การประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การค้า นโยบายและการแก้ไขปัญหาของประเทศที่ดูแล

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 12, 2010 11:03 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจการค้า
  • ปี 2009 GDP ขยายตัว 1.2%
  • ปี 2009 FDI มีมูลค่ารวม EUR 4,107.42 mln จาก 131 โครงการ เพิ่มงาน 38,827 อัตรา โครงการจากสหรัฐฯ 28 โครงการ สหราชอาณาจักร 18 โครงการ ฝรั่งเศส 10 โครงการ จีน 8 โครงการ ที่เหลือเป็นชาติอื่นๆ เช่น สเปน อิตาลี ไต้หวัน เกาหลี ต่างชาติยังคงมั่นใจในโปแลนด์
  • โปแลนด์เป็นประเทศเดียวในกลุ่มยุโรปที่ GDP ขยายตัวในปีที่ผ่านมา และเป็นประเทศในยุโรปที่ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจน้อยที่สุด และมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจสูงสุด
  • ในปี 2009 การนำเข้าส่งออกชะลอตัว เนื่องจากโปแลนด์เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปสหภาพยุโรป ช่วงที่เศรษฐกิจในยุโรปประสบปัญหา การผลิตสินค้าจากโปแลนด์ลดลง โปแลนด์ก็นำเข้าสินค้าน้อยลงไปด้วย
  • ภาคอสังหาริมทรัพย์ ชะลอตัว เนื่องจากรัฐควบคุมการปล่อยสินเชื่อ และนักลงทุนรอดูสถานการณ์
  • การบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้นและป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

โปแลนด์ไม่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ รัฐจึงไม่มีนโยบายแก้ไขปัญหา แต่วางนโยบายป้องกัน เช่น การปล่อยสินเชื่อรัดกุมยิ่งขึ้น ควบคุมการใช้จ่ายของภาครัฐ การ privatization กิจการของรัฐ

โปแลนด์เป็นประเทศที่ conservative ในด้านเศรษฐกิจ การค้า และสังคม ประชาชนนิยมเศรษฐกิจพอเพียง ประหยัด ไม่นิยมการกู้เงินเมื่อเทียบกับประเทศอื่น รัฐบาลเห็นว่าวิถีเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ทำให้โปแลนด์รอดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจและยังมีความมั่นคงกว่าประเทศอื่น

สถานการณ์การนำเข้าสินค้า/บริการไทย

ด้วยความระมัดระวังการใช้จ่ายของชาวโปแลนด์ และความ conservative ของนักธุรกิจ อีกทั้งการชะลอการสั่งซื้อจากสหภาพยุโรป จึงทำให้การนำเข้าลดลง ในปี 2009

จากการหารือกับผู้นำเข้า เห็นว่า การสั่งซื้อสินค้าจากไทยจะเพิ่มมากขึ้นในปี 2010

อนึ่ง เวียดนามและจีนยึดตลาดสินค้าราคาต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อผ้า สินค้าไทยจะต้องจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป

ผลิตภัณฑ์เสริมความงามของไทยได้รับความนิยมในโปแลนด์ ตราสินค้าไทยที่ขยายกิจการเข้ามาในโปแลนด์ ได้แก่ Hann&Thann และ Sukita

สินค้าอาหารและอาหารไทยได้รับความนิยมสูงในโปแลนด์ อาหารไทยจัดเป็นอาหารหรูหราระดับสูง ผู้ที่ต้องการอวดฐานะและความทันสมัย จะรับประทานอาหารไทยในร้านอาหารไทย หรือซื้อเครื่องปรุงไปทำเอง

ด้านบริการ ร้านอาหารและ สปาไทย มีแนวโน้มดีมาก

ประเมินเศรษฐกิจปี 2553
  • คาดว่าปี 2010 เศรษฐกิจจะขยายตัว โดย GDP จะเพิ่ม 1.9 — 3.0 % อัตราเงินเฟ้อ 1.8 — 2.8 % อัตราค่าจ้างเพิ่ม 3 % คนว่างงาน 12.9 %
  • การนำเข้าเพิ่ม 10 % และส่งออกขยายตัว 8 %
  • การบริโภคในประเทศ ขยายตัว 3.8 และผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4.5 %
  • ปี 2010 รัฐจะลงทุนเพิ่มในด้านสาธารณูปโภค โดยเฉพาะขนส่งมวลชนและถนน (อาทิ 1.5 bn PLN ในการบูรณระบบรถไฟ และ30 bn PLN ก่อสร้างถนน — PLN @ 12 บาท) เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลยูโรในปี 2012
  • ภาคเอกชนขยายกิจการรับ ฟุตบอลยูโรในปี 2012 เช่นกัน โรงแรมฮิลตัน เปิดสาขาใหม่เพิ่ม 8 แห่ง Lewiatan ซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น จะเปิดสาขาเพิ่ม 300 แห่งในจากเดิมที่มีอยู่ 2600 แห่ง เป็นต้น
  • เศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น โครงการก่อสร้างที่ได้ชะลอตัวในปี 2009 กลับมากฟื้นตัว ความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวต่อไป
โอกาสของสินค้าไทย 3 กลุ่มหลัก
  • สินค้าอุตสาหกรรมนำเข้ามาผลิตเพื่อการส่งออก ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เลนส์ กลุ่มนี้ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป
  • สินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ สัปรดกระป๋อง ทูน่ากระป๋อง ผักผลไม้กกระป๋อง อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องปรุงรส ข้าว เครื่องประดับตกแต่งบ้านสไตล์เอเชีย และโมเดิร์น ของใช้ในบ้าน เครื่องประดับเงิน เพชรพลอยเม็ดเล็ก เสื้อผ้าเด็ก วัสดุที่ผลิตจากยางพารา เช่น พื้นรองเท้า ถุงมือ ยางรัดของ
  • กลุ่มบริการ ได้แก่ ร้านอาหาร และสปา

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงวอร์ซอ

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ