เมืองหลวง : Moscow พื้นที่ : 17,075,200 ตารางกิโลเมตร ภาษาราชการ : รัสเซีย ประชากร : 142.3 ล้านคน (2006) F อัตราแลกเปลี่ยน : 1US$ = 1.141 RUB (19/11/2009) F (1) เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจ
ปี 2551 ปี 2552
Real GDP growth (%) 6.0 1.0 Consumer price inflation (av; %) 14.1 12.6 Budget balance (% of GDP) 5.5 -3.1 Current-account balance (% of GDP) 6.0 -4.0 Commercial banks' prime rate (year-end; %) 13.0 12.0 Exchange rate ฅ:US$ (av) 24.9 34.5 โครงสร้างสินค้าส่งออกของไทยกับรัสเซีย มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด
ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินค้าออกสำคัญทั้งสิ้น 336.02 100.00 -61.22 สินค้าเกษตรกรรม 55.20 16.43 -53.37 สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 62.43 18.58 -54.20 สินค้าอุตสาหกรรม 218.01 64.88 -64.33 สินค้าแร่และเชื้อเพลิง 0.39 0.12 -42.69 สินค้าอื่นๆ 0.0 0.0 -200.00 โครงสร้างสินค้านำเข้าของไทยกับรัสเซีย มูลค่า: สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด
ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นำเข้าทั้งสิ้น 1,255.79 100.00 -49.46 สินค้าเชื้อเพลิง 468.57 37.31 -54.83 สินค้าทุน 2.48 0.20 43.62 สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป 780.75 62.17 -45.78 สินค้าบริโภค 3.81 0.30 -24.25 สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง 0.0 0.0 -98.51 สินค้าอื่นๆ 0.18 0.01 -65.37 1. มูลค่าการค้า มูลค่าการนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าของไทย - รัสเซีย 2551 2552 D/%
(ม.ค.- ต.ค.) ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าการค้ารวม 3,351.36 1,591.81 -52.50 การส่งออก 866.55 336.02 -61.22 การนำเข้า 2,484.81 1,255.79 -49.46 ดุลการค้า -1,618.26 -919.77 -43.16 2. การนำเข้า รัสเซียเป็นตลาดนำเข้าอันดับที่ 23 ของไทย มูลค่า 1,255.79 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 49.46 สินค้านำเข้าสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด
ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าการนำเข้ารวม 1,255.79 100.00 50.51 1. เหล็ก เหล็กกล้า 590.95 47.06 -32.03 2. น้ำมันดิบ 307.68 24.50 -59.87 3. เชื้อเพลิงอื่นๆ 160.88 12.81 -36.60 4. ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืช 79.87 6.36 -64.51 5. สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะ 32.09 2.56 -84.27 อื่น ๆ 0.35 0.03 -98.04 3. การส่งออก รัสเซียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 46 ของไทย มูลค่า 336.02 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 61.22 สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด
ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าการส่งออก 336.02 100.00 -61.22 1. รถยนต์ และอุปกรณ์ 29.71 8.84 -89.11 2. ข้าว 28.64 8.52 -56.92 3. เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ 23.61 7.03 -76.30 4. เสื้อผ้าสำเร็จรูป 18.31 5.45 29.88 5. ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 15.89 4.73 -61.16 อื่น ๆ 44.40 13.21 -41.64 4. ข้อสังเกต 4.1 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปรัสเซีย ปี 2552 (มค.- ตค.) ได้แก่
รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ : รัสเซียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 48 ของไทย เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2549 — 2552 พบว่าปี 2552 (มค-ตค.) มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 89.11 ในขณะที่ปี 2549 - 2551 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.14 259.10 และ 96.23 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปีก่อน
ข้าว : รัสเซียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 30 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2549 - 2552 พบว่าปี 2549 และ 2552 (มค.-ตค.) มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 15.82 และ 56.92 ในขณะที่ปี 2550 และ 2551 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 149.09 และ 125.28 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปีก่อน
เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ฯ : รัสเซียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 25 ของไทย และเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2549 - 2552 พบว่าปี 2549 และ 2552 (มค.-ตค.) มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 59.25 และ 76.30 ในขณะที่ปี 2550 2551 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.37 และ 309.07 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปีก่อน
เสื้อผ้าสำเร็จรูป : รัสเซียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 16 ของไทยเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2549 - 2552 พบว่ามีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 30.05 47.32 58.53 และ 29.88 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปีก่อน
ผลไม้กระป๋องและแปรรูป : รัสเซียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 11 ของไทยเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2549 - 2552 พบว่าปี 2551 และ 2552 (มค-ตค.) มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 5.86 และ 61.16 ในขณะที่ปี 2549-2550 มีอัตราขยายตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 259.10 และ 96.23 ตามลำดับเมื่อเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อันดับที่ / รายการ มูลค่า อัตราการขยายตัว หมายเหตุ ล้านเหรียญสหรัฐ % 4. เสื้อผ้าสำเร็จรูป 18.31 29.88 9. เครื่องจักรกลและส่วนฯ 13.83 217.72 10.เครื่องปรับอากาศและส่วนฯ 13.08 1,027.12 14.อาหารสัตว์เลี้ยง 9.80 150.45 19.เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ 5.62 382.42 ข้อสังเกต : (สำหรับสินค้าเครื่องปรับอากาศ ในปี 2552 (มค.- ตค.) มีมูลค่าการนำเข้า 13.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมีการนำเข้าเพียง 1.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จึงทำให้มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 1,027.12 4.3 ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปตลาดรัสเซียปี 2552 (ม.ค.- ต.ค.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตรา ลดลง รวม 20 รายการ อาทิ อันดับที่ / รายการ มูลค่า อัตราการขยายตัว ล้านเหรียญสหรัฐ % 1.รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 29.71 -89.11 2.ข้าว 28.64 -56.92 3.เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ 23.61 -76.30 5.ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 15.89 -61.16 6.อัญมณีและเครื่องประดับ 15.40 -55.40 7.เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้า 15.34 -64.73 8.เม็ดพลาสติก 14.61 -50.96 11.อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 13.00 -54.42 12.น้ำตาลทราย 10.62 -70.27 13.ผักกระป๋องและแปรรูป 10.03 -43.35 15.ผลิตภัณฑ์ยาง 8.53 -26.71 16.เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 8.23 -50.66 17.ผลิตภัณฑ์พลาสติก 7.83 -41.92 18.กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง 7.16 -42.78 20.ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ 4.66 -36.39 21.เคมีภัณฑ์ 4.60 -42.51 22.ยางพารา 4.52 -54.57 23.ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 3.43 -63.51 24.เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน 2.76 -34.91 25.เลนซ์ 2.40 -21.03 4.4 ข้อมูลเพิ่มเติม
ปัจจุบันรัสเซียไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกมากนัก โดยรัสเซียมีปัจจัยหนุนด้านเศรษฐกิจ คือ การส่งออกทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน สินแร่ ป่าไม้ รวมทั้งเทคโนโลยีผลิตเครื่องจักรและอาวุธ จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้รัสเซียมีทุนสำรองระหว่างประเทศสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก การจ้างงานสูง นำไปสู่ความต้องการสินค้าก่อนหน้านี้นำเข้าจากรัฐบริวาร หรือที่เรียกว่ากลุ่มซีไอเอส เช่น ยูเครน อุซเบกิสถาน แต่การแยกตัวของรัฐดังกล่าว ทำให้เกือบทุกประเทศต้องการผลิต ส่งออกและนำเข้าสินค้าเอง รัสเซียจึงต้องหาแหล่งนำเข้าใหม่ ซึ่งไทยเป็นเป้าหมายหนึ่งเช่นกัน สินค้าที่มีศักยภาพ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เฟอร์นิเจอร์ อาหาร ซึ่งเอกชนเริ่มให้ความสำคัญตลาดรัสเซียและซีไอเอสมากขึ้น และมองว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นตลาดที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะกับสินค้าไทยที่มีจุดขาย คือ คุณภาพ เพราะเมื่อคนมีรายได้มากขึ้น ต้องการสินค้ามีคุณภาพมากกว่าสินค้าราคาถูกจากบางประเทศ อย่างไรก็ตาม แม้รัสเซียจะเป็นตลาดเสรีมาเกือบ 18 ปีแล้ว แต่รูปแบบการเงิน ทั้งระบบธนาคาร สถาบันการเงินยังไม่เข้มแข็งพอ ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องเข้าใจวิธีการค้า-ขาย ปัจจุบันนิยมการซื้อขาย โดยชำระเงินล่วงหน้าอัตรา 30 ต่อ 70% เมื่อส่งสินค้าเสร็จสิ้น ก็จะชำระเงินส่วนที่เหลือ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่พบการผิดนัดชำระเงิน แต่ยอมรับว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ รัสเซียไม่ใช้ระบบ L/C แต่ใช้วิธีชำระเงินสด หรือวางมัดจำตามแต่จะตกลงกัน วิธีนี้อาจมีความไม่แน่นอน ขณะที่วิธีการขอคำรับรองผู้ซื้อที่ติดต่ออยู่เชื่อถือได้หรือไม่นั้น อาจนำไปสู่ความไม่เชื่อใจกัน จนไม่อยากค้าขายและเสียโอกาสทางธุรกิจ ขณะนี้ผู้ส่งออกรายใหม่ยังไม่เข้าใจรูปแบบการค้านี้ จึงไม่กล้าที่เข้ามาทั้งที่ตลาดมีศักยภาพ ปัจจุบันสินค้าไทยมีโอกาสในตลาดกลุ่มซีไอเอสมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้นำเข้าโดยตรง แต่ส่งผ่านจากยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และ รัสเซียซึ่งการนำเข้าดังกล่าวมีต้นทุนสูงการเข้ามาเปิดการค้าโดยตรงจึงมีโอกาสประสบความสำเร็จมาก ตลาดมีความคุ้นเคยกับสินค้าจากจีน เกาหลีและไต้หวัน ที่เข้าไปทำตลาดก่อนหน้านี้ ซึ่งไทยอาจต้องเลียนแบบ การเข้าไปทำตลาดของประเทศเหล่านี้เช่นการทำวิจัยด้านการตลาดเชิงลึก สำหรับสินค้าที่มีศักยภาพได้แก่ อาหาร โดยเฉพาะสับปะรด ข้าวโพดหวาน ทูน่ากระป๋อง
กรมประมงได้เชิญเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน Federal Service for Veterinary and Phytosanitary Surveillance (FSVPS) ของประเทศรัสเซีย เข้าร่วมประชุมคณะทำงานด้านวิชาการไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 2 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการนำเข้า-ส่งออก และหารือเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้าสัตว์น้ำไทยที่ส่งออกไปยังรัสเซีย รวมทั้งความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลง (MOU) ด้านการตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำร่วมกัน เนื่องจากการที่รัสเซียประกาศใช้ระเบียบใหม่ในการควบคุมการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำ โดยมีข้อกำหนดว่าสินค้าที่จะนำเข้าไปจำหน่ายยังรัสเซีย จะต้องผลิตจากโรงงานที่ผ่านการตรวจรับรองจาก FSVPS และต้องมีใบรับรองสุขอนามัยที่ออกโดยหน่วยงานรับผิดชอบของประเทศผู้ส่งออกกำกับ ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างเข้มงวด ตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2551 นั้น ผลปรากฏว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สินค้าสัตว์น้ำของไทยได้รับการตอบรับอย่างดีจากรัสเซีย ประกอบกับโดย FSVPS ได้อนุมัติให้กรมประมงเป็นผู้เสนอรายชื่อโรงงานที่ผ่านการรับรองสำหรับการส่งสินค้าสัตว์น้ำไปยังรัสเซียได้เลย โดยเจ้าหน้าที่ FSVPS ไม่ต้องเดินทางมาตรวจซ้ำอีก ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานที่ผ่านการรับรองจากกรมประมงที่สามารถส่งสินค้าประมงไปยังรัสเซีย 132 โรงงาน ขณะที่ในปี 2551 มีการส่งออกสัตว์น้ำไปยังรัสเซียกว่า 15,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาท จึงแสดงให้เห็นว่ารัสเซียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมากอีกแห่งหนึ่งที่มีอนาคตสดใส
แอคโกร-ออน (ไทยแลนด์) จำกัด หนึ่งในผู้ส่งออกที่ได้รับรอง "SR Mark" ของกระทรวงพาณิชย์ ประจำปี 2552 เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายการส่งออกสินค้าอาหารปีนี้จะขยายตัว 100% จากปีก่อนซึ่งมีการส่งออกราว 2,000 ตู้ เนื่องจากหลังจากเกิดการระบาดของโรคไข้หวัด สายพันธุ์ใหม่ 2009 (H1N1) ส่งผลให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น หันมานิยมบริโภคพืชผักในสัดส่วนสูงขึ้นขณะนี้ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพหลายแห่งยังมีกำลังซื้อดีไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจมากนัก ทั้งรัสเซีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพื่อชดเชยตัวเลขการส่งออกไปยังตลาดหลักสหภาพยุโรปซึ่งมีสัดส่วนกว่า 50% แต่ตลาดนี้ชะลอตัวลงเพราะได้รับผลกระทบหลังจากสินค้าไทยถูกใช้มาตรการภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) จนทำให้ต้องหาตลาดใหม่ๆ ตลาดรัสเซีย มีอัตราการขยายตัวสูง และได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ดีเด่น แกรนด์ เอ็กซ์โปจากรัฐบาลรัสเซียต่อเนื่องกันมา 3 ปีแล้ว โดยที่ได้รับความนิยม คือ ข้าวโพดหวานบรรจุขวดแก้วซึ่งบรรจุขวดละ 1 ฝัก ได้รับการตอบรับดีว่า เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และที่ผ่านมาค่าเงินรูเบิล (สกุลเงินรัสเซีย) ปรับอ่อนค่าลงส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย แต่ระยะทางไกลต้นทุนโลจิสติกส์สูงมาก ทำให้สินค้าที่วางขายมีราคาสูงกว่าราคาส่งออกจากไทย 4-10 เท่า ตลาดรัสเซียมีอนาคตดี แต่มีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะสินค้านำเข้าจากจีน ได้เปรียบเรื่องค่าขนส่งและภาษีนำเข้าอัตราต่ำกว่าทำให้ได้เปรียบสินค้าจากไทย ซึ่งไทยควรนำโมเดลที่จีนใช้โดยการไป ตั้งศูนย์กระจายสินค้า (ดีซี) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานการส่งออก
ที่มา: http://www.depthai.go.th