ผู้ค้าปลีกสินค้า DIY ทั่วยุโรปได้เตรียมตัวแล้วว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป อียูจะออกกฏระเบียบใหม่ จำกัดจำนวนของ VOCs (Volatile Organic Compounds) หรือส่วนผสมของสารระเหยที่ใช้ในสีและผลิตภัณฑ์ตกแต่งอื่นๆ ในปีแรกนี้ระดับของ VOCs สำหรับสีทาภายในที่ผลิตหรือขายในอียูซึ่งเป็นสีที่ผสมน้ำจะลดส่วนผสมจาก 150 กรัมต่อลิตร มาเป็น 130 กรัมต่อลิตร ขณะที่สีน้ำมันจะลดจะลดส่วนผสมจาก 400 กรัมต่อลิตร มาเป็น 300 กรัมต่อลิตร
ขณะผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายมาก่อนปี 2553 จะได้รับอนุญาตขยายเวลาให้จำหน่ายได้จนถึงปลายปี 2553
สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับสารละลายที่มีอันตรายของสี VOCs คือส่วนผสมที่ผสมในสีน้ำมันเพื่อช่วยให้แห้งเร็ว ปัญหาคือสารละลายตัวนี้จะฟุ้งกระจายอย่างง่ายดายในอุณหภูมิปกติ แม้ว่าจะทาไปหลายปีแล้วก็ตาม และยังมีอันตรายในชั้นบรรยากาศอีกด้วย VOCs เป็นผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ รวมไปถึงสร้างความระคายเคืองให้ ตา จมูก และ คอ ทำให้ปวดหรือเวียนศีรษะ จึงทำให้ทั่วโลกออกกฏระเบียบเพื่อที่จะลด VOCs ลง ไม่ใช่แต่ในสีเท่านั้นแต่จะรวมไปถึงตัวเคลือบเงา และผลิตภัณฑ์ในรถต่างๆ
ตามระเบียบนี้ผู้ผลิตและผู้ขาย DIY ได้เปลี่ยนแปลงส่วนผสมของสีมาก่อนแล้ว ไม่ใช่เพราะระเบียบนี้แต่รวมไปถึงต้องการโปรโมท การรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นจุดขายที่สำคัญอีกด้วย
ตามการคาดการของยูโรมอนิเตอร์เชื่อว่าการเติบโตของสินค้ากลุ่มนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 1 และเชื่อว่าตลาดสินค้าของตกแต่งบ้านจะค่อยๆเติบโตในช่วง 5 ปี ข้างหน้า
ในปีหน้าสีและผลิตภัณฑ์ที่ใช้สีนี้จะติดเครื่องหมายสีเขียวเพื่อแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม และอีกกลุ่มหนึ่งที่จะมุ่งเน้นที่สีธรรมชาติ จะเป็นสินค้าตลาดบนสำหรับผู้ที่ใสใจในเรื่องสุขภาพและห่วงใยสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้ว่าจะมีราคาสูงแต่ก็ขายได้
ที่มา: http://www.depthai.go.th