เกาหลีแก้ปัญหาความเลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มค่าเงินวอน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 6, 2010 16:25 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ธนาคารกลางของเกาหลีเหนือได้ประกาศปรับเพิ่มค่าเงินวอนโดยให้มีผลนับแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2552 และเปิดให้ประชาชนแลกเงินวอนเดิมเป็นเงินวอนใหม่ระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2552 ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศ และลดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน เพราะหลังจากการออกมาตรการปฏิรูปการจัดการเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2545 เป็นต้นมา ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและอัตราเงินเฟ้อในประเทศเกาหลีเหนือ รวมทั้งการขาดดุลการค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกและความสับสนภายในประเทศ ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ต่างออกมาซื้อหาสินค้าเพื่อไว้สำรองใช้ตามท้องถนนเห็นประชาชนเดินร้องไห้และหมดอาลัยกับชีวิต บางรายถึงขนาดประท้วงการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของรัฐบาลด้วยการฆ่าตัวตาย เพราะมีข่าวลือต่าง ๆ นานา อาทิ การจำกัดวงเงินเพียงครอบครัวละ 100,000 วอนที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสกุลใหม่ได้ จน เกรงว่าจะเกิดความขาดแคลนสินค้าและเหตุการณ์รุนแรงตามมา และข่าวรั่วเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวสู่สาธารณชนในช่วงเช้าของวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าผู้คนบางส่วนที่ทราบข่าวกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว แต่คนส่วนใหญ่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์การดำรงชีวิตที่ยากลำบากมากขึ้น จนรัฐบาลต้องออกแถลงการณ์ถึง 3 ครั้งเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันในหมู่ประชาชน และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทั้งหมดเตรียมความพร้อมและประกาศห้ามออกจากบ้านเรือนหลังเวลา 22.00 น. เพื่อดูแลรักษาความสงบ

ทั้งนี้ ในส่วนของประเด็นผลกระทบของการปรับค่าเงินวอนต่อการค้าและการลงทุนของจีนและไทยนั้น คาดว่าจะมีผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากการค้าและการลงทุนของเกาหลีเหนือกับต่างประเทศมีค่อนข้างจำกัด และมิได้ส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกาหลีเหนืออย่างแท้จริง

อนึ่ง ในปี 2551 การค้าระหว่างจีนและเกาหลีเหนือมีมูลค่าเพียงประมาณ 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ทั้งที่จีนเป็นคู้ค้าหลักของเกาหลีเหนือ) โดยจีนส่งออกไปยังเกาหลีเหนือในมูลค่ากว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้ากึ่งสำเร็จรูปและสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันขณะที่จีนนำเข้าสินค้าจากเกาหลีเหนือในมูลค่าประมาณ 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่วนใหญ่ได้แก่ อาหารทะเล แร่ธรรมชาติ และวัตถุดิบในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การค้าบางส่วนยังเป็นการค้าชายแดนระหว่างกันที่เปิดด่านเพียงสัปดาห์ละ 2-3 วัน และบางส่วนเป็นการค้าระหว่างรัฐบาลซึ่งใช้ระบบบาร์เตอร์ (Barter Trade) และการเปิดบัญชี (Open Account) ควบคู่กันไป

ประการสำคัญ ก็คือ มาตรการดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนชาวเกาหลีขาดความเชื่อมั่นในเงินวอนของตน และหันไปใช้เงินเหรียญสหรัฐฯ และเงินหยวนเพื่อการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินวอนในตลาดมืดลดค่าลงอย่างรวดเร็วในอนาคต

โดยสรุป ผมเห็นว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าวของรัฐบาลเกาหลีเหนือมุ่งหวังผลเพื่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ และมิได้ส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกาหลีเหนืออย่างแท้จริง กอรปกับเกาหลีเหนือยังดำเนินนโยบายพัฒนาประเทศโดยใช้ “การเมืองนำเศรษฐกิจ” และการค้าและการลงทุนของเกาหลีเหนือกับต่างประเทศมีมูลค่าค่อนข้างจำกัด จึงคาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างแต่อย่างใด

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ