อาหารกระป๋องไทยผลงานเด่นในงาน ANUGA

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 16, 2009 13:24 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สอ.นำผู้ส่งออกไทยร่วมงานแสดงสินค้า ANUGA 2009 งานเดียว ทำเงินกว่าพันล้านบาท เชื่อโอกาสอาหารไทยยังแจ่มใส หลังเปิดให้ชิมแจกให้ลอง ผู้ซื้อรับคุณภาพอาหารไทยสูงพร้อมสู้ราคาโดยเฉพาะอาหารกระป๋อง

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกได้กล่าวถึงผลการนำผู้ส่งออกไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ANUGA 2009 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองโคโลญจน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อวันที่ 10-14 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านว่ากรมฯ ได้นำผู้ส่งออกไทยไปร่วมงานถึงจำนวน 130 บริษัท และมีบริษัทเข้าร่วมงานด้วยตนเองอีกถึง 26 ราย โดยแบ่งโซนคูหาไทยตามประเภทสินค้า เช่น ข้าว อาหารกระป๋อง อาหารพร้อมรับประทาน เป็นต้น และผู้ส่งออกไทย ยังจัดกิจกรรมพิเศษได้แก่การสาธิตการปรุงอาหารไทยทุกวันๆ ละ 5 รอบ แจกให้ชิมวันละกว่า 200 ตัวอย่าง นอกจากนี้ยังมีศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ร่วมกับผู้จัดงานจัดสัมมนา “World of Halal Science, Industry and Business-ANUGA 2009” International Conference ในงานเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา

สินค้าไทยที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง มีผู้ซื้อเจรจาการค้าเป็นจำนวนมากที่สุดและได้ยอดสั่งซื้อจำนวนมากที่สุด ได้แก่ ประเภทอาหารกระป๋อง (ผัก/ผลไม้ และ ปลากระป๋อง) รองลงมาได้แก่สินค้าอาหารแช่แข็ง (อาหารทะเล อาหารสำเร็จรูป และผลไม้แช่แข็ง) ถึงแม้จะเข้าร่วมงานเพียง 7 ราย แต่ได้ยอดสั่งซื้อมากเช่นกัน นอกจากนี้บริษัททรัพย์-อนันต์ จำกัด ที่มีสินค้า Beauty Drink หรือเครื่องดื่มผสมสารเสริมความงาม เป็นบริษัทไทยเพียงรายเดียวที่ได้รับเลือกจากผู้จัดงานให้จัดแสดงสินค้านี้ในนิทรรศการ TASTE_09-The Innovation Competition at ANUGA ผู้ส่งออกไทยส่วนใหญ่พอใจใน ผลเจรจาการค้า มีมูลค่าสั่งซื้อสินค้าทันที 34,538,610 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,208,851,350 บาท) และการสั่งซื้อใน 1 ปี 239,803,200 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,393,112,000 บาท)

อย่างไรก็ตาม แม้สินค้าไทยยังคงราคาที่สูงกว่าคู่แข่ง เช่น จีน เวียดนาม และต้องเผชิญกับกฎระเบียบการนำเข้า และภาษีการนำเข้าสูง แต่ก็นับว่าประสบความสำเร็จในงาน ANUGA ซึ่งถือเ ป็นงานแสดงสินค้าที่ดีมากที่สุดงานหนึ่งสำหรับผู้ส่งออกอาหารไทยทำให้ได้พบผู้นำเข้าจากทุกภูมิภาคทั่วโลก และได้สังเกตการณ์คู่แข่งที่หลากหลาย เหมือนการย่อส่วนภาพอุตสาหกรรมของตลาดโลก ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ได้ผลสำหรับผู้ส่งออกไทยและเข้าร่วมงานติดต่อกันมาถึง 18 ปี งานนี้จัดขึ้นเพื่อการเจรจาธุรกิจการค้าเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก โดยจัดปีเว้นปีสลับกับงาน SIAL ของประเทศฝรั่งเศส ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 30 มีจุดขายหลัก คือการรวมเอางานแสดงสินค้า 10 งานรวมอยู่ในที่เดียวอาหาร เครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อการเจรจาธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก งานในปีนี้ มีผู้เข้าร่วมงาน 6,522 ราย จาก 97 ประเทศ โดยร้อยละ 84 เป็นผู้เข้าร่วมงานนอกประเทศเยอรมนี จำนวนผู้ชมงานประมาณ 153,500 ราย จาก 180 ประเทศ ซึ่งกว่าร้อยละ 60 มาจากนอกประเทศเยอรมนี สินค้าที่มีผู้ชมงานมาก ได้แก่ เครื่องดื่ม เนื้อสัตว์ และอาหารแช่แข็ง ในปีนี้ตุรกีได้รับเกียรติให้เป็น Partner Country ประเทศที่ 2 ต่อจากประเทศไทยที่ได้รับเกียรติเป็นประเทศแรกในปี 2006

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ