สำนักงานสถิติแห่งชาติเช็ก รายงานว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 (มกราคม-กันยายน) ภาวะเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็กฟื้นตัวขึ้น ภายหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกในช่วงปลายปี 2551 ถึงต้นปี 2552 โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 ขยายตัวในอัตราร้อยละ -4.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 และขยับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ร้อยละ 0.8
จากการคาดการณ์ของกระทรวงการคลัง อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเช็กในปี 2552 จะเท่ากับร้อยละ -5 และจะขยับตัวสูงขึ้นเป็นร้อยละ 0.3 ในปี 2553 ในขณะที่ธนาคารแห่งชาติเช็กมองว่า อัตราการเติบโตน่าจะอยู่ที่ร้อยละ -4.4 ในปี 2552 และร้อยละ 1.4 ในปี 2553
สาเหตุหลักของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเช็กมาจาก ภาวะการส่งออกสินค้าสำคัญซึ่งได้แก่รถยนต์ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับผลพลอยได้จากมาตรการ car — scrapping premium ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป จำนวน 12 ประเทศ ที่กำหนดให้รัฐจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ซื้อรถยนต์ใหม่และทำลายรถยนต์เก่าที่มีอายุการใช้งานเกินกว่า 10 ปีเพื่อเป็นการช่วยอุตสาหกรรมรถยนต์ และรักษาสภาพแวดล้อม/ลดสภาวะโลกร้อน ส่งผลให้ปริมาณความต้องการรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็ก เพิ่มสูงขึ้น สาธารณรัฐเช็กซึ่งเป็นประเทศที่มี per capita สำหรับผลผลิตรถยนต์สูงที่สุดในสหภาพยุโรป และผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ได้รับผลพวงจากมาตรการดังกล่าว
สำหรับผลกระทบต่อประเทศไทย พบว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจากไทยมายังสาธารณรัฐเช็ก ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.86 นับเป็นประเทศเดียวในสหภาพยุโรป (EU 27) และยุโรปตะวันออก (19 ประเทศ) ที่มีมูลค่าการส่งออกจากไทยขยายตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2551 /
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงปราก
ที่มา: http://www.depthai.go.th