ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าในฮ่องกงยังสดใส

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 4, 2010 14:14 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ในแต่ละปี ฮ่องกง มีการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติกว่า 100 งาน สร้างรายได้ให้เศรษฐกิจฮ่องกงเป็นมูลค่ากว่า 26,400 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 113,000 ล้านบาท) แม้เมื่อสาธารณประชาชนจีนเปิดประเทศ มีการคาดการณ์ว่า ฮ่องกงจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันสำหรับธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้า เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่ และการไม่ได้เป็นแหล่งวัตถุดิบหรือผลิตสินค้า แต่จากข้อมูลปัจจุบัน ที่ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าของประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้จำนวนผู้เข้าร่วมงานที่จัดขึ้นลดลงอย่างมาก ทั้งผู้แสดงสินค้า (Exhibitor) และผู้เข้าชมงาน (Visitor) แต่ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าในฮ่องกง กลับได้รับผลกระทบไม่มาก และมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ

ข้อมูลจากสมาคมผู้จัดงานแสดงสินค้าและการประชุมฮ่องกง (HKECIA) แจ้งว่าในปี 2551 ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าในฮ่องกง ดีกว่าที่คาดโดยจำนวนของผู้เข้าชมงาน (visitor) ลดลงร้อยละ 9.4 เมื่อเทียบกับปี 2550 ในขณะที่ประเทศอื่นลดลงถึงร้อยละ 10 - 25 และประมาณการว่าทั้งปี 2552 จำนวนผู้เข้าชมงานอาจลดลงไม่มากหรือเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป HKTDC ซึ่งเป็นผู้จัดงานรายใหญ่ มีส่วนแบ่งตลาดการจัดงานแสดงสินค้าในฮ่องกง ร้อยละ 45 รายงานตัวเลขผู้เข้าชมงานแสดงสินค้าในฮ่องกงระหว่างมกราคม-พฤศจิกายน 2552 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 พบว่าจำนวนผู้แสดงสินค้า (Exhibitor) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 และผู้เข้าชมงาน (Visitor) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1

ปัจจัยที่ทำให้ ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในภูมิภาคเอเซีย และธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้ายังมีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง ได้แก่

1. นโยบายที่ชัดเจนของรัฐบาลฮ่องกง ที่ต้องการผลักดันให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการแสวงหาแหล่งวัตถุดิบและสินค้า ตลอดทั้งเป็นเมืองหลวงของการจัดงานแสดงสินค้าแห่งเอเชีย (Asia’s Trade Show Capital)

2. การมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง ที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ มืออาชีพ สะดวกและเพียงพอ อาทิ สนามบินนานาชาติ โรงแรม บริการการจัดงาน บริการด้านการเงิน การก่อสร้าง การขนส่ง ฯลฯ

3. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 15 ปี ฮ่องกงมีการขยายพื้นที่จัดแสดงจาก 27,231 ตรม.เป็น 140,900 ตรม.ในปี 2551 โดยเพิ่มขึ้นถึง 5.2 เท่า เฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 ต่อปี และในปี 2552 โครงการต่อขยายเฟสสองของ Hong Kong Convention and Exhibition Center (HKCEC)ได้แล้วเสร็จ ทำให้ฮ่องกงมีพื้นที่จัดงานรองรับได้ทั้งสิ้นถึง 160,663 ตรม. ฮ่องกงมีสถานที่จัดงานแสดงสินค้าใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ HKCEC ซึ่งรัฐบาลเป็นเจ้าของและ Asia World Expo (AWE) ที่เป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐฯกับเอกชน โดยเอกชนลงทุนที่ดินใกล้สนามบิน ในขณะที่รัฐบาลฮ่องกงลงทุนในค่าก่อสร้าง

ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้จัดงาน (Fair Organizer) ได้เพิ่มขึ้นจาก 11 รายในปี 2547 เป็น 30 ราย ในปี 2552 โดยมี Hong Kong Trade Development Council (HKTDC) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐเป็นผู้จัดงานรายใหญ่ มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 45 ในขณะที่ Global Sources ตามมาเป็นที่สอง ส่วนแบ่งร้อยละ 16

4. การกำหนดระยะเวลาการจัดงาน มีการพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการเดินทางของผู้ซื้อ และฤดูกาลซื้อขาย เช่น งานแสดงสินค้า Mega Show ในฮ่องกง ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคที่จัดในเวลาไล่เลี่ยกับงานแสดงสินค้า Canton Fair เป็นงานที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จในมุมมองของผู้ซื้อ และผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศ เพราะสามารถเข้าชมงานสินค้าที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมดในการเดินทางครั้งเดียว และอยู่ในช่วงกลางของฤดูกาลสั่งซื้อสินค้า

5. การสนับสนุนของภาครัฐ ในการผลักดันให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อหาตลาดใหม่ๆ เป็นหนึ่งใน Packages สำคัญของรัฐบาลในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจฮ่องกง รวมทั้งการ สปอนเซอร์ผู้ซื้อจากต่างประเทศให้เข้างานแสดงสินค้าทำให้ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าในฮ่องกงไม่ซบลงมาก

6. การบริหารจัดการการใช้พื้นที่จัดงานแสดงสินค้าที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ มีการนำแนวคิด “หนึ่งงานแสดงสินค้า สองสถานที่จัด” ในกรณีของงานแสดงสินค้าที่เป็นที่นิยมและพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งไม่สามารถรองรับได้หมด เพื่อเป็นการรองรับส่วนเกินให้ได้หมด มิให้ผู้จัดงานหันไปจัดใน จีน โดยเฉพาะที่กวางโจว แทน นอกจากนั้นก็มีการควบคุมการลงทุนขยายพื้นที่จัดงานมิให้เกินความต้องการเกินไป โดยมีการวิเคราะห์ว่า การลงทุนจะคุ้มค่าเมื่ออัตราการใช้พื้นที่ของศูนย์จัดแสดงสินค้าที่มีอยู่ต่อปีมีเกิน ร้อยละ 70

7. การประเมินความสามารถของประเทศคู่แข่งขันอย่างต่อเนื่อง

7.1 จีนแผ่นดินใหญ่ บ้างก็ว่าจีนเป็นคู่แข่ง แต่เสียงส่วนใหญ่ในขณะนี้มองว่าจีนไม่ใช่คู่แข่งฮ่องกง แม้ว่าจะมีการจัดงานแสดงสินค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในจีน (เหมือนในโตเกียว) แต่ผู้จัดแสดงสินค้า (exhibitors) ส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่น และเน้นตลาดในประเทศจีนเป็นหลักในขณะที่งานแสดงสินค้าในฮ่องกง จะเน้น เรื่องการส่งออกและผู้ซื้อจากทั่วโลก

7.2 สิงคโปร์ เคยดูเหมือนเป็นคู่แข่งในธุรกิจนี้ แต่เป้าหมายสิงคโปร์ คือเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าของประเทศในอาเซียน ซึ่งขณะนี้ประเทศต่างๆ ในอาเซียนได้มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน และต้องการที่จะจัดงานเอง

7.3 มาเก๊า แม้มีการสร้างอาคารขนาดใหญ่ จนเป็นที่เกรงว่าจะเป็นคู่แข่งกับฮ่องกงแต่ปัญหาจำนวน exhibitors และ buyers ท้องถิ่น ที่มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่สามารถก้าวขึ้นมาแข่งขันได้ แต่มาเก๊าก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจ การจัดประชุมและสัมมนา

8. การมองหาโอกาสและความท้าทายของธุรกิจอื่นประกอบไปด้วย เช่น ฮ่องกงมองว่าธุรกิจ Incentive การประชุม การจัดสัมมนา ยังมีโอกาสเติบโต และเปิดโอกาสให้นักธุรกิจรายใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้รายเก่าๆ ต้องพัฒนาบริการให้ดีขึ้น

สคร.ฮ่องกง

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก ฮ่องกง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ