แผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจีน ปี 2552-2553

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 4, 2010 14:18 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ปี 2552 ที่กำลังจะผ่านไปสำหรับประเทศจีนแล้ว ถือว่าเป็นปีที่สำคัญมากเนื่องจากในปีนี้เศรษฐกิจโลกได้ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและมีการปั่นป่วนที่คาดคิดไม่ถึง แต่เศรษฐกิจของจีนได้เติบโตประมาณ 8-8.2% ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศอื่นๆต่างมีการถดถอยลงเป็นอย่างมาก

การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจีนระหว่างปี 2551-2552 นั้น สามารถใช้ตัวอักษร “V” มาเปรียบเทียบได้ คือ ในไตรมาสที่ 2-4 ของ ปี 2551 GDP ของจีนเพิ่มขึ้น 10.2% 9% และ 6.8% ตามลำดับ และในไตรมาสที่ 1-3 ของ ปี 2552 GDP ของจีนเพิ่มขึ้น 6.1% 7.1% และ 7.7% ตามลำดับ จากแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนดังกล่าว สามารถมองออกได้ว่า เศรษฐกิจของจีนก็มีการถดถอยมาช่วงหนึ่ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกเหมือนประเทศอื่นอย่างหนีไม่พ้น ทั้งนี้ การส่งออกของจีนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2551- เดือนกุมภาพันธ์ 2552 มูลค่าการส่งออกของจีนได้ลดลงจาก 136,435 ล้านเหรียญสหรัฐ มาเป็น 64,895 ล้านเหรียญสหรัฐ ธุรกิจที่เน้นการส่งออกได้ปิดกิจการจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การส่งออกของจีนเริ่มมีสัญญาณของการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ โดยในเดือนกันยายน 2552 การส่งออกมีมูลค่า 115,938 ล้านเหรียญสหรัฐ เริ่มขยับใกล้เคียงกับมูลค่าส่งออกในช่วงก่อนเกิดวิกฤติ ทั้งนี้ ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (Stimulus Package) มูลค่า 4 ล้านล้านหยวน รวมถึงมาตรการอัดฉีดสินเชื่อมูลค่ามหาศาลเข้าสู่ระบบ ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

นโยบายการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของจีนในช่วงปี 2551-2552 สรุปได้ ดังนี้

1) ในเดือนพฤศจิกายนปี 2551 รัฐบาลได้ประกาศจะใช้วงเงินราว 4 ล้านล้านหยวน (5.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) คิดเป็นประมาณ 13.3% ของ GDP ปี 2551 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยวงเงินนี้จะทยอยใช้ภายในระยะเวลา 2 ปี และจนถึงปัจจุบันรัฐบาลจีนประกาศรายละเอียดของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมารวม 2 แผน โดยมีมูลค่ารวม 2.3 แสนล้านหยวน (3.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งงบดังกล่าวส่วนใหญ่ใช้เพื่อพัฒนาโครงการดังนี้

  • โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ โดยเพิ่มปริมาณบ้านราคาประหยัด
  • โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชนบท เช่น ก๊าซ น้ำประปา ไฟฟ้า ชนลประทานและถนน เป็นต้น
  • โครงการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ และสนามบิน
  • โครงการพัฒนาระบบการศึกษาและสุขอนามัย เพิ่มโรงเรียนและโรงพยาบาล
  • โครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งการใช้พลังงานใหม่
  • โครงการพัฒนาด้านนวัตกรรม การสร้างสรรค์ทางเทคโนโลยีใหม่ๆ

2) กระตุ้นภาคการผลิตในประเทศในวงเงิน 8.5 แสนล้านหยวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรม รวม 11 กลุ่ม คือ

  • อุตสาหกรรมยานยนต์
  • อุตสาหกรรมเหล็ก
  • อุตสาหกรรมสิ่งทอ
  • อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • อุตสาหกรรมสารสนเทศทางอิเล็กทรอนิค
  • อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
  • อุตสาหกรรมเครื่องจักร
  • อุตสาหกรรมการต่อเรือ
  • อุตสาหกรรม Non-ferrous metals
  • อุตสาหกรรม Logistics
  • อุตสาหกรรมด้านวัฒนธรรม

3) เพื่อให้ทุกภูมิภาคของจีนได้รับการพัฒนาอย่างเสมอภาค รัฐบาลจีนได้วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ทั้งหมด 9 โครงการ ดังนี้

1. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจช่อแคบฝั่งตะวันตก (มณฑลฝูเจี้ยน)

2. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจแถบริมฝั่งทะเลเจียงซู (มณพลเจียงซู)

3. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจเกาะเหิงฉิน เมืองจูไห่ (มณฑลกวางตุ้ง)

4. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ กวนจง-เทียนสุ่ย (มณฑลส่านซีและมณฑลกานซู่)

5. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจแถบริมฝั่งทะเลเหลียวหนิง(มณฑลเหลียวหนิง)

6. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคกลาง (มณฑลซานซี มณฑลอานฮุย มณฑลเจียงซี มณฑลเหอหนาน มณฑลหูเป่ย และมณฑลหูหนาน)

7. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจแถบแม่น้ำถูเหมินเจียง(มณฑลจี๋หลิน)

8. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมแม่น้ำหวงเหอ (มณฑลซานตุง)

9. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทะเลสาบโฝ่หยาง(มณฑลเจียงซี)

ภายใต้นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน ศูนย์ข้อมูลแห่งชาติของจีน (SIC) คาดการณ์ว่า ในปี2553 GDP ของจีนจะขยายตัวได้ประมาณ 8.5% และเศรษฐกิจจีนจะยังคงฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งแม้ว่ากำลังการผลิตภายในประเทศจะยังมีมากเกินความต้องการ แต่จะช่วยให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนไม่ต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ที่คาดว่าในปีหน้าจะขยายตัวขึ้นราว 2.5%

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ