กรมส่งเสริมการส่งออกทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 15, 2009 10:37 —กรมส่งเสริมการส่งออก

กรมฯ พร้อมปรับปรุงงานให้สอดรับยุทธศาสตร์ใหม่กระทรวงพาณิชย์ เน้นโครงการสร้างมูลค่าเพิ่ม นวัตกรรม เผย 20 ปี ข้อมูลล้าสมัย จำเป็นที่ต้องการฐานข้อมูลการตลาด พิชิตเป้าหมายการส่งออกปี 2553

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยถึง การปรับกลยุทธ์การดำเนินงานของกรมส่งเสริมการส่งออก ให้สอดคล้องกับยุทธ์ศาสตร์กระทรวงพาณิชย์ว่า ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งได้เกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้หารือกับผู้บริหารของกรมฯถึงการทำงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออกเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักสำคัญ เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์สถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ ดังนั้นกรมฯจะจึงต้องปรับเปลี่ยนการทำงานของประเทศไทยให้สอดรับและเดินหน้า เพื่อแข่งขันในตลาดโลกได้

“จากการระดมความคิด ร่วมกับผู้บริหารของกรมฯ 6-7 ครั้งเห็น จุดที่ต้องปรับเปลี่ยน คือ การปรับลดงบประมาณที่ทุ่มไปใช้ในการงานแสดงสินค้าและการจัดคณะผู้แทนการค้าทั้งนำเข้า-ส่งออกเกือบร้อยละ 70 ของงบประมาณในแต่ละปี โดยจะไปเน้นกิจกรรมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้สอดรับกับการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป 9 โครงการ รวมงบประมาณ 310 ล้านบาท อาทิ โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าให้เกษตรกร โครงการ Thailand's Export Showcase โครงการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการส่งออก เป็นต้น ซึ่งได้ผ่านคณะอนุกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแล้ว และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในเร็วๆ นี้” นางศรีรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้โครงการพัฒนาระบบข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ 100 ล้านบาท จำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะ จากการตรวจสอบพบว่า ในรอบ 20 ปี ฐานข้อมูลที่กรมฯมีอยู่ใช้ได้เพียง 20-30% เท่านั้น ของข้อมูลที่มี(เอกชนเป็นผู้บอก)ประกอบกับที่ผ่านมาทั้ง 61 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศต่างใช้งบประมาณที่ซ้ำซ้อนในการซื้อข้อมูลบริษัทนำเข้า-ส่งออก จึงทำให้สิ้นเปลื้องงบประมาณโดยไม่จำเป็น โดยแต่ละหน่วยจะใช้งบประมาณที่ได้รับถึงร้อยละ 70 ที่ได้รับอนุมัติเพื่อการนี้ “กรมฯจึงมีแนวคิดที่จะตั้งศูนย์กลางไว้ที่กระทรวงฯแล้วให้ทุกหน่วยงานใน-นอกประเทศไทย และเอกชนได้ใช้ฐานข้อมูลการตลาดในเชิงลึกนี้ได้ด้วย อย่างไรก็ตามต้องไปดูเงื่อนไขด้วยว่า ผู้ให้บริการจะให้กรมฯสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลได้กี่จุด ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องปกติที่ทุกผู้ให้บริการจะต้องจำกัดไว้ ไม่เช่นนั้น เขาจะไม่สามารถขายข้อมูลให้กับคนอื่นๆ ได้”นางศรีรัตน์ กล่าวและว่า สำหรับข้อมูลที่ซื้อมาจากยูโร มอนิเตอร์ มีการซื้อข้อมูลมาจริง แต่มีเงื่อนไขว่า ดูและนำบางส่วนมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ไม่สามารถเผยแพร่ในส่วนนี้ได้”นางศรีรัตน์ กล่าว

สำหรับการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯที่ได้เลื่อนไป แต่ยังไม่ได้กำหนดวันประชุมใหม่นั้น เป็นเพราะนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดภารกิจด่วน ต้อนรับคณะจากมาเลเซีย ซึ่งจะประสานงานกับเลขาฯนางพรทิวาอีกครั้งว่า จะนัดอีกครั้งวันไหน แต่ไม่ได้เลื่อนออกไป เพราะมีกระแสข่าวออกมา โดยคณะกรรมการฯชุดนี้มีตัวแทนจากหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชนด้วย อาทิ สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นต้น จึงมีการทำงานที่เป็นระบบและตรวจสอบซึ่งกันและกันได้ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเงิน สามารถตรวจสอบเอกสารได้ ทุกอย่างมีใบเสร็จรับเงินและมีข้อท้วงติงอยู่สม่ำเสมอ ถือเป็นการทำงานปกติ

“การกล้าจะปรับปรุงงาน เพื่อให้เกิดความกระตือรือร้นในการทำสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย ย่อมจะมีคนคิดแตกต่าง ไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา แต่สถานการณ์การตลาดโลกได้เปลี่ยนแปลงไป เราย่อมจะต้องปรับตัวตาม ไม่เช่นนั้น เราจะตามคู่แข่งไม่ทัน โดยส่วนตัวเห็นว่า จะตั้งใจทำงานให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แม้จะมีความคิดต่าง ก็ไม่เป็นไร เหล่านี้เพื่อให้การทำงานทันสมัยขึ้น และการขยับเข้าสู่เป้าหมายตัวเลขการส่งออกให้เป็นบวกได้เป็นจริงมากขึ้น”อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าว

สถานะเงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีเงินต้นที่ใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย 3,600 ล้านบาท และส่วนที่ใช้ได้ตามกฎหมาย ที่รวมดอกเบี้ย และงบประมาณที่รัฐบาลจ่ายสมทบรวม 1,038 ล้านบาท โดยโครงการใหม่ 9 โครงการมีดังนี้ นั้น ได้แก่

1. โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกร วงเงิน 30 ล้านบาท

2. โครงการ Thailand's Export Showcase วงเงิน 30 ล้านบาท

3. โครงการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์สู่สากล 10 ล้านบาท

4. โครงการส่งเสริมสินค้า และธุรกิจบริการเชิงสร้างสรรค์ร่วมกับ ASEAN -Japan Center 10 ล้านบาท

5. โครงการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการส่งออก 30 ล้านบาท

6. โครงการพัฒนาตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเชิงลึก 30 ล้านบาท

7. โครงการพัฒนาระบบตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 20 ล้านบาท

8. โครงการพัฒนาระบบข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ 100 ล้านบาท และ

9. โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหม่ 30 ล้านบาท

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ