ตั้งแต่ปลายปี 2551 ถึงต้นปี 2552 วิกฤติเศรษฐกิจโลกได้ทำลายรากฐานทางเศรษฐกิจของเมืองกวางโจว แต่ในปี 2552 ที่ผ่านมา เทศบาลเมืองกวางโจวได้ยึดหลักการ การส่งเสริม 3 ประการและการรักษา 1 ประการ ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของเมือง คือ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมการยกระดับอุตสาหกรรมดั้งเดิม ส่งเสริมโครงสร้างอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและรักษาการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพและรวดเร็ว ทำให้เมืองกวางโจวได้ขยายการลงทุนการบริโภค และการส่งออกดีขึ้นในปี 2552
จากข้อมูลสถิติของเมืองกวางโจว ในไตรมาสแรก ครึ่งปีแรก และ 3 ไตรมาสแรก GDP ของเมืองกวางโจวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 8.5 และ 10.5 ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน คุณภาพของการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ยกระดับดีขึ้น ซึ่งสามารถเห็นได้จากวิสาหกิจมีกำไรมากขึ้น เช่น ในเดือนมกราคมถึงสิงหาคม วิสาหกิจอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดใหญ่มีกำไรทั้งหมด 4.386 หมื่นล้านหยวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า เมืองกวางโจวได้ก้าวออกจากผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจโลก ดังจะเห็นได้จาก
เมื่อปลายปี 2551 เมืองกวางโจวได้ประกาศนโยบาย “การส่งเสริมอุตสาหกรรมบริการสมัยใหม่” และจัดทำ“แผนพัฒนาโครงสร้างอุตสาหกรรมทันสมัยระหว่างปี 2009-2015”เมื่อเดือนพฤษภาคม 2552 ในแผนได้กำหนดให้สร้าง “หนึ่งแถบ หกเขต” เป็นทิศทางสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจกวางโจวภายใต้สถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจโลกดังนี้
หนึ่งแถบ-สร้างแถบอุตสาหกรรมตะวันออก พัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรม Hi-tech
หกเขต-เขตอุตสาหกรรมท่าเรือหนานซา เขตเศรษฐกิจท่าอากาศยานภาคเหนือเขตเศรษฐกิจศูนย์กลาง เขตพัฒนาการศึกษาค้นคว้าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทางตะวันออกเฉียงไต้เขตพัฒนาอุตสาหกรรมบริการทันสมัยทางใต้ เขตท่องเที่ยวทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ในเดือนธันวาคม 2552 เมืองกวางโจวได้แถลงข่าวว่า จะวางแผนก่อสร้างศูนย์สร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมแห่งแรกของจีน เพื่อเป็น Platform การค้าทางด้านอุตสาหกรรมวัฒนธรรมให้วิสาหกิจที่เกี่ยวข้องสามารถเปิดสำนักงานในกวางโจวและบริการลูกค้าภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการเปลี่ยนทิศทาง “ผลิตที่กวางโจว”เป็น “บริการที่กวางโจว”
ในปี 2551 อุตสาหกรรมบริการมีมูลค่าเพิ่มเป็นสัดส่วนร้อยละ59.2 ของยอดมูลค่าอุตสาหกรรมทั้งหมดและในเดือนมกราคมถึงกันยายน 2552 การบริการการเงิน การค้า Hi-tech และข้อมูลข่าวสารเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มูลค่าเพิ่มสำหรับอุตสาหกรรมบริการมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 60 ของมูลค่าอุตสาหกรรมทั้งหมด บ่งชี้ให้เห็นว่าเมืองกวางโจวกำลังย่างเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจบริการ
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2552 การใช้ไฟฟ้าทางอุตสาหกรรมเริ่มมีการเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่บ่งชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตฟื้นฟูดีขึ้น ที่สำคัญคือ อุตสาหกรรมการผลิตไม่เพียงแต่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ยังปรับเปลี่ยนทิศทางในการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมสมัยใหม่จากข้อมูลสถิติกวางโจว ใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2552 เมืองกวางโจวมียอดมูลค่าการผลิตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และขนาดกลาง 8.94 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 และในจำนวนนี้ อุตสาหกรรมสมัยใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3
Double-Transfer คือ การถ่ายโอนอุตสาหกรรม (Industrial Transfer) และ การถ่ายโอนแรงงาน (Transfer of Labor Force) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง อุตสาหกรรมดั้งเดิมซึ่งเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจเมืองกวางโจวได้ดำเนินการถ่ายโอนตาม Double-Transfer เพื่อการอยู่รอดในสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจโลก และเริ่มได้ผลในปี2552 เช่น ศูนย์การค้าพลาสติกของเมืองกวางโจวได้โยกย้ายโรงงานออกไปจากตัวเมือง และปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์การค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย เน้นการบริการเป็นหลัก ในปี 2552 ยอดมูลค่าการลงนามสัญญาของศูนย์ฯ ได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าของปี 2551
โดยสรุป คาดว่า GDP ของเมืองกวางโจว ปี2552 จะเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 และอุตสาหกรรมบริการจะเป็นอุตสาหกรรมหลักของเมืองกวางโจวในอนาคต คาดการณ์ได้ว่ามูลค่าการเพิ่มของ GDP ปี 2552 ร้อยละ 72 เกิดจากอุตสาหกรรมบริการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์Guangzhou Daily ฉบับวันที่ 14 ธันวาคม 2552
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว
ที่มา: http://www.depthai.go.th