นักธุรกิจไทยส่วนใหญ่ เมื่อพูดถึงอิหร่านแล้ว ก็มักจะมองว่าเป็นประเทศที่ไม่น่าค้าขายหรือลงทุน และเห็นว่าอิหร่านเป็นประเทศมีความเสี่ยงสูง อันตราย มีอุปสรรคมากมาย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว อิหร่านเป็นประเทศที่มีโอกาสทางการค้ามหาศาล โดยอิหร่านเป็นตลาดที่มีผู้บริโภคถึง 70 ล้านคน มีน้ำมันสำรองร้อยละ 11 ของปริมาณสำรองน้ำมันโลก มีก๊าซธรรมชาติสำรองถึงร้อยละ 15 ของปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองโลก มีโรงงานปิโตรเคมีขนาดใหญ่ มีเหมืองทองแดง มีเกษตรกรรมขนาดใหญ่ ฯลฯ อิหร่านจึงนับได้ว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยทั้งทางการเงินและทรัพยากรธรรมชาติ ที่นักธุรกิจไทยน้อยคนนักจะทราบความจริงข้อนี้
1. ตลาด นอกจากตลาดภายในประเทศอิหร่านจะมีขนาดใหญ่ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น อิหร่านยังมีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีประชากรกว่า 300 ล้านคน ซึ่งหมายความว่าสินค้าไทยที่ส่งไปขายในตลาดอิหร่าน จะมีโอกาสเจาะตลาดอื่นๆ ที่มีพรมแดนติดกับอิหร่านได้อีกด้วย
2. ความต้องการสินค้าและบริการ อาจกล่าวได้ว่า ประชาชนชาวอิหร่านต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพไม่ต่างจากประเทศอื่นๆ ดังนั้น นักธุรกิจไทยจึงควรเดินทางไปสำรวจและวิจัยตลาดสินค้าและบริการในอิหร่าน เพื่อให้ทราบถึงแนวทาง รสนิยม และจุดขายของสินค้าของตนเอง เพื่อทำการตลาดในอิหร่านอย่างได้ผลต่อไป
3. การคว่ำบาตรทางการค้า ปัญหาการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ทำให้บริษัทคู่แข่งต่างๆ จากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและญี่ปุ่นไม่สามารถดำเนินธุรกิจในอิหร่านได้เต็มที่ ทำให้บริษัทคู่แข่งจากประเทศเหล่านี้มีน้อย จึงเป็นโอกาสทองของนักธุรกิจไทยที่จะเข้าไปแสวงหาลู่ทาง เพื่อช่วงชิงและยึดหัวหาดตลาดในอิหร่านเอาไว้ก่อนประเทศคู่แข่งอื่นๆ
4. กฎระเบียบทางการค้า เนื่องจากอิหร่านยังไม่เป็นประเทศสมาชิก WTO ดังนั้น กฎระเบียบทางการค้าภายในประเทศจึงยังไม่เป็นสากล ทำให้นักธุรกิจส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงที่จะทำการค้าหรือลงทุนในอิหร่าน แต่หากมองว่าอุปสรรคทางการค้าทำให้คู่แข่งน้อย และเห็นว่าปัญหาอุปสรรคทุกอย่างแก้ไขได้ จึงเป็นโอกาสทองของนักธุรกิจไทยที่จะไปเจาะตลาดใหม่ ก็จะพบว่าการค้าขายกับอิหร่านเป็นไปได้และไม่ยากอย่างที่คิด
5. การคมนาคม อิหร่านเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธ์ศาสตร์ทางการค้าที่เชื่อมต่อระหว่างตะวันออกกลาง เอเชีย และยุโรป อิหร่านมีระบบการขนส่ง คมนาคมที่ทันสมัย นักธุรกิจไทยสามารถใช้อิหร่านเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าหรือขนส่งสินค้าทั้งภายในประเทศและประเทศใกล้เคียงได้สะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ อิหร่านมีสายการบินทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่ให้บริการการบินไปยังเมืองสำคัญต่างๆ อีกด้วย
6. แรงงาน อิหร่านมีประชากรวัยทำงานถึง 24.35 ล้านคน และมีประชากรที่มีอายุระหว่าง 15-64 ปี ถึงร้อยละ 72.9 โดยเป็นผู้ชาย 24 ล้านคน เป็นผู้หญิง 23 ล้านคน จึงอาจกล่าวได้ว่าอิหร่านมีแรงงานวัยทำงานที่พร้อมจะทำงาน ซึ่งนักธุรกิจไทยที่ต้องการลงทุนในอิหร่านไม่ต้องวิตกกังวลในการจ้างแรงงานในอิหร่านแต่อย่างใด
7. พลังงาน อิหร่านมีทรัพยากรธรรมชาติด้านพลังงานมหาศาล ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลอิหร่านให้การสนับสนุนให้ต่างชาติลงทุนในประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่อุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ อย่างจริงจัง ดังนั้น หากนักธุรกิจไทยต้องการลงทุนในอิหร่าน ก็สามารถขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากรัฐบาลอิหร่านได้เต็มที่
8. ความมั่นคงทางการเมือง ถึงแม้ว่าอิหร่านจะดำเนินนโยบายต่างประเทศที่แข็งกร้าวกับโลกตะวันตกและมีปัญหาการเมืองภายในประเทศอยู่บ้าง แต่ปัญหาการเมืองของอิหร่านไม่กระทบกับการทำธุรกิจการค้ามากนัก นักธุรกิจอิหร่านทั่วไปยังคงดำเนินธุรกิจได้ตามปรกติ นอกจากนี้ประชาชนชาวอิหร่านส่วนใหญ่รู้จักแยกแยะระหว่างปัญหาการเมืองกับการค้าขาย ประกอบกับประชาชนอิหร่านมีนิสัยใจคอที่เป็นมิตรและโอบอ้อมอารีกับชาวต่างชาติ ดังนั้น นักธุรกิจไทยจึงไม่ควรวิตกกังวลกับสถานะภาพการทางการเมืองของอิหร่านจนเกินไป
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน
ที่มา: http://www.depthai.go.th