวฮ่องกง ได้แก่ ราคา คุณภาพ และรสชาด โดยชาวฮ่องกงนิยมบริโภคทั้งข้าวเมล็ดยาว (ข้าวหอมมะลิจากไทย) และข้าวเมล็ดสั้น
1.2 มาตรการของรัฐบาลฮ่องกงเกี่ยวกับการค้าข้าว
ข้าวถือเป็นสินค้ายุทธศาสตร์ (Strategic Commodities) ของฮ่องกง การจะนำเข้าต้องขออนุญาตจากกรมการค้าและอุตสาหกรรม(Department of Trade and Industry) เมื่อปี 2498(ค.ศ. 1955) รัฐบาลฮ่องกงได้ดำเนินโครงการควบคุมการค้าข้าว(rice control scheme) เนื่องจากต้องการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่า ฮ่องกงจะมีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภค และมีข้าวสำรองในยามฉุกเฉินด้วย ภายใต้โครงการดังกล่าว ผู้นำข้าวจะได้รับการจัดสรรโควต้าการนำเข้าข้าว ต่อมาหลังจากที่ฮ่องกงเข้าเป็นสมาชิก WTO ในปี 2538(ค.ศ. 1995) รัฐบาลฮ่องกงจะต้องเปิดให้มีการแข่งขันการค้าข้าวอย่างเสรีมากขึ้น จึงได้ทบทวนโครงการนี้ใหม่ และดำเนินมาตรการเปิดเสรีการค้าข้าวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ปี 2539 (ค.ศ.1996) เป็นต้นมา โดยในปี 2546 (ค.ศ. 2003) รัฐบาลได้คงมาตรการที่จำเป็นในการควบคุมการค้าข้าวไว้บางมาตรการเท่านั้น เพื่อเป็นการประกันการมีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภค โดยผู้ที่มีความประสงค์จะค้าข้าวในฮ่องกงต้องลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้าข้าว หรือประกอบกิจการค้าข้าว (การขายส่งและการขายปลีก)
หลังจากปี พ.ศ.2546 รัฐบาลฮ่องกงได้ยกเลิกข้อกำหนดในการนำเข้าข้าว และปล่อยให้ราคาข้าว จำนวนของผู้ประกอบการ และส่วนแบ่งตลาดขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของการแข่งขันอย่างเสรีในตลาด ทำให้จำนวนผู้ค้าข้าวเพิ่มขึ้นจาก 50 รายในปี 2546 เป็นประมาณ 123 รายในปัจจุบัน (พ.ค.2552) โดย Trade and Industry Department ของฮ่องกงมีหน้าที่หลักในการติดต่อ/ประสานงานกับผู้ค้าข้าว ตลอดจนตรวจสอบการนำเข้า การเก็บสินค้า และการขายข้าวอย่างใกล้ชิดด้วย นอกจากนี้ตั้งแต่เดือน พ.ค.2551 รัฐบาลฮ่องกงได้มอบหมายให้ Consumer Council ดูแลและสำรวจการเคลื่อนไหวของราคาอาหารและสินค้าที่จำเป็น(รวมถึงข้าว) โดยได้เพิ่มความถี่ของการสำรวจจาก 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์ เป็น 1 ครั้งต่อสัปดาห์ตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.2551 และเผยแพร่ผลการสำรวจผ่านเว็ปไซค์ของ Consumer Council และผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง
2.1 ข้าวไทยและการแข่งขันในตลาดฮ่องกง
ข้าวไทยเป็นที่นิยมในตลาดฮ่องกงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอมมะลิ เนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพดี โดยสามารถครองส่วนแบ่งของตลาดได้มากที่สุด (ประมาณร้อยละ 82-85) เมื่อเทียบกับผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อื่นๆ อาทิ จีน(ร้อยละ 13.3) เวียดนาม(ร้อยละ 4)ออสเตรเลีย(ร้อยละ0.7) สหรัฐอเมริกา(ร้อยละ 0.1) ทั้งนี้ เวียดนามมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา(สิงหาคม) 0.8% ไทยลดลง 0.5% จีนลดลง 0.1% โดยมีสถิติการนำเข้าข้าวจากผู้ส่งออกรายใหญ่ไปยังฮ่องกงตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002-2009(ม.ค.-ก.ย.) ดังนี้
2.2 โอกาสของข้าวไทยในตลาดฮ่องกง
ข้าวไทยนับว่าเป็นที่นิยมและติดตลาดฮ่องกง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวหอมมะลิ เนื่องจากมีคุณภาพที่ดี ดังนั้น การรักษาคุณภาพข้าวของไทยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยจะต้องมีการตรวจสอบไม่ให้มีสิ่งปลอมปนในข้าว ตลอดจนไม่ให้มีการผสมข้าวหอมมะลิกับข้าวชนิดอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าข้าวไทยจะมีราคาแพง แต่ชาวฮ่องกงก็ยังคงเลือกที่จะบริโภค เนื่องจากมีกำลังซื้อและนิยมสินค้าที่มีคุณภาพดีมากกว่าปัจจัยด้านราคา
ไทยอาจจะส่งเสริมการส่งออกข้าวเพื่อสุขภาพ อาทิ ข้าวปลอดสารพิษ ข้าวกล้อง ไปยังตลาดฮ่องกงมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันชาวฮ่องกงหันมาให้ความสนใจการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น
2.3 ปัญหา
ชาวฮ่องกงเริ่มหันมานิยมบริโภคข้าวจากเวียดนาม เนื่องจากราคาไม่แพง ข้าวที่นำเข้าจากเวียดนาม (อัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก ปี 2551 ร้อยละ 1.6 ปัจจุบัน(ม.ค.-ก.ย. 52) เพิ่มขึ้นเท่ากับ ร้อยละ 4) โดยราคานำเข้า เฉลี่ยแล้วถูกกว่า คิดเป็น 150/25 กก.(ข้าวขาว)
ตลอดจนฮ่องกงนำเข้าจากจีน(อัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 9.4 ในปี 2552(ม.ค.-ก.ย.) เพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 13.4)
2.4 การส่งเสริมการขาย
ไทยอาจสามารถเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวไปฮ่องกงได้มากขึ้น โดย
o การส่งเสริม และประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางร้านอาหารไทยในฮ่องกงให้มากขึ้น
o การส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยตามเทศกาลต่างๆ หรือตามงาน in-store promotion โดยอาจสาธิตการทำอาหารโดยใช้ข้าวไทยเป็นส่วนประกอบ
o ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ ข้าวหอมมะลิไทย ผ่านสื่อต่างๆ
o ร่วมมือกับผู้นำเข้าหรือผู้กระจายสินค้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
o ร่วมมือกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวในฮ่องกง
3. รายชื่อผู้นำเข้าข้าว
3.1 สมาคมข้าว
HK Rice Importers & Exporters Association
PO Box 33771
Sheung Wan Post Office, Hong Kong.
Tel.: 852 2547 7323
Fax. 852 2547 7323
Chairman: Mr. Chan Wai Shun
The Rice Merchants’ Association of HK
PO Box 33402
Sheung Wan Post Office
Hong Kong.
Tel. 852 2543 6247
Fax. 852 2541 4721
Email: kknc@kfy.com.hk
Chairman: Mr. Kenneth Chan
Hong Kong Rice Suppliers — Association Ltd.
G/F., 72 Connaught Road, West,
Hong Kong.
Tel. 852 2548 1228
Fax. 852 2858 6964
Chairman : Mr. Lam Tong
3.2 รายชื่อผู้นำเข้าข้าวสำคัญ
1. Kui Fat Yuen Ltd.
229-231 Wing Lok Street,
1/F., Hong Kong
Tel: 852 2543 6247
Fax: 852 2541 4721
- Ms. Amy Chan Li - Exe Director
2. Dah Chong Hong Ltd.
9/F., 20 Kai Cheung Road,
Kowloon Bay, Kowloon, Hong Kong
Tel: 852 2768 3388
Fax: 852 2753 6266
Fomdept@fom.dch.com.hk
- Mr. H.F. Chu — Director
3. Kwong Sun Hong Ltd.
Rom 101-2 Bonham Commercial Ctr,
44-46 Bonham Strand West, HK
Tel: 852 2545 1666
Fax: 852 2854 1308
Ksh@kwongsun.com
- Ms. Wong Winnie Kar Wai
Marketing Manager
4. Golden Resource Group
11/F Golden Resources Centre
2-12 Cheung Tat Road, Tsing Yi
N.T., Hong Kong.
Tel. 852 2432 8188
Fax. 852 2433 4092
- Mr. Anthony Lam — Executive Director
5. Chui Tai Hong,
Chung Shing Hong Rice Co., Ltd.
Mr. Tong Tai Kam David
G/F., 145 Connaught Road, West
Sai Ying Pun, Hong Kong.
Tel. 852 2548 4009
Fax. 852-2549 7191
Email: tktong@netvigator.com
Mr. Tong kam David - Manager
ติดต่อ : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง
Office of Thai Trade Commissioner
Royal Thai Consulate General - HK
No.8 Cotton Tree Drive
8/F Fairmont House, Central,
Hong Kong
Tel: 852 2525 9716 Fax: 852 2868 4927
E-mail: thaicomm@netvigator.com
ที่มา: http://www.depthai.go.th