1. ด้านการเงิน
1) ผ่อนคลายระเบียบโดยเปิดให้ทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันได้มากขึ้น
2) ประกาศรับประกันเงินฝากของประชาชนเต็มจำนวน
3) เตรียมลดภาษีมรดกจากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 10
4) ผู้ประกอบการที่มีประวัติทางการเงินดี หากมีเงินกู้ที่จะครบกำหนดชำระภายในสิ้นปี 2552 สามารถขอยืดเวลาชำระออกไปได้อีกเป็นเวลา 6 เดือน
2. ด้านอุตสาหกรรม
1) หากซื้อรถยนต์ใหม่ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2552 รัฐบาลไต้หวันจะยกเว้นภาษีสินค้าสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลคันใหม่ให้ 3 หมื่นเหรียญไต้หวัน
2) ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับโรงงานที่ผลิตสินค้าทุกประเภทที่ตั้งใหม่หรือมีการขยายการลงทุนและได้รับอนุญาตจากกระทรวงเศรษฐการ
3. ด้านการค้า
1) เตรียมยกเลิกการกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำสำหรับการเปิดบริษัท
2) ให้เงินอุดหนุนแก่ร้าน Franchise หรือ Chain Store ที่เปิดสาขาใหม่แห่งละ 5 หมื่นเหรียญไต้หวัน
4. ด้านการลงทุน
1) ผลักดันโครงการ 12 Mega Projects ด้วยงบประมาณรวม NT$3.99 trillion ภายในระยะเวลา 8 ปี
2) ส่งเสริมการลงทุนใน 6 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Biotechnology | Medicine and Health Care | Culture and Creation | Tourism | Green Energy | High-end Agriculture)
3) กระทรวงเศรษฐการไต้หวันได้ประกาศเพิ่มโควตาในการขอวีซ่าให้กับนักธุรกิจจากจีนแผ่นดินใหญ่ จาก 30 คนต่อบริษัทต่อปี เพิ่มเป็น 200 คนต่อบริษัทต่อปี
4) เพิ่มการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานตามแผน 4 ปี 5 แสนล้านเหรียญไต้หวัน
5. ด้านแรงงาน
1) ผลักดันโครงการ 3 สนับสนุน (รัฐบาลสนับสนุนธนาคาร-ธนาคารสนับสนุนผู้ประกอบการ-ผู้ประกอบการสนับสนุนแรงงาน) โดยกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อเพื่อให้ผู้ประกอบการลดการเลิกจ้าง
2) เพิ่มตำแหน่งงานจ้างเหมาบริการในหน่วยงานราชการ (ปี 2552 สร้างตำแหน่งงาน 88,000 ตำแหน่ง)
6. อื่นๆ
1) ผลักดันการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Economic Cooperation Framework Agreement หรือ ECFA) กับจีนแผ่นดินใหญ่
2) ผลักดันการลงนามด้านความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้าสำคัญ
3) เน้นการพัฒนาโดยรักษาสภาพแวดล้อม ตามนโยบาย Save Energy, Reduce Carbon
4) ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยเพิ่มวงเงินค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลขั้นต่ำที่ใช้ในการหักภาษีจาก 201,000 เหรียญไต้หวันต่อคนต่อปีเป็น 250,000 เหรียญไต้หวันต่อคนต่อปี
1. ไต้หวันมีการรับประกันราคาสินค้าเกษตรเฉพาะข้าวเปลือกเท่านั้น สินค้าอื่นจะปล่อยให้ขึ้นลงตามกลไกตลาด
2. มีการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรในรูปเงินกู้
3. มีเงินอุดหนุนสำหรับกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติ
4. มีการจำกัดโควตานำเข้าในสินค้าเกษตรบางส่วน
5. มีนโยบายกีดกันสินค้าเกษตรจากจีน
6. มีการนำมาตรการในการตรวจกักกันโรคพืชและมาใช้สำหรับสินค้านำเข้า
ที่มา: http://www.depthai.go.th