จีนก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตโซลาร์เซลล์ใหญ่ที่สุดในโลก

จีนประกาศเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง โดยในแผนพัฒนาอุตสาหกรรมที่ตีพิมพ์ขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุชัดเจนว่า จีนจะเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์ ลม และชีวภาพ โดยในปี 2596 หรืออีกประมาณ 40 ปีจากนี้ไปพลังงานใหม่จะมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 40 ของปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศ

ณ สิ้นปี 2551 จีนได้ติดตั้งอุปกรณ์ผลิตพลังงานลมที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 12.153 ล้านกิโลวัตต์ ทำให้จีนกลายเป็นตลาดพลังงานลมที่ใหญ่อันดับที่ 4 ของโลก และผู้เชี่ยวชาญคาดว่าภายในปี 2563 จีนจะติดตั้งอุปกรณ์ผลิตพลังงานลมรวม 80-100 ล้านกิโลวัตต์ และกลายเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกในด้านนี้ ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นจะคิดเป็นมูลค่า 160,000 ล้านหยวน และจะก่อให้เกิดการว่าจ้างพนักงานในโรงงานเหล่านั้นเกือบ 100,000 คน

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญยังคาดว่า ประเทศจีนซึ่งปัจจุบันมีบริษัทผลิตโซลาร์เซลล์จำนวน 1 รายจดทะเบียนในประเทศและจำนวน 11 รายจดทะเบียนในต่างประเทศ จะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2,500 เมกกะวัตต์ในปี 2563

ทั้งนี้ ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนระยะกลางและระยะยาว ซึ่งตีพิมพ์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาระบุว่า ในปี 2553 การใช้พลังงานทดแทนจะมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 10 ของปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 15 ในปี 2563 และจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 ภายในปี 2593

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังวางแผนจะก่อสร้างสถานีผลิตพลังงานนิวเคลียร์อีก 31 แห่งเพื่อให้สามารถผลิตพลังงานถึง 31 ล้านกิโลวัตต์ภายในปี 2553 และจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 18 ล้านกิโลวัตต์ภายในปี 2563 ซึ่งนั้น หมายความว่า จะมีการก่อสร้างสถานีผลิตพลังงานนิวเคลียร์ขนาด 1 ล้านกิโลวัตต์ขึ้นใหม่จำนวน 2 แห่งในทุก ๆ ปี

อย่างไรก็ดี ในแผนพัฒนาฯ ฉบับใหม่ รัฐบาลจีนได้ปรับแผนการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 20-30 เม็กกะวัตต์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่าของเป้าหมายที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้

พลังงานแสงอาทิตย์ได้กลายมาเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมสำคัญที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนอย่างจริงจังเพื่อ พัฒนาพลังงานทดแทน โดยปัจจุบันจีนมีกิจการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์มากกว่า 10 แห่ง โดยแต่ละแห่งมีกำลังการผลิตกว่า 100 เม็กกะวัตต์ต่อปี และมีโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้อีกเป็นจำนวนมากในอนาคต ซึ่งจะทำให้จีนมีกำลังการผลิตรวม 10,000 กิโลวัตต์ นอกจากนี้ ตามหลังคาบ้านเรือนของประชาชนทั้งในเมืองและชนบทก็ติดแผงโซลาร์เซลล์กันอย่างดาษดื่น ซึ่งน่าจะช่วยลดอัตราการใช้พลังงานที่คิดเป็นร้อยละ 30 ของระดับการใช้พลังงานโดยรวมของประเทศลงได้ในอีกระดับหนี่ง

อนึ่ง ปัจจุบัน จีนมีโครงสร้างการใช้พลังงานจากถ่านหินร้อยละ 69 ตามด้วยน้ำมันร้อยละ 20 และพลังงานน้ำ นิวเคลียร์และพลังงานลมอีกร้อยละ 7.6 ของปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมด

ที่มา: http://www.depthai.go.th