บทบาทของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ในปี 2553 ต่อปัญหาอสังหาริมทรัพย์

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 11, 2010 16:31 —กรมส่งเสริมการส่งออก

เป็นที่รู้กันว่าปัญหาอสังหาริมทรัพย์ (Sub Prime) ซึ่งลุกลามไปถึงการล้มของวาณิชธนกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆในอเมริกาหลายแห่ง คือต้นเหตุสาคัญอันหนึ่งของวิกฤติเศรษฐกิจอเมริกาในปีที่ผ่านมา และถึงแม้รัฐบาลจะได้เข้าแทรกแซงเพื่อช่วยเหลือเรื่องนี้อย่างมาก แต่เจ้าหน้าที่ด้านนโยบายของธนาคารกลาง Federal Reserveบางส่วนคิดว่า ในปี 2553 รัฐบาลยังคงต้องทาอไรมากกว่านี้

จากรายงานการประชุมของ Federal Open Market Committee กลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเข้มแข็งจริงหรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาการว่างงานที่ยังสูง และการเริ่มกระเตื้องขึ้นของภาคอสังหาริมทรัพย์อาจจะชะงักไปอีกเนื่องจากโครงการของรัฐบาลในการให้ Tax Credit แก่คนซื้อบ้าน และโครงการตรึงอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยกาลังจะจบลง

ข้อมูลที่ออกมา อัตราดอกเบี้ยระยะยาวกาลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่จานวนผู้กู้เงินซื้อบ้านลดลงจนถึงระดับต่าสุดในรอบ 12 ปี และเริ่มส่อสัญญาณที่น่ากลัวต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน 2-3สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้นักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลายจะบอกว่าการตกครั้งนี้จะไม่รุนแรงเท่าไรก็ตาม

สมาชิกของ Federal Open Market Committee บางคนเชื่อว่า ควรจะต้องมีนโยบายกระตุ้นมากกว่านี้ ในขณะที่สมาชิกบางคนมองว่าไม่มีความจาเป็นเพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว ซึ่งความเห็นที่ขัดแย้งของสมาชิกทาให้คาดกันว่า น่าจะเป็นสัญญาณว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายอะไรบางอย่างงง

ธนาคารกลาง ได้เข้าช่วยซื้อสินทรัพย์ที่มีอสังหาริมทรัพย์ค้าประกันไปถึง 1.25 ล้านล้านเหรียญเพื่อช่วยผ่อนคลายตลาดและรักษาอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่า โครงการนี้กาหนดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคม 2553 ในปีที่ผ่านมาถือว่าโครงการนี้ประสบความสาเร็จมาก เพราะสามารถผลักดันให้อัตราสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่ากว่า 5%ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนับแต่ช่วงต้นปี 1950 หากโครงการนี้สิ้นสุดลง จะทาให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น 0.50-1.00% มีผลให้ต้นทุนซื้อบ้านสูงขึ้น และหมายถึงจานวนคนซื้อบ้านจะลดลงด้วย

มาตรการเร่งด่วนฉุกเฉินทั้งหลายที่กล่าวมาของรัฐบาลกาลังจะลดหรือสิ้นสุดลง เนื่องจากตัวเลขที่แสดงว่าสหรัฐฯกาลังออกจากสภาพเศรษฐกิจถดถอยแล้ว แม้แต่โครงการ Tax Credit สำหรับคนซื้อบ้านซึ่งสภาคองเกรสได้ต่ออายุมาครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เมษายน2553

Federal Open Market Committee เป็นหน่วยงานสาคัญในการกาหนดนโยบายของธนาคารกลาง

Mr. James Bullard ประธาน Federal Reserve Bank of St. Louis และเป็นสมาชิกของ Federal Open Market Committee ได้เคยให้ความเห็นไว้ว่า โครงการซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลาง ควรจะทาต่อไปแต่ในระดับที่ต่ามากๆ และคอยจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ความคิดนี้ได้รับการขานรับจากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในทันที โดย Mr. Lawrence Yum แห่งสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (National Association of Realtors)บอกว่า น่าจะเลื่อนโครงการกระตุ้นนี้ออกไปจนถึงพฤษภาคม

สมาคมธนาคารเพื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage Bankers Association) เปิดเผยอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นใน 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมจาก 4.92% เป็น 5.18% และจานวนผู้ยื่นขอกู้ลดลง แต่จานวนผู้ยื่นขอกู้อาจไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดีสาหรับการดูสถานการณ์ตลาดบ้านที่อยู่อาศัย กล่าวคือ ถ้าคนซื้อบ้านเพื่อเก็งกาไรโดยใช้เงินสด ก็จะไม่ปรากฎในตัวเลขนี้ ทั้งนี้ผู้ยื่นขอกู้มีจานวนต่ากว่าปลายปี 2551 มากกว่า 25%

จากรายงานการประชุม Fed ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้เคียงศูนย์ และสมาชิกส่วนใหญ่เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

จากรายงานการประชุม Fed ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้เคียงศูนย์ และสมาชิกส่วนใหญ่เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ว่าถึงคราวปฏิบัติจริง ความเชี่ยวชาญด้านงานวิจัยของ Bernanke จะช่วยให้สหรัฐฯพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างไร และที่สาคัญที่สุดคือ เมื่อใด

สมจินต์ เปล่งขา

สานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ