สินค้าของเล่นในตลาดแคนาดา

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 11, 2009 13:45 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ปัจจุบันพ่อแม่และผู้ปกครองส่วนใหญ่ในแคนาดา เน้นการเลือกของเล่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปราศจากอันตรายของสารเคมี ทำให้ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าของเล่นต่างพยายามจัดหาสินค้าที่มีคุณสมบัติดังกล่าวเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด

ตลาดของเล่นเด็กในแคนาดา

ตั้งแต่เดือนมกราคม — ตุลาคมปี 2552 ประเทศแคนาดา มีการนำเข้าสินค้าของเล่นจากประเทศต่างๆ คิดเป็นมูลค่ารวม 2,852.04 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 ถึง 14.89 % โดยนำเข้าจากประเทศไทย เป็นอันดับที่ 6 คิดมูลค่า 29.62 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 1 ได้แก่ประเทศจีนคิดเป็นมูลค่า 1,873.80 ล้านเหรียญสหรัฐ และจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอันดับ 2 คิดเป็นมูลค่า 632.79 ล้านเหรียญสหรัฐ

การแบ่งประเภทของเล่นในแคนาดา

จากข้อมูลของ Canadian Toy Association แบ่งของเล่นออกเป็น 15 ประเภท ดังนี้

1. Balls ลูกบอล เป็นลูกบอลต่างๆ ที่ผลิตจากวัสดุหลากหลาย สามารถให้ความบันเทิงสนุกสนานทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ เล่นได้ทั้งเกมการละเล่นและในกีฬา รวมทั้งสามารถเล่นเป็นกลุ่มหรือเล่นคนเดียว

2. Dolls ตุ๊กตา เป็นหมวดที่ใหญ่ที่สุดของของเล่น มีหลายรูปแบบและหลายขนาด จะมีขอบเขตเพียงจุดสิ้นสุดของจินตนาการเท่านั้น ตุ๊กตาสามารถพบได้ในทุกๆ บ้านที่มีเด็ก ปัจจุบันลูกค้าสามารถซื้อหาตุ๊กตาได้ทั้งแบบธรรมดา จนถึงตุ๊กตาพูดได้ เดินได้ ร้องไห้ได้ หรือกระทั่งดื่มเครื่องดื่มได้

3. Stuffed Toy ของเล่นที่มีการบรรจุยัดไส้ ส่วนใหญ่ของเล่นที่มีการยัดไส้นี้ จะทำจากวัสดุที่นุ่มหรือทำจากกำมะหยี่ และเป็นรูปสัตว์ หรือตัวการ์ตูนต่างๆ ของเล่นประเภทนี้มักมีสถานะเป็นเพื่อนของเด็กๆ การทำการตลาดปัจจุบันของของเล่นประเภทนี้มักจะขายควบคู่มากับหนังสือ แผ่นภาพยนต์ DVD วิดิทัศน์ และกิจกรรมเพื่อความบันเทิงประเภทอื่นๆ ของเล่นประเภทนี้มีตั้งแต่ราคาถูกมากๆ ไปจนถึงระดับของสะสมราคาแพง

4. Construction Toy ของเล่นต่อตัว ต่อโครงสร้าง เป็นของเล่นประเภทที่ได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์และสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเด็กได้ดี ของเล่นประเภทนี้มีกลุ่มเป้าหมายสำหรับกลุ่มอายุตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ และตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ เพื่อต่อตัวสร้างเป็นของชิ้นเดียวจนถึงการต่อสร้างเป็นของชิ้นใหญ่ หรือเป็นของหลายๆ ชิ้น (Complex)

5. Let’s Pretend Toy ของเล่นจำลอง เป็นของเล่นประเภทจำลองขนาดมาจากสิ่งที่ผู้ใหญ่ใช้เพียงแต่ขนาดเล็กกว่า อาทิ ชุดครัว ชุดเครื่องมือช่าง รถไฟ เครื่องดูดฝุ่น รถยนต์ กีร์ต้า ของเล่นประเภทนี้ช่วยสร้างและพัฒนาความสามารถในการจดจำหรือลอกเลียนแบบกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากผู้ใหญ่รอบๆ ตัว

6. Visual Toy ของเล่นที่เกิดจากการมองเห็น อาทิ การวาดภาพ ดินสอสี โปรแกรมการวาดภาพสำหรับเด็ก กล้องดูดาว

7. Modeling Compounds ปั้น หรือประกอบของเล่น เป็นการใช้วัตถุดิบมาปั้น และนำมาประกอบกันเด็กๆ สามารถใช้จินตนาการเพื่อพัฒนาการใช้ทักษะของเด็ก

8. Music and Rhythm Toys ของเล่นที่เป็นเสียงดนตรี และจังหวะต่างๆ ซึ่งเป็นของเล่นที่เด็กจะได้รับเป็นของเล่นชิ้นแรก แต่เมื่อเด็กเติบโตขึ้น จะเริ่มได้รับการแนะนำไปสู่เครื่องดนตรีที่ใหญ่กว่า เช่น กลอง เครื่องตี Xylophones เครื่องเป่า และอื่นๆ อีกมากมาย

9. Climbing Toys เครื่องเล่นที่ใช้ปีนป่าย แม้ว่าจะมีทั้งประเภทในร่มและกลางแจ้ง แต่ส่วนใหญ่จะผลิตเพื่อใช้เล่นกลางแจ้งมากกว่า วัตถุประสงค์เพื่อความสนุกสนาน และการพัฒนาการของกล้ามเนื้อและร่างกายของเด็ก

10. Sports and Outdoor Equipment เครื่องเล่นกีฬา และอุปกรณ์กิจกรรมกลางแจ้ง มีหมวดหมู่มากมายครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและประเภทกีฬา เป็นการสร้างโอกาสในการออกกำลังกายและการพัฒนาการเข้าสังคม ทักษะการเข้าร่วมกลุ่มกับผู้อื่น

11. Vehicles พาหนะ แบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ สำหรับเล่นทั่วไป มีหลายรูปแบบ เช่นรถยนต์ขนาดต่างๆ รถบรรทุก เป็นต้น และสำหรับขับเล่น ซึ่งได้แก่รถยนต์ขนาดเล็ก รถ 3 ล้อ เป็นต้น

12. Electrical and Battery-Operated Toys ของเล่นที่ใช้ถ่านหรือไฟฟ้า เป็นของเล่นราคาแพง มีทั้งแบบเล่นง่ายๆ จนถึงการมีสวิตช์ที่ซับซ้อน

13. Games การละเล่นที่เป็นการแข่งขัน มีทั้งกติกาที่ง่ายและซับซ้อน เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มี 3 ชนิด คือ เกมที่ใช้โอกาสในการชนะ เกมที่ต้องใช้ทักษะ และเกมที่ต้องใช้การคิดและกลยุทธ์ การทำตลาดสินค้าประเภทนี้มักจะจำหน่ายร่วมกับตัวแสดงหรือตัวการ์ตูนในภาพยนต์

14. Hobbies and Crafts กิจกรรมหรือการละเล่นที่เป็นงานอดิเรก รวมถึงการประดิษฐ์ เป็นของเล่นที่เปิดโอกาสให้ใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ส่วนใหญ่ผลิตในรูปแบบเป็นชุดของเล่นสำหรับผู้เริ่มต้น เท่านั้น

15. Electronic Toys and Games ของเล่นประเภทอิเล็คทรอนิกส์ เป็นของเล่นที่กำลังเติบโตในตลาดของเด็กเล่น อาจเป็นส่วนหนึ่งในของเล่นประเภทอื่นๆ

แนวโน้มความต้องการตลาดสินค้าของเล่นในแคนาดา

แม้ว่าพ่อแม่ผู้ปกครองจะเป็นกลุ่มผู้ซื้อของเล่นให้กับเด็กและสมาชิกในครอบครัว แต่ปัจจุบันเด็กเล็กๆ สามารถแสดงความต้องการของเล่น ซึ่งเป็นผลมากจากโฆษณา และเอาตามอย่างเพื่อนๆ แม้แต่การได้ไปเห็นของเล่นนั้นๆ ตั้งวางแสดงอยู่ในร้านของเล่น ต่อเมื่อเด็กโตขึ้น อิทธิพลของพ่อแม่ผู้ปกครองในการตัดสินใจซื้อของเล่นให้เด็ก จะค่อยๆ หายไป ทำให้การดึงดูดใจในการตัดสินใจซื้อมากจาก 2 ปัจจัยคือ

1. การออกแบบ คุณสมบัติ คุณภาพ และราคา เช่นตุ๊กตาที่มีรูปลักษณ์หรือเป็นตัวแทนของตัวแสดงนำในภาพยนต์หรือวิดิทัศน์

2. คุณค่าทางการศึกษาและพัฒนาการของเด็ก โดยวัดจากสิ่งที่ของเล่นชิ้นนั้นๆ สามารถให้ความรู้หรือสอนอะไรให้แก่เด็กได้บ้าง ตังอย่างเช่น การสร้างกำแพงอิฐ สามารถสร้างทักษะการนับหรือการใช้สี หรือการสร้างรูปทรงต่างๆ ของเล่นบางอย่างได้รับการตระหนักถึงคุณค่าจากรุ่นพ่อแม่ ซึ่งของเล่นเหล่านี้จะอยู่คงทนมากกว่าของเล่นที่ผลิตออกมาตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปหากผู้ส่งออกไทยสามารถมองหารูปแบบที่เหมาะสมกับปัจจัยทั้ง 2 ข้อดังกล่าว จะเป็นแนวทางหนึ่งในการขยายการส่งออกของเล่นมายังแคนาดามากขึ้นนอกจากนี้ผู้ส่งออกไทยควรศึกษาสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องพิจารณาในการเลือกซื้อและตัดสินใจซื้อของเล่นให้ลูกหลาน เพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นข้อพิจารณาในการผลิตและพัฒนาของเล่น ได้แก่

1. ฉลากและเอกสาร หรือคู่มือ ระบุข้อมูลที่ควรมี จากมุมมองของผู้ซื้อ ซึ่งประกอบด้วย

  • ชื่อ ของเล่น
  • บริษัทผู้ผลิต ตราสินค้า และใบอนุญาตผลิต และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • อายุของเด็กที่เหมาะสมในการเล่นของเล่นนั้นๆ
  • ในกล่องบรรจุอะไรมาบ้าง เช่น มีห่วงสำหรับโยน 20 ห่วง เสาฐาน 1 เสา รวมทั้งกฎในการใช้หรือทำความสะอาด เป็นต้น
  • การรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เช่น รับรองมาตรฐานความปลอดภัย โดยสถาบัน... หรือผ่านการทดสอบความปลอดภัยแล้ว เป็นต้น
  • Universal Product Code (Bar Code) และราคา

2. อายุที่เหมาะสมสำหรับของเล่น ในขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองเลือกของเล่นบนชั้นที่มีมากมายการตัดสินใจซื้อจะมาจากการประเมินส่วนตัวและข้อความที่ได้รับจากการโฆษณา รวมทั้งจากข้อมูลในทางบวก ที่เพื่อนๆ หรือคนรู้จักเคยซื้อหรือมีประสบการณ์บอกเล่ามา หากต้องการกลั่นกรองปัจจัยลึกๆ ของกระบวนการตัดสินใจซื้อ พบว่าปัจจัยที่ดีที่สุดคือจากสัญชาตญาณและข้อมูลบนฉลาก นอกจากนั้น การเลือกซื้อของเล่นอาจจะเลือกซื้อของเล่นที่สามารถขยายความสนใจจากกลุ่มอายุอื่นๆ โดยไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเด็กๆ ให้ก้าวร้าวหรือเป็นไปในทิศทางที่ไม่ควรจากการเล่นของเล่นร่วมด้วย ถือเป็นมูลค่าเพิ่มของของเล่นชนิดนั้น

3. การจัดแบ่งระดับของอายุ โดยส่วนใหญ่บรรจุภัณฑ์ของเล่น จะมีข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มอายุที่เล่นของเล่นนั้นได้ เช่น สินค้านี้ แนะนำสำหรับเด็กอายุ 18 เดือน จนถึง 3 ขวบ ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการทำวิจัย ลำดับของอายุ ขนาดของของเล่น ระดับทักษะ และวุฒิภาวะ ของเด็กเนื่องจากการพัฒนาการของเด็กไม่เท่ากัน และการจัดระดับอายุที่เหมาะสมกับของเล่นนั้น ก็ต่างกันไปตามชนิดของของเล่น

4. ผู้ส่งออกไทยควรศึกษาตลาดและตามให้ทันความต้องการของตลาด สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะได้รับการตอบรับจากตลาดแคนาดาเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ราคาสินค้ามีผลต่อการจัดสินใจซื้อของพ่อแม่และผู้ปกครอง

ท้ายที่สุด ผู้ส่งออกไทยควรพึงระวังไว้เสมอว่า การสุ่มตรวจสินค้าของรัฐบาลแคนาดานั้น เป็นเรื่องที่ต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะมีผลให้เกิดอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้า อาจทำให้เกิดความล่าช้า เสียเครดิตต่อผู้นำเข้า ขาดทุน และอาจทำให้ตัดโอกาสในการส่งออกสินค้าของเล่นมายังประเทศแคนาดาสำหรับตัวเองและบริษัทผู้ส่งออกไทยรายอื่นๆ อีกด้วย

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก เคมี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ