สำนักงานสถิติแห่งชาติอิตาลี (Istituto nazionale di statistica :ISTAT) และ L’Ocse หรือ (Organisation for Economic Co-operation and Development — OECD) ได้เปิดเผยว่า อิตาลีเป็นประเทศหนี่งที่ได้รับผลกระทบทางด้านวิกฤติเศษรฐกิจก่อนประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่อย่างไรก็ตาม จากไตรมาสที่ 3 สภาวะเศรษฐกิจของอิตาลีจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความไว้ว่างใจและเพิ่มความต้องการในการบริโภคสินค้าภายในประเทศ
1. ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ISTAT ได้เปิดเผยตัวเลข GDP ของไตรมาสที่ 3 ปี 2552 ลดลง (-4.6%) เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีอัตราเพิ่มขึ้น (+0.6%) เทียบจากไตรมาสที่ 2 ซึ่งถือว่า GDP ของอิตาลีในไตรมาสที่ 3 มีตัวเลขการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับจากการมีผลติดลบมาตลอด 5 ไตรมาสที่ผ่านมา โดย GDP ที่เพิ่มขึ้นมีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินค้าของภาคอุตสาหกรรมและการบริการ และมีการลดลงของมูลค่าสินค้าของภาคเกษตรกรรม นอกจากนี้ ทาง L’Ocse ได้คาดการณ์สถานการณ์ของ GDP ของอิตาลีปี 2552 อาจจะลดลงเหลือเพียง (-4.8%) ปี 2553 และ 2554 อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 และร้อยละ 1.5 ตามลำดับ
2. การผลิต
ISTAT ได้รายงานข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในอิตาลีเดือนกันยายน มีอัตราการผลิตลดลง (-15.7%) เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ระหว่างเดือน มกราคม—กันยายน 2552 มีอัตราการผลิตลดลง (-20.3%)เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยกลุ่มสินค้าและบริการที่มีอัตราเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2552 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยา (+5.9%) และผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่มและยาสูบ (+0.2%) ในขณะที่เครื่องจักรกลและอุปกรณ์เครื่องใช้มีอัตราลดลง (-27.5%) ผลิตภัณฑ์โลหะและอุตสาหกรรมด้านโลหะ (-25.2%) และการคมนาคมขนส่ง (-20.2%) เปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
กลุ่มสินค้าและบริการที่มีอัตราผลผลิตลดลงอย่างชัดเจนระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2552 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์โลหะและอุตสาหกรรมด้านโลหะ (-32.1%) และเครื่องจักรกล/อุปกรณ์เครื่องใช้ (-31.8%) ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ยามีอัตราเพิ่มขึ้น (+2.5%) เปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมรถยนต์การผลิตเป็นไปอย่างช้า ๆ มีอัตราการผลิตลดลงร้อยละ 29
3. ยอดการสั่งซื้อและยอดขาย
ISTAT ได้เปิดเผยตัวเลขยอดการสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนกันยายน 2552 มีตัวเลขเพิ่มขึ้น (+5.2%) และยอดขาย (+2.3%) เทียบจากเดือนสิงหาคม 2552 ซึ่งตัวเลขดังกล่าว เป็นยอดการสั่งซื้อและยอดขายจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 และร้อยละ 7.7 ตามลำดับ
ในขณะที่ตัวเลขยอดการสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนกันยายน 2552 มีตัวเลขลดลง (-20.4%) และยอดขาย (-17.3%) เปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
4. การนำเข้าและส่งออก
จากข้อมูลของ ISTAT ได้เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายน 2552 อิตาลีขาดดุลการค้า 897 ล้านยูโร เทียบกับ 2,580 ล้าน ยูโรในเดือนกันยายน 2551
ในส่วนการส่งออกและนำเข้าเดือนกันยายน 2552 อิตาลีมีอัตราการส่งออกลดลง (-18%) และอัตราการนำเข้าลดลง(-21.6%) เปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าอย่างไรก็ตาม เดือนกันยายน 2552 การส่งออกและการนำเข้ายังคงมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6% และ 0.6% ตามลำดับ เปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากข้อมูลของ World Trade Atlas พบว่าอิตาลีนำเข้าจากไทยลดลงในปี 2552 ระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม มีมูลค่านำเข้ารวมทั้งสิ้นประมาณ 679 ล้านยูโร (-31.29%) เปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2008 โดยรายการสินค้าที่อิตาลีนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่ ปลาและอาหารทะเล เครื่องปรุงแต่งจากเนื้อและปลา รองเท้า และน้ำตาล เป็นต้น รายการสินค้าทิ่อิตาลีนำเข้าลดลง ได้แก่ เครื่องจักรกล ยาง เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนการส่งออกของอิตาลีมาไทยมีมูลค่าการส่งออกลดลงรวมทั้งสิ้นประมาณ 497 ล้านยูโร (-14.09%) เปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2008 โดยรายการสินค้าที่อิตาลีส่งออกมาไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่ หินและโลหะมีค่า ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม เป็นต้น รายการสินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ เครื่องจักรกล เครื่องจักร/อุปกรณ์ไฟฟ้า และพลาสติก เป็นต้น
5. อัตราเงินเฟ้อ (Inflation rate)
ทาง ISTAT ได้รายงานตัวเลขของอัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคม 2552 โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (+0.3%) เปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และ (+0.2%) เทียบกับเดือนกันยายน 2552 L’Ocse ได้คาดการณ์ตัวเลขของอัตราเงินเฟ้อในปี 2552 ลดลงร้อยละ 0.7 ส่วนปี 2553 และ 2554 อาจลดลงร้อยละ 0.9 และร้อยละ 0.8 ตามลำดับ
6. การจ้างงาน
ทาง L’Ocse ได้คาดการณ์อัตราการจ้างงานของอิตาลีในปี 2552 ที่เพิ่มขึ้น (+7.6%) ปี 2553 และ 2554 อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 และร้อยละ 8.7 ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำเปรียบเทียบจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป
1) ดำเนินการติดต่อ/จองหน้าโฆษณาของนิตยสาร Foto shoes, Moda Pelle, Fashion Magazine, Ars Sutoria และ Arpel เพื่อลงโฆษณางานฯ BIFF & BIL 2010
2) จัด Display สินค้าแฟชั่นภายใต้โครงการ Tree — Boo ที่สำนักงานฯมิลาน เพื่อให้ Agent และ Buyers เข้ามาชม
3) จัด Instore Promotion ผลไม้ไทยในซุปเปอร์/ไฮเปอร์มาร์เก็ต
4) จัดทำรายงานการอบรมเทรนด์แฟชั่นโลกสินค้าเครื่องหนังสำหรับ Fall/Winter 2010/2011 ที่อิตาลี
5) จ้ดทำรายงานผลการเยี่ยมงานแสดงสินค้า Lineaplle
6) หารือกับ Mr.Andrea Marcon และ Mr.Fabrizio Levo ผู้จัดการฯศูนย์แสดงสินค้า Palakiss ถึงการจัดโครงการแสดงสินค้าไทยภายในศูนย์ฯ
7) กิจกรรมส่งเสริมการสร้างตรา Thai Select สำหรับร้านอาหารไทยในอิตาลี ทำการนัดหมายในการเยี่ยมชมร้านที่สมัคร 2 ร้าน
8) ประสานงานการเข้างานฯของผู้ประกอบการไทยในอิตาลี ประจำปี 2553 ดังนี้
- Expo Riva Schu ครั้งที่ 73 (16-19 ม.ค.53) มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมแสดงงานฯ จำนวน 5 ราย
- Mipel ครั้งที่ 97 (2-5 มี.ค.53) มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมแสดงงานฯ จำนวน 5 ราย
- Salone del Mobile (14-19 เม.ย.53) มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมแสดงงานฯ จำนวน 8 ราย
9) จัดทำนัดหมายระหว่างผู้ส่งออกสินค้าเสื้อผ้าไทยกับผู้นำเข้าอิตาลี บริษัท Love Therapy โดย Ms.Giovanna Togni Ms.Floria Fiorucci มีความประสงค์เดินทางไปเมืองไทยเพื่อติดต่อธุรกิจภายในเดือนธันวาคม 2552
10) จัดทำนัดหมายระหว่างผู้ส่งออกอุปกรณ์กีฬามวยไทยกับผู้นำเข้าอิตาลี Mr. Antonio di Ceglie มีความประสงค์เดินทางไปเมืองไทยเพื่อติดต่อธรุกิจ
11) จัดทำเวปไซต์ภาษาท้องถิ่น (อิตาเลียน) กับบริษัท ItalyPC.com ขณะนี้ได้มีการออกแบบและจัดทำข้อมูลที่จะปรากฎบนเวบไซต์ และออกแบบการเก็บฐานข้อมูลผู้นำเข้าอิตาลีและผู้ส่งออกไทยที่สนใจตลาดอิตาลี รวมทั้งติดต่อผู้ส่งออกไทยให้เข้ามาประชาสัมพันธ์สินค้าในเวปไซต์ (คาดว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ภายในเดือนธันวาคม 2552)
12) ช่วยติดตาม/แก้ไขปัญหาให้ผู้นำเข้าอาหารทะเลแช่แข็ง (Euro Brokers & Co., Srl) จากการที่ถูกบริษัทไทย Searoyal Coldstrage Interfoods ส่งมอบของไม่เป็นไปตามสัญญา
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th