ความสาคัญของภาคกลางและภาคใต้ของประเทศอิตาลี (เขตดูแลของ สคต. โรม)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 18, 2009 16:20 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ปัจจัยสาคัญ

1. บทบาทของความเป็นเมืองหลวงของกรุงโรม

2. เป็นที่ตั้งของยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์

3. มีบริษัทขนาดกลางและย่อมอยู่มากมาย

4. มีศักยภาพการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ/การลงทุนสูง

5. มีเครื่องมือสนับสนุนมากกว่า

ความสาคัญของบทบาทของสคต. โรมในประเทศอิตาลี

1. สคต.โรมเป็นหน่วยงานตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์ไทยในอิตาลี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองหลวง เพื่อทาหน้าที่ติดตามนโยบายการค้าการลงทุน และข้อกาหนดระเบียบต่างๆ ของอิตาลี วิเคราะห์รายงานและจัดทาเป็นฐานข้อมูลให้แก่ผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องของไทยเพื่อใช้ประโยชน์ในการดาเนินธุรกิจและรักษาขยายตลาดและการลงทุนของไทย และการแก้ไขปัญหาการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีทาหน้าที่ในการริเริ่มด้านการทาธุรกิจ/ธุรกรรมกับประเทศไทยให้แก่บริษัทของอิตาลี ผู้ปฏิบัติงานด้านการค้า กระทรวงต่างๆ ของอิตาลี รวมถึงสมาคมการค้าและการท่าอากาศยาน/ท่าเรือต่างๆ

ดังนั้นความใกล้ชิดของสคต. โรมและหน่วยงานภาครัฐของอิตาลีจึงมีความสาคัญและจาเป็นอย่างมากเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีทั้งด้านการทูต การค้า และการลงทุนระหว่างกัน ทั้งนี้สคต. โรมกาลังดาเนินบทบาทที่สาคัญเหล่านี้เพื่อสนับสนุนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทุกๆ ด้านเพื่อพัฒนาด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม

2. การที่สคต. โรมจะต้องตั้งอยู่ในกรุงโรมซึ่งเป็นศูนย์กลางของประเทศ เพื่อให้มีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตนี้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และลดค่าใช้จ่ายกว่าการตั้งสานักงานอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นภาคกลางของประเทศเป็นที่ตั้งของยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ในการขนส่งสินค้าบนภาคพื้นดินหรือสู่ทางทะเล เนื่องจากอยู่ในศูนย์กลางและล้อมรอบด้วยท่าเรือสาคัญต่างๆ ได้แก่ Gioia Tauro (Calabria) ซึ่งเป็นท่าเรือที่สาคัญที่สุดในการส่งสินค้าระหว่างภูมิภาคเอเชียเนื่องจากมีระยะทางที่ใกล้เอเชียมากกว่าท่าเรืออื่นๆ ในอิตาลี นอกจากนี้ยังมีท่าเรืออื่นๆ ได้แก่ Naples (Campania) Livorno (Tuscany) Civitavecchia (Lazio) Bari (Puglia)

อัตราการขยายตัวของ GDP (ร้อยละ)

                   ปี 2005        ปี 2006      อัตราขยายตัว
ภาคกลาง             -0.2          1.8            2.0
ภาคใต้               -0.1          1.4            1.5
รวมทั้งประเทศ          0.0          1.9            1.9


GDP ของแต่ละแคว้นในภาคกลางและภาคใต้     อัตราขยายตัว (ร้อยละ) (ปี2006/2005)
          ทอสคานี                                 2.0
          อูมเบียร์                                 2.4
          มาเก้                                   2.6
          ลาซิโอ                                  1.4
          อับบรูโซ                                 1.6
          มอลิเซ่                                  1.4
          แคมปาเนีย                               1.4
          ปูเกลีย                                  1.4
          บาซิลิกาตา                               2.1
          กาลาเบรีย                               1.1
          ซิซิลี                                    1.0
          ซาดีเนีย                                 1.3
          รวมอิตาลี                                1.9

3. พื้นที่ในภาคกลางและใต้เป็นพื้นที่ที่มีอุตสาหกรรมพื้นฐานของอิตาลีซึ่งผลิตโดยบริษัทขนาดกลางและย่อมของอิตาลี ด้วยเหตุนี้เองทาให้พื้นที่ในเขตดังกล่าวจึงเต็มไปด้วยผู้กระจายสินค้าและผู้ค้า ในขณะที่ทางตอนเหนือของประเทศมีแต่ผู้ผลิตสินค้า เนื่องจากสคต. โรมมีหน้าที่หลักในด้านการสนับสนุนการส่งออกสินค้าไทย การที่สคต. โรมตั้งอยู่ในเขตตอนใต้ซึ่งมีบริษัทดังกล่าวมากมายสนใจที่จะนาเข้าสินค้าและแลกเปลี่ยนสินค้าแทนที่จะผลิตและส่งออกไปจากอิตาลี ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทขนาดกลางและย่อมในภาคกลางและภาคใต้จึงเหมาะสมกับความต้องการและเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทขนาดกลางและย่อมจากประเทศไทย

มูลค่าการค้าระหว่างอิตาลี (ภาคกลาง/ภาคใต้) และไทยในปี 2550

การค้าระหว่างอิตาลีและไทยปี 2550 (หน่วย พันยูโร)

            มูลค่าการนาเข้า       อัตราขยายตัว       มูลค่าการส่งออก       อัตราขยายตัว
                            (ร้อยละ) ปี 50/49                     (ร้อยละ) ปี 50/49
ภาคกลาง        336,762          43.06             153,534             9.61
ภาคเหนือ      1,196,300          19.04             657,145            -0.18
แหล่งที่มาของข้อมูล ISTAT

จากสถิติจะเห็นได้ว่า แม้ว่ามูลค่าการค้าของภาคเหนือทั้งด้านการส่งออกและนาเข้าจะสูงกว่า แต่พบว่าอัตราขยายตัวของภาคกลาง/ใต้มีการขยายตัวสูงมากอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากศักยภาพด้านการค้าในส่วนภาคกลางกาลังขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

4. เนื่องจากภาคเศรษฐกิจทางตอนเหนือของประเทศมีความอิ่มตัว ทาให้มีโอกาสการขยายตัวทางด้านธุรกิจทางตอนกลาง/ใต้สูงขึ้น ด้วยสาเหตุอีกประการหนึ่งคือ บริษัทที่ตั้งอยู่ทางตอนกลาง/ใต้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และการวิจัยหาตลาดใหม่ๆ เช่น ประเทศไทย

ด้วยเหตุผลอีกประการที่ทาให้เศรษฐกิจภาคกลาง/ใต้มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นคือ นโยบายรัฐบาลอิตาลี (รวมทั้งภาคเอกชน) ได้วางแผนที่จะให้ทุนและสิทธิประโยชน์แก่ชาวอิตาเลี่ยนและบริษัทต่างชาติในการเข้ามาลงทุนในภาคใต้ของประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยการลงทุนที่อยู่ภายใต้สิทธิพิเศษ ร้อยละ 75 ของการลงทุนในอิตาลีทั้งหมดอยู่ในภาคกลาง/ใต้ ได้แก่ Campania, Puglia, Sardegma, Abruzzo, Molise, Calabria ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมการเกษตร การก่อสร้าง ฐานการผลิต/การลงทุนในธุรกิจเฉพาะสาขา เป็นต้น

มูลค่าการลงทุนของชาวอิตาเลี่ยนและบริษัทต่างชาติในปี 2549

การลงทุนของชาวอิตาเลี่ยนและบริษัทต่างชาติในปี 2549 (ล้านยูโร)

            มูลค่าการลงทุนจาก         อัตราขยายตัว         มูลค่าการลงทุนของ          อัตราขยายตัว
            ต่างชาติในอิตาลี        (ร้อยละ) ปี 49/48    บริษัทอิตาลีในต่างประเทศ     (ร้อยละ) ปี 49/48
ภาคกลาง        5,869                528.37                 2,610               183.67
ภาคเหนือ       10,523                 57.90                10,326                67.40
แหล่งที่มา ธนาคารแห่งประเทศอิตาลี

ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการค้าและการลงทุนทั้งจากบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในประเทศอิตาลีและบริษัทอิตาเลี่ยนที่ไปลงทุนในต่างประเทศ แม้ว่ามูลค่าของทางภาคเหนือมากกว่า แต่อัตราการขยายตัวของภาคกลาง/ใต้มีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดได้ว่า พื้นที่เขตภาคกลาง/ใต้จึงเป็นเขตที่มีศักยภาพทางด้านธุรกิจสูงกว่าในอนาคต

ดัชนีตัวเลขสาคัญของแคว้นต่างๆ ในภาคกลาง/ใต้
แคว้นลาซิโอ (Lazio)

แคว้นลาซิโอเป็นแคว้นที่ประชากรมีรายได้ต่อหัวสูงมากเป็นอันดับสองของประเทศอิตาลี ซึ่งมีมูลค่ารายได้ร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ (27,646 ยูโรต่อหัว) เนื่องจากเป็นแคว้นที่มีบริษัทต่างชาติตั้งอยู่ในพื้นที่มากกว่า 500 บริษัทที่ผลิต/ส่งออกสินค้า ดังนั้นจึงเป็นแคว้นที่มีบริษัทหลากหลายทาให้มีตลาดที่ใหญ่และมั่นคงมาก รวมถึงมีประชากรอาศัยอยู่มากว่า 5 ล้านคน (และอีก 17 ล้านคนจากแคว้นใกล้เคียง) และมีรายได้ต่อหัวสูงกว่ารายได้เฉลี่ยของประเทศร้อยละ 12

แคว้นทอสคานา (Toscana)

แคว้นทัสคานีเป็นแคว้นที่มีรายได้ประชากรต่อหัวมีมูลค่าร้อยละ 6.7 ของประเทศ (มากกว่า 25,000 ยูโรต่อหัวต่อปี) เมืองฟลอเรนส์เป็นเมืองหลวงของแคว้นและเป็นศูนย์กลางของแหล่งผลิตสินค้าที่ทาในอิตาลี

แคว้นบาซิลิกาตา (Basilicata)

แคว้นบาซิลิคาตาเป็นแคว้นที่มีความหลากหลายมากที่สุดในภาคใต้ มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุดในพื้นที่ 16,065 ยูโรต่อหัว เมืองหลวงคือ โพเทนซา ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการผลิตและการค้า เปรียบเสมือนแม่เหล็กของเศรษฐกิจของแคว้น

แคว้นปูเกลีย (Puglia)

เป็นแคว้นที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของตนเองและประวัติศาสตร์และการผลิต ซึ่งมีการคิดค้นเทคโนโลยีการผลิตในอุตสาหกรรมหลายด้าน รายได้ต่อหัว 15,598 ยูโร นโยบายการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนทาให้มีการลงทุนจากต่างชาติมากกว่า 40 กลุ่มทางด้านยานอากาศ อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เคมีภัณฑ์ และ ICT

แคว้นมาร์เก้ (Marche)

แคว้นมาร์เก้มีรายได้ประชากรต่อหัวร้อยละ 2.6 ของประชากรประเทศ (รายได้ต่อหัว 23,294 ยูโร) เมืองหลวงอังกอราเป็นศูนย์กลางของการเป็นแคว้นที่มีศักยภาพด้านวิศวกรรมเครื่องกลและ ICT เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยที่ทางานด้านวิจัยและพัฒนาให้อุตสาหกรรมถึง 4 มหาวิทยาลัย

แคว้นอับบรูโซ (Abruzzo)

เศรษฐกิจของแคว้นอับบรูโซเป็นเศรษฐกิจที่น่าสนใจเนื่องจากโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจจากพื้นฐานของระหว่างการลดจานวนบริษัทหลักๆ จากภาคนอกแคว้นและระบบการกระจายตัวของอุตสาหกรรมขนาดเล็ก รายได้ประชากรต่อหัวร้อยละ 19,308 ยูโร ผลผลิตของแคว้นนี้มาจากเขตอุตสาหกรรม 7 เขตและบริษัทผู้ประกอบการด้านเกษตรและสินค้าที่ผลิตในอิตาลี เช่น เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องหนัง รองเท้า ICT และเครื่องจักร

แคว้นซิซิลี (Sicily)

แคว้สซิซิลีเป็นเคว้นอันดับใหญ่สองของภาคใต้อิตาลีเมื่อเทียบจากรายได้ประชากรต่อหัว (15,5885 ยูโร) และเศรษฐกิจของแคว้นที่มีรายได้ร้อยละ 6 ของประเทศ ปาเลียโมเป็นเมืองหลวงของแคว้นและศูนย์กลางด้านการบริหารทางการเมือง ในขณะที่คาตาเนียเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจและและธุรกิจ อุตสาหกรรมในเขตนี้ได้แก่ เกษตรกรรม เคมีภัณฑ์และปิโตเคมี การโทรคมนาคมซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาอย่างสูง

แคว้นซาดีเนีย (Sardegna)

แคว้นซาดีเนียมีรายได้ประชากรต่อหัว 18,000 ยูโร ซึ่งมีธุรกิจอยู่มากมายตั้งอยู่รอบๆ เมืองหลวงคือ คา- เกลียรี ธุรกิจของแคว้นประกอบด้วยบริษัท 102,287 บริษัท (ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการ) และธุรกิจการเกษตรและเคมีภัณฑ์ และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาซาดีเนียเริ่มมีบทบาทที่สาคัญในธุรกิจด้านนวัตกรรมเช่น ICT และเทคโนโลยีชีวภาพ

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ