สินค้าอาหารไทยในห้างสรรพสินค้า Galeria Kaufhof

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 27, 2009 14:23 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ห้าง Galeria Kaufhof ก่อตั้งขึ้นในปี 1879 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโคโลญจน์ มียอดจำหน่าย 3.6 พันล้านยูโรต่อปี มีพนักงาน 25,000 คน มีจำนวนทั้งสิ้น 127 สาขาในเยอรมัน โดยมี Supermarkets จำหน่ายสินค้าอาหารจำนวน 27 สาขา (มีสาขาหลักๆ ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ได้แก่ Berlin 5 สาขา Cologne 4 สาขา Duesseldorf 4 สาขา Muenchen 4 สาขา) นอกจากนี้ ยังมีสาขา 15 แห่งในประเทศ เบลเยี่ยม มีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าเฉลี่ยประมาณ 2 ล้านคน/วัน จัดเป็นห้างสรรพสินค้าระดับบน อยู่ในระดับ World Class Shopping โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนวัยทำงานที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง สินค้าที่วางจำหน่ายในห้างจะเป็นสินค้า International Brands ระดับปานกลางถึงระดับบน ในปี 2009 ห้าง Kaufhof สาขาเมือง Oberhausen ได้ถูกจัดอันดับให้เป็น Shopping-Mall ที่มีพื้นที่มากที่สุดในยุโรป (10,500 ตารางเมตร)

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน มีโครงการส่งเสริมสินค้าอาหารไทยให้วางจำหน่ายในตลาด Mainstream ของเยอรมัน ทั้งในซุปเปอร์สโตร์ ไฮเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้า จึงได้ร่วมกับห้างสรรพสินค้า Kaufhof และผู้นำเข้าสินค้าอาหาร จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าอาหารไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี 2552 สำนักงานฯ ณ กรุงเบอร์ลิน ได้ร่วมกับห้าง Kaufhof สำนักงานใหญ่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารไทยในห้างฯ 27 สาขา

รูปแบบการจัดกิจกรรม

สำนักงานฯ ณ กรุงเบอร์ลิน ได้จัดกิจกรรมพิเศษสาธิตการปรุงอาหารไทย ในบริเวณแผนกอาหารของห้างฯ 4 แห่ง ได้แก่ Kaufhof am Alexanderplatz กรุง Berlin ระหว่างวันที่ 17-18 ก.ค.52, Kaufhof เมือง Kassel วันที่ 21-22 ส.ค. 52 , Kaufhof เมือง Bonn วันที่ 4-5 ก.ย.52 และ Kaufhof เมือง Duesseldorf วันที่ 11-12 ก.ย. 52โดยสินค้าที่นำมาปรุง 2 รายการคือ ผัดไทยและแกงเขียวหวาน/แกงเผ็ดไก่ ส่วนห้างฯ จะตกแต่งพื้นที่บริเวณสาธิตการปรุงอาหารอย่างสวยงาม และจัดวางสินค้าไทยจำหน่ายราคาพิเศษในบริเวณรอบๆ ให้เห็นเด่นชัด และสะดวกสำหรับลูกค้าในการเลือกซื้อ นอกจากนี้ ในบริเวณจำหน่ายสินค้าอาหารเอเซีย ก็จะมีสินค้าไทยวางจำหน่ายบนชั้นตลอดทั้งปี

การโฆษณาประชาสัมพันธ์

1. สำนักงานฯ ได้จัดเตรียมเอกสารไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่างๆ ดังนี้

  • Leaflet: Thailand Kitchen of the World ซึ่งบรรจุสูตรปรุงอาหารเป็นภาษาเยอรมัน จำนวน 4 รายการ คือ แกงเขียวหวานไก่ ผัดไทยกุ้งสด ต้มข่าไก่ และต้มยำกุ้ง จำนวน 4000 ฉบับ
  • Brochure: Thai Select Restaurantfuehrer in Deutschland ซึ่งบรรจุรายชื่อร้านอาหารไทยที่ผ่านมาตรฐานเกณฑ์ได้รับเครื่องหมาย Thai Select ในเยอรมนี 139 ร้าน และ Leaflet: Thai Select ซึ่งอธิบายคำจำกัดความของเครื่องหมาย Thai Select สำนักงานฯ ได้นำไปแจกจ่ายรวมทั้งสิ้น จำนวน 4500 ฉบับ
  • Leaflet: Fruechte aus Thailand ประชาสัมพันธ์ผลไม้สดไทยได้แก่ มะม่วง มังคุด เงาะ ลำไย และลิ้นจี่ พร้อมคำอธิบายเป็นภาษาเยอรมัน

บรรยายคุณประโยชน์ของผลไม้ ฤดูเก็บเกี่ยว และวิธีการรับประทาน จำนวน 3000 ฉบับ

2. ห้าง Galeria Kaufhof ได้จัดทำเอกสารเผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์ ดังนี้

  • Booklet ประชาสัมพันธ์สินค้าไทยและกิจกรรมส่งเสริมการขายในครั้งนี้ (Galeria Gourmet Tour) เพื่อเผยแพร่ให้ลูกค้าจำนวน 100,000 ฉบับ
  • ลงโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าไทยในแม็กกาซีนอาหารของห้าง (Sternemagazine) จำนวน 125,000 ฉบับ และจัดส่งให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง

ซึ่งในแม็กกาซีนดังกล่าวจะมีลงโฆษณาทั้งสินค้าอาหารไทยและผลไม้ไทย โดยมีข้อความที่ Chef ที่มีชื่อเสียงของเยอรมันมากล่าวถึงอาหารไทยด้วย

ผลตอบรับจากลูกค้าและห้างที่จัดกิจกรรม
  • ลูกค้าในเมืองใหญ่อย่างกรุง Berlin และ Duesseldorf จะมีความหลากหลายมากกว่า เพราะประมาณ 10% ของลูกค้าจะเป็น นักท่องเที่ยวและคุ้นเคยกับอาหารไทยมาพอสมควร รวมทั้ง ใน 2 เมืองนี้มีร้านอาหารไทยอยู่จำนวนมาก (Berlin 43 ร้าน Duesseldorf 17 ร้าน) และชื่นชอบในรสชาติอาหารมาก ส่วนใหญ่จะเป็นนักชิมที่ดี คือจะสอบถามวิธีการปรุงและวัตถุดิบส่วนผสมในการปรุงอย่างละเอียด และยืนชมการสาธิตปรุงอาหารไทยอย่างตั้งใจ พร้อมขอรับสูตรปรุงอาหาร และซื้อวัตถุดิบไปหัดปรุงที่บ้าน
  • ในเมือง Kassel และ Bonn จะเป็นเมืองเล็กกว่า แต่การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายก็ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากเช่นกันโดยเฉลี่ยลูกค้าเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าในแต่ละสาขาประมาณวันละ 15,000 - 20,000 คน ขึ้นอยู่กับขนาดความใหญ่ของห้างและเมืองที่จัด
  • เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ทางห้าง Kaufhof มีความยินดีร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายดังกล่าวอย่างยิ่ง เพื่อต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น เพราะถึงแม้ว่าลูกค้าของห้างฯ ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับรายได้ดี แต่จากปัญหาหลายๆ ด้านที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการว่างงาน การแพร่ระบาดไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ ทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย และหลีกเลี่ยงการไปเดินจับจ่ายสินค้าในที่ชุมชนแออัด โดยจะเห็นได้ว่าห้างแต่ละแห่งได้จัดโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษในแผนกต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าในแผนกอาหาร ซึ่งกิจกรรมส่งเสริมขายที่สำนักงานฯ เบอร์ลินร่วมจัดขึ้นกับห้าง Kaufhof ก็เป็นแนวทางหนึ่งในการดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าไทยที่ห้างเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ห้างแต่ละแห่งจะจัดโปรโมชั่นสินค้าอาหารไทยในราคาพิเศษแตกต่างกันไป
สินค้าที่นำมาวางจำหน่าย
  • ห้าง Kaufhof ได้สั่งสินค้ามาวางจำหน่าย จำนวน 300-400 ชนิด จากบริษัทผู้ส่งออกไทย อาทิ จากบริษัท Blue Elephant เป็นสินค้าผลไม้อบแห้ง ชารสต่างๆ เครื่องแกง เครื่องเทศสมุนไพรอบแห้ง ซอสปรุงรส จากบริษัท Exotic Food เป็นสินค้าอาหาร-กระป๋อง ซอสปรุงรส Ready to eat กะทิ เส้นก๋วยเตี๋ยวผัดไทย จากบริษัท Blue Peacock เป็นสินค้าข้าว จากบริษัท President Food สินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
  • นอกจากนี้ห้างฯ ได้สั่งผักผลไม้สดนานาชนิดมาวางจำหน่าย อาทิ จากบริษัท Asia Exotic ผลไม้สด ได้แก่ เงาะ มังคุด มะขามหวาน มะม่วงน้ำดอกไม้ ลิ้นจี่ ผักสด ได้แก่ มะเขือ 4-5 ชนิด หน่อไม้ฝรั่ง ต้มหอม หัวหอมแดง เห็ดเข็มทอง เป็นต้น
  • ห้าง Kaufhof ได้สั่งซื้อสินค้าอาหารแห้ง ผักผลไม้สด จากบริษัทผู้นำเข้าเยอรมันรายใหญ่ อาทิ บริษัท Kreyenhop & Kluge GmbH,Lim & Co. GmbH, Dunekacke & Wilms GmbH, Hamburger Feinfrost GmbH, Frische Paradies De Pastre GmbH
  • สินค้าขายดี 10 อันดับแรก ได้แก่

1. กะทิ

2. น้ำจิ้มไก่

3. เครื่องแกง

4. ข้าวหอมมะลิ

5. ข้าวเหนียว

6. ขนมขบเคี้ยว ได้แก่ ถั่วลิสงอบกรอบ

7. เส้นก๋วยเตี๋ยวผัดไทย

8. Ready to eat

9. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

10. ผักสด/ผลไม้สด

ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม
  • จากผลสำเร็จที่ได้รับ ทำให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้างขึ้นในตลาดเยอรมัน ประกอบกับห้าง Kaufhof เป็นห้างระดับ Hi-end สำนักงานฯ เห็นสมควรจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างฯ อย่างต่อเนื่องทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2553 จะได้ขยายการจัดกิจกรรมเพิ่มมากขึ้นไปใน 8 เมืองใหญ่ ได้แก่ เมือง Hannover, Hamburg, Munich, Stuttgart, Leipzig, Mannheim, Cologne และ Frankfurt ทั้งนี้ในบางเมืองจะเพิ่มการจัดกิจกรรมสาธิตให้ชิมผลไม้ไทย (ผลไม้ไทยที่ห้าง Kaufhof สั่งซื้อมาจำหน่ายอยู่เป็นประจำได้แก่ มะม่วงเ งาะ มังคุด ลิ้นจี่ แก้วมังกร ลำใย มะขามหวาน ฯลฯ) เพื่อเป็นการส่งเสริมการขายผักสดและผลไม้ไทยอีกทางหนึ่งด้วย
  • ในด้านสื่อประชาสัมพันธ์ในปีงบประมาณ 2553 สำนักงานฯ มีโครงการจัดพิมพ์ Leaflet สูตรปรุงอาหารไทยชุดใหม่ โดยจะเน้นรายการอาหารด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น อาทิ ส้มตำ ยำสมุนไพร เป็นต้น เพื่อตอกย้ำว่าสินค้าอาหารไทยเป็นสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและสนองตอบแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน รวมทั้งเป็นการกระตุ้นการขยายการส่งออกสินค้าผักสด ผลไม้สด และสมุนไพรไทย มายังตลาดเยอรมันมากยิ่งขึ้น
  • ถึงแม้ว่ายอดนำเข้าสินค้าอาหารจากไทยในปี 2552 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 239.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 8,153 ล้านบาท ลดจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีมูลค่า 196.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประมาณร้อยละ 18 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก แต่เยอรมันก็ยังเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูง สินค้าอาหารของไทยยังคงเป็นที่ต้องการและมีโอกาสสูงในตลาดเยอรมัน ทั้งนี้ผู้ส่งออกไทยควรต้องคำนึงถึงคุณภาพสินค้าเป็นหลัก ว่าต้องเป็นสินค้าที่คุณภาพดี สม่ำเสมอ และอยู่ในราคาที่เหมาะสม ปราศจากสารเคมีสิ่งปนเปื้อนต้องห้ามต่างๆ เนื่องจากในปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกหันมาให้ความใส่ใจในการดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น แนวโน้มสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยยังคงมีลู่ทางที่สดใส ในการขยายตลาดมายังยุโรปและเยอรมัน ทั้งนี้สำนักงานฯ จะได้พยายามผลักดันไปยังผู้นำเข้า และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยไทยให้มีความสอดคล้องกับแนวโน้มตลาดและผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทางผู้บริหารห้างKaufhof ก็ยินดีให้ความร่วมมือในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
  • ในการส่งออกสินค้าไปตลาดเยอรมัน จะต้องผ่านทางผู้นำเข้า เนื่องจากร้านค้าปลีกในเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า/ซุปเปอร์สโตร์/ไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่วนใหญ่จะสั่งซื้อสินค้าจากผู้นำเข้า จะไม่ได้นำเข้าสินค้าเองโดยตรงจากผู้ส่งออก

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก เยอรมัน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ