เมื่อวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2552 ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นคร โฮจิมินห์ ได้มีโอกาสร่วมคณะผู้แทนไทยซึ่งมีเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย ( ออท.)เป็นห้วหน้าคณะ เดินทางไปหารือข้อราชการกับประธานคณะกรรมการประชาชนของ 3 จังหวัดในภาคกลางของเวียดนาม ได้แก่ นครดานัง จังหวัดกว๋างจิ และจังหวัดเถื่อเทียนเว้ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อแสวงหาลู่ทางในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยกับภาคกลางของเวียดนาม โดยเฉพาะการผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเส้นทางหมาย เลข 9 อย่างเต็มที่
ด้านการท่องเที่ยว
ไทยเสนอให้พัฒนาความร่วมมือกันระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว และเวียดนาม ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนส่งภาคเอกชนของทั้ง 3 ประเทศร่วมกันเปิดกิจการเดินรถโดยสารท่องเที่ยวชั้นดี (Coach) ระหว่างจังหวัดมุกดาหารกับจังหวัดในภาคกลางของเวียดนาม ส่วนภาครัฐจะอำนวยความสะดวกให้มีการตรวจลงตราเอกสารเดินทางให้รวดเร็ว โดยจะร่วมหารือกันถึงความเป็นไปได้ในการตรวจเอกสารครั้งเดียว ณ จุดเดียว เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารต้องเสียเวลาขึ้นลงรถหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ต้องชี้ให้ลาวเห็นว่าสามารถได้รับประโยชน์จากธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่จะตามมาจากการใช้ประโยชน์ของเส้นทาง ซึ่งอยู่ในลาวเป็นส่วนใหญ่
ฝ่ายเวียดนามแสดงความสนใจและให้การตอบรับ โดยเฉพาะ จ.เถื่อเทียนเว้ ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการแผนกการท่องเที่ยวทำรายงานเสนอรัฐบาล ทั้งนี้ ออท.ไทยรับจะเสนอรัฐบาลดำเนินการจัดประชุมหารือในรายละเอียดระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในประเทศทั้งสามต่อไป
ด้านการลงทุน
เวียดนามทั้ง 3 จังหวัดต้องการให้ไทยเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมด้านการประมง คือ สร้างห้องเย็นและโรงงาน แปรรูปสัตว์น้ำ / อาหารทะเล โรงงานผลิตอาหารกุ้ง เพาะเลี้ยงพันธุ์กุ้ง อุตสาหกรรมด้านไฮเทค และโรงงานผลิตไฟฟ้า
ไทยรับจะเชิญชวนนักลงทุนไทยเข้ามาดูลู่ทางการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยเฉพาะด้านโรงงานผลิตไฟฟ้า ที่มีนักธุรกิจไทยที่มีศักยภาพให้ความสนใจต้องการเข้าไปลงทุนทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ในลักษณะ Turn — Key โดยให้เวียดนามผ่อนชำระคืน
ด้านการค้า
ประธานคณะกรรมการประชาชนนครดานังแจ้งว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเทศกาล “เต๊ด ” (ตรุษเวียดนาม) นครดานังจะจัดงานแสดงสินค้าประจำปี และที่ผ่านมาไทย (โดย สคต. นครโฮจิมินห์ )ได้ให้ความร่วมมือมาจัดงานแสดงสินค้าร่วมพร้อมการแสดงด้านวัฒนธรรม (โดยสถานกงสุลใหญ่ และ ททท. ณ นครโฮจิมินห์) จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปีนี้คงได้รับความร่วมมือในการเข้าร่วมจัดงานเช่นปีที่ผ่านมา
ไทยรับจะเข้าร่วมการจัดงานแสดงสินค้า และนำวัฒนธรรมไทยมาเผยแพร่เช่นเคย และเนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ จึงจะใช้โอกาสนี้นำคณะผู้แทนการค้าไทย ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัดเข้าเยี่ยมชมงานและพบหารือกับประธานคณะกรรมการประชาชนและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องด้วย โดย ออท.จะเข้าร่วมหารือด้วย
ความเห็นของ สคต.นครโฮจิมินห์
(1) นครดานังเป็นเมืองที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าไทย เพราะมีเส้นทางหมายเลข 9 แต่ปรากฏว่าผู้ประกอบการไทยในจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียงยังมีการติดต่อธุรกิจการค้ากับภาคกลางเวียดนามน้อยมาก ทั้งที่ น่าจะมีโอกาสร่วมมือทางการค้าและการลงทุนมากกว่านี้ ภาครัฐจึงจำเป็นต้องผลักดันให้เกิดการไปมาหาสู่และทำธุรกิจร่วมกันมากขึ้น
(2) วิธีการเจาะตลาดโดยการจัดงานแสดงสินค้า ยังเป็นวิธีการที่ได้ผลดีสำหรับประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ สคต. นครโฮจิมินห์ ได้เข้าร่วมจัดงานแสดงสินค้า ณ นครดานังมาแล้ว 2 ครั้ง นับว่าประสบผลสำเร็จสำหรับผู้ประกอบการที่มีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง และมุ่งหวังการเจาะตลาดโดยแท้จริง แม้จะยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่จัดในนครโฮจิมินห์ ซึ่งจัดมาแล้ว 7 ครั้งก็ตาม แต่ก็เริ่มเป็นที่รู้ของตลาดดานังแล้ว สำหรับในปี 2553 นี้ สคต. นครโฮจิมินห์ ได้เสนอโครงการจัดงานแสดงสินค้า Made in Thailand Outlets in Danang 2010 เพื่อร่วมงานแสดงสินค้าประจำปีของนครดานัง ซึ่งจัดโดย ศูนย์ส่งเสริมการค้านครดานัง ภายใต้คณะกรรมการประชาชนนครดานัง กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 1 — 7 กุมภาพันธ์ 2553 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของกรมส่งเสริมการส่งออก
(3) สคต.นครโฮจิมินห์ เห็นว่าควรได้มีการขยายพื้นที่การเจาะตลาดเวียดนามโดยการจัดงานแสดงสินค้าที่นครดานังเพราะ
- นครดานังเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเวียดนาม และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรัฐบาลผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภาคกลาง อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าในการขนส่งและกระจายน้ำมัน รวมทั้งเป็นเมืองที่มีรายได้จากการโอนเงินมาให้ญาติพี่น้องของบรรดาชาวเวียดนามโพ้นทะเล ( Viet Kieu) ปีละประมาณพันล้านบาท
- นครดานังเริ่มใช้นโยบายส่งเสริมการค้าในประเทศ และใช้สินค้าของเวียดนามเอง ดังนั้น การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าจึงมิใช่วัตถุประสงค์เพื่อการค้าเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานและประชาชนในนครดานังด้วย
- หากมีการจัดงานแสดงสินค้า Made in Thailand Outlets in Danang 2010 ในปี 2553 ที่จะ ถึงนี้ จะมีกิจกรรมในงานเพิ่มขึ้น โดยจะมีการพบปะเจรจาระหว่างคณะผู้แทนไทย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจากจังหวัดมุกดาหารกับคณะกรรมการประชาชนของนครดานัง เพื่อสร้างความรู้จักคุ้นเคยและร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันต่อไป
สคต.นครโฮจิมินห์
ที่มา: http://www.depthai.go.th