แฟรนไชส์ไทยสร้างเครือข่ายสู่ตลาดญึ่ปุ่น

กรมส่งเสริมการส่งออก ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมการค้าภาคบริการไทยในตลาดญี่ปุ่น เผยบริษัทห้องอาหารสีฟ้าจับมือบริษัท Eat&Co แลกแบรนด์เจาะตลาดขยายแฟรนไชส์ หวังพัฒนาสู่ประเทศอื่นในอาเซียน

นางมาลี โชคล้ำเลิศ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU) ระหว่าง บริษัทห้องอาหารสีฟ้า และบริษัท Eat&Co (ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลไทยได้ทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย — ญี่ปุ่น (JTEPA) ภายใต้กรอบความตกลง JTEPA และกรมส่งเสริมการส่งออกได้ร่วมมือกับเจโทรในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่นโดยมุ่งเน้นการค้าขายภาคบริการ ที่มีคุณค่าความเป็นไทยสูงและมีโอกาสเติบโตสูงในตลาดญี่ปุ่น โดยเปิดตัวด้านการค้าบริการ ใน 3 สาขา คือ การค้าขายแฟรนไชส์สปาไทย แฟรนไชส์อาหารไทย และสนับสนุนธุรกิจด้านบันเทิงไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ เพลง วีดีโอเกม และ Animation ให้สามารถขยายตลาดมายังตลาดญี่ปุ่นให้มากขึ้น

ทั้งนี้หลังจากที่กรมส่งเสริมการส่งออกร่วมมือกับJETRO จัดคณะผู้แทนการค้าธุรกิจแฟรนไชส์ไทยเยือนญี่ปุ่นในช่วงเดือนมีนาคม 2552 เพื่อให้ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยได้เรียนรู้ตลาดญี่ปุ่น และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนแนวคิด และความต้องการทางด้านธุรกิจกับนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ปรากฏว่าการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ได้รับผลตอบรับอย่างดี กล่าวคือบริษัทสีฟ้าและบริษัท Eat&Co ได้ตกลงที่จะพัฒนาแบรนด์ร่วมกัน ทั้งนี้บริษัท Eat&Co เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นหลายแบรนด์ อาทิเช่น Osaka Ohsho Ramen, Tomato Ramen โดยมีสาขาในญี่ปุ่น 210 สาขา มียอดขาย 9,864 ล้านเยนต่อปี ส่วนบริษัทสีฟ้าจะนำแบรนด์ Osaka Ohsho Ramen มาเปิดที่ไทย และ บริษัท Eat&co จะนำแบรนด์อิ่มไทยของสีฟ้าไปเปิดที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการสร้างหุ้นส่วนทางการค้าระหว่างไทยและญี่ปุ่น โดยตั้งเป้าหมายในอนาคตจะพัฒนาแบรนด์ของทั้งสองให้ขยายไปยังตลาดในภูมิภาคอาเซียน

สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับธุรกิจในรูปแบบต่างๆ อาทิ ร้านอาหารไทย ร้านกาแฟ ธุรกิจด้านความงามและสปา ธุรกิจดูแลรถยนต์ ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจค้าปลีก เป็นต้น ซึ่งในปี 2551 มีมูลค่าการค้าทั้งในและต่างประเทศ 72,000 ล้านบาท และมีรายได้เข้าประเทศประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนตลาดแฟรนไชส์ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีศักยภาพที่ไทยสามารถจะขยายตลาดได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจอาหารไทย ญี่ปุ่นนั้นจะมองว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสามารถขยายตลาดไปยังญี่ปุ่นได้เนื่องจากเป็นธุรกิจที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ญี่ปุ่นมีแฟรนไชส์ทั้งสิ้น 1,146 ราย มีร้านสาขา 234,489 ร้าน มีมูลค่าการขาย ประมาณ 19.38 ล้านล้านเยน (6.2 ล้านล้านบาท)

กรมส่งเสริมการส่งออก จะเป็นแกนในการนำผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์จากประเทศไทยที่มีศักยภาพและความพร้อม ไปทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในประเทศแถบเอเชีย เพื่อเพิ่มช่องทางดำเนินธุรกิจบริการในต่างประเทศได้อย่างถาวร

ที่มา: http://www.depthai.go.th