มวยไทยเป็นสินค้าวัฒนธรรมประเพณีไทย (Cultural Goods) ที่มีเอกลักษณ์และมีจุดแข็งที่จะเพิ่มมูลค่าของสินค้าผ่านความคิดสร้างสรรค์และนำไปสู่การส่งออกสินค้าและบริการไทยที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ ที่จะทำให้ชาวต่างประเทศได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมประเพณีของไทย ความเป็นไทย ศิลปะไทย อาหารไทย และภาษาไทย ส่งผลถึงความต้องการสินค้าไทยและเดินทางไปท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ของกรมส่งเสริมการส่งออก ที่มีนโยบายขับเคลื่อนโครงการ Creative Economy ใช้ความคิดสร้างสรรค์และทุนทางปัญญาไทย เชื่อมโยงกับมรดกวัฒนธรรมประเพณีไทย (อาหารไทย วิถีชีวิตไทย งานฝีมือและหัตถกรรม การแพทย์แผนไทย สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม) งานศิลปะการแสดง สื่อสมัยใหม่(ภาพยนตร์ สิ่งพิมพ์) และการสร้างสรรค์และออกแบบ (ออกแบบ แฟชั่น สถาปัตยกรรม โฆษณาซอฟต์แวร์) เพื่อสร้างความสนใจให้ต่างชาติหันมาสนใจสินค้าไทยมากขึ้นและนำไปสูการส่งออกสินค้าและบริการใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
จากข้อมูลที่ได้ศึกษาและจากการหารือกับค่ายมวยไทย Siam No.1 ซึ่งเจ้าของเป็นคนไทย และ ผู้ฝึกสอนมวยไทยประจำค่าย Toronto Kickboxing & Muay Thai Academy Inc. (เจ้าของค่ายเป็นชาวต่างประเทศ ชื่อ Warren Lee) ทั้ง 2 ค่ายมวยไทย ตั้งอยู่ในมณฑลออนตาริโอประเทศแคนาดา พบว่า
(1) ธุรกิจโรงเรียนสอนการชกมวยไทยในแคนาดา
มวยไทยได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ โดยเห็นว่าการชกมวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ครบเครื่องและเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง จึงมีการเปิดสอนโรงเรียนสอนการชกมวยไทยถึง 150 แห่งที่มณฑลออนตาริโอ อัลเบอร์ต้า ควีเบ็ค และบริติชโคลัมเบีย โดยอยู่ในมณฑลออนตาริโอประมาณ 65 แห่งและตั้งอยู่ในนครโตรอนโตประมาณ 22 แห่ง ได้แก่ Siam No. 1 Thai Boxing School ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เจ้าของเป็นคนไทยเพียงแห่งเดียวในแคนาดา , Toronto Kickboxing & Muay Thai Academy Inc., M.One Muay Thai , Kru Dar Muay Thai สำหรับโรงเรียนสอนมวยไทยที่ตั้งอยู่ในมณฑลอัลเบอร์ต้าที่เจ้าของเป็นชาวแคนาดาทั้งหมด ได้แก่ Mike Miles Muay Thai&Kickboxing Ltd., Dragon Muay Thai , Iron Tiger Muay Thai , Iron City Muay Thai
(2) อัตราค่าเรียนมวยไทย
โรงเรียน Siam No.1 Thai Boxing School ค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ประมาณ 90 เหรียญแคนาดาต่อเดือน ระยะเวลาการเรียน 6 เดือน แต่หากจะเรียนเป็นครูสอนมวยไทยจะใช้เวลา 4 ปีครึ่ง โดยจะต้องผ่านการสอบข้อเขียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยและกติกาการชกมวยไทย และสอบ ภาคปฏิบัติ รวมทั้งสมรรถนะของร่างกาย
(3) หน่วยงานการกำกับดูแล
- เดิมการชกมวยไทยอยู่ภายใต้การดูแลของ Ministry of Tourism and Recreation และตั้งแต่ปี 2549 ได้เปลี่ยนมาอยู่ภายใต้การดูแลของ Ministry of Health Promotion
- รัฐบาลแคนาดาอนุญาตให้ชกมวยไทยเป็นอาชีพได้เฉพาะที่มณฑลอัลเบอร์ต้าเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งการชกมวยไทยที่มณฑลอัลเบอร์ต้า ไม่ใช่มวยไทยแบบดั้งเดิม แต่เป็นมวยไทยที่มีการผสมผสานกับ kick boxing กับ Mix Martial Art (MMA) ที่เป็นการชกมวยไทยแบบ Multiply Muay Thai ที่ไม่มีการใช้ศอกและเข่า และมีกฎกติกาที่แตกต่างจากการชกมวยไทยในประเทศไทย
- สำหรับมณฑลออนตาริโอ ในปี 2003 Ministry of Tourism and Recreation ได้อนุญาตให้ชกมวยไทยแบบมวยสมัครเล่นได้ แต่ปัจจุบันรัฐบาลแคนาดา (Ministry of Health Promotion) ไม่อนุญาตให้มีการชกมวยไทยในมณฑลออนตาริโอ เนื่องจากเห็นว่า มวยไทยมีความรุนแรงและเป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งผู้จัดชกมวยไทยไม่ได้จัดทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองอันตรายแก่ผู้ขึ้นชก นอกจากนี้ ยังไม่ได้ปฏิบัติตามกฎการชกมวยสมัครเล่น โดยละเมิดกฎหมาย Criminal Code ข้อ 83 ที่กำหนดว่า การชกมวยไทยสมัครเล่นห้ามเรียกเก็บเงินค่าดู จ่ายค่าตัว หรือโฆษณา โดยเห็นว่าการชกมวยไทยเป็น Price Fight ที่นักมวยได้รับค่าตอบแทน ซึ่งขณะนี้กำลังมีการต่อสู้คดีในชั้นศาลว่าการชกมวยไทยเป็น Trophy fight ที่นักมวยได้รับเพียงของรางวัลเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถชกมวยไทยแบบสมัครเล่นได้ที่มณฑลออนตาริโอ
(4) ปัญหาอุปสรรค ของธุรกิจมวยไทยในแคนาดา
อย่างไรก็ดี ธุรกิจมวยไทยในแคนาดา นั้น ยังมีอุปสรรค อยู่บ้าง คือ รัฐบาลแคนาดาไม่อนุญาตให้มีการชกมวยไทยแบบอาชีพได้ทั่วแคนาดา ยกเว้นเฉพาะในมณฑลอัลเบอร์ต้า ซึ่งเจ้าของโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นคนแคนาดา ในขณะที่แคนาดาอนุญาตให้มีการชกมวยอาชีพแบบ Ultimate Fighting ซึ่งมีความรุนแรงและอันตรายมากกว่ามวยไทย โดยอนุญาตให้ชกได้ในมณฑลควีเบ็ค และอนุญาตให้มีการชกมวยไทยแบบ Mix Martial Art (MMA) ได้ที่มณฑลควีเบ็ค อัลเบอร์ต้า โนวาสโกเทีย นอกจากนี้สมาคม Kick Boxing ในแคนาดายังได้ประกาศแซงชั่นการชกมวยไทยที่เรียกว่า Thai Boxing อีกด้วย
อุปสรรค อีกประการหนึ่ง คือ เจ้าของโรงเรียนสอนมวยไทยในแคนาดาส่วนใหญ่เป็นชาวแคนาดาถึงร้อยละ 99 บางรายนำวิธีการชกแบบ kick boxing และ Ultimate Fighting มาผสมผสานกลายเป็น North America Kick Boxing หรือ Multiply Kick Boxing ทำให้มีการสอนชกมวยไทยอาจผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานศิลปะการชกมวยไทยดั้งเดิม (Traditional Muay Thai) อาทิ ไม่มีการรำไหว้ครู ไม่มีท่าแม่ไม้มวยไทย ไม่มีการขึ้นศอกและเข่า กฎกติกาที่ใช้ในการตัดสินและให้คะแนนการชกมวยไทยที่แตกต่างจากการชกมวยไทยในไทย ซึ่งอาจทำให้ชาวแคนาดาที่มาเรียนมวยไทยไม่เข้าใจและรับรู้ถึงศิลปะและวัฒนธรรมของไทยอย่างแท้จริง รวมทั้งไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างมวยไทยดั้งเดิมกับ Kick boxing และ Multiply Muay Thai ได้
Thai Trade Centre Toronto สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครโตรอนโต
ที่มา: http://www.depthai.go.th