Coca Cola (Japan) Co., Ltd. จะเป็นบริษัทแรกในประเทศญี่ปุ่นที่นำ “Plant Bottle” ขวดพลาสติก PET (จากนี้ย่อเป็น ขวด PET) รุ่นใหม่ซึ่งทำจากพืชมาใช้ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม 3 ชนิด คือ “Sokenbicha”, “Sokenbicha Kurosae” และ “I LOHAS” ตามลำดับ ด้วยการนำวัตถุดิบที่ทำจากพืชมาใช้ในการผลิตขวดพลาสติก PET ส่วนหนึ่ง ทำให้สามารถลดการพึ่งพาน้ำมันดิบซึ่งเป็นทรัพยากรที่ไม่สามารถสร้างทดแทนได้ ทั้งยังสามารถทำการรีไซเคิลได้ 100% ในโรงงานรีไซเคิลขวดพลาสติก PET เช่นเดียวกับขวดที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
ขวด PET รุ่นใหม่นี้ จะถูกนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2010 กับ “Sokenbicha” ซึ่งมีส่วนแบ่งร้อยละ 60 ในตลาด Blend Tea ขนาด 500 และ 350 มิลลิลิตร และ “Sokenbicha Kurosae” ขนาด 500 มิลลิลิตร ตามมาด้วยน้ำแร่ “I LOHAS” ขนาด 520 และ 280 มิลลิลิตร ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2010
จากการคำนวณของบริษัทดังกล่าว ทำให้คาดการณ์ได้ว่า การนำขวด PET รุ่นใหม่นี้มาใช้กับผลิตภัณฑ์ทั้งสาม จะสามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันดิบได้ 2,045 กิโลลิตรต่อปี และยังคาดหวังได้อีกว่า จะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างขบวนการผลิตขวด PET ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังจะติดตามผลลัพธ์ต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาในการใช้ขวด PET รุ่นใหม่นี้ กับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ต่อไป
ขวด PET ที่ใช้กันอยู่นั้น ทำจากน้ำมันดิบ 100% แต่ “Plant Bottle” นี้ เป็นการเปลี่ยนส่วนประกอบของกากน้ำตาลที่ได้มาจากการผลิตน้ำตาลจากอ้อยให้เป็นพลาสติก โดยนำมาใช้ประมาณร้อยละ 5-30 ของวัตถุดิบทั้งหมด นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับขวดที่ใช้กันอยู่ ขวด PET รุ่นใหม่นี้ ยังไม่มีความแตกต่างด้านรูปทรง น้ำหนัก ความแข็งแรงอีกด้วย
บนผลิตภัณฑ์ทั้งสาม จะมีการแสดงเครื่องหมายแสดงว่าใช้วัตถุดิบที่ทำจากพืช เพื่อเน้นให้เห็นว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่เอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม และมีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มอื่นๆ ซึ่งจะนำไปสู่การยกภาพลักษณ์และเพิ่มยอดขายของบริษัท
บริษัทนี้ ได้ทุ่มเทให้กับการลดน้ำหนักขวด PET โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ได้นำขวด PET ขนาด 2 ลิตร น้ำหนัก 38 กรัม ซึ่งมีน้ำหนักน้อยที่สุดของญี่ปุ่น มาใช้กับผลิตภัณฑ์น้ำแร่ หลังจากนั้น ได้พัฒนาขวดขนาด 520 มิลลิลิตร น้ำหนัก 12 กรัม ซึ่งมีน้ำหนักน้อยที่สุดของญี่ปุ่นอีกเช่นกัน และนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ “I LOHAS” ในเดือนพฤษภาคม 2009 จากการใส่ใจในสิ่งแวดล้อมเช่นนี้เอง ทำให้เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทั้งยังส่งผลต่อยอดขายของบริษัทอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “I LOHAS” ที่สามารถจำหน่ายได้ถึง 200,000,000 ขวด ภายในเวลา 183 วัน
Coca Cola (Japan) Co., Ltd. จะยังคงทำการปฏิรูปบรรจุภัณฑ์ต่อไป โดยตั้งเป้าว่าในอนาคตจะผลิตขวดที่ใช้มวลชีวภาพทำจากพืชที่ไม่ได้เป็นอาหารทั้ง 100% และสามารถทำการรีไซเคิลได้ เนื่องจากเป็นความพยายามของผู้ผลิตเครื่องดื่มให้ความสดชื่นรายใหญ่ของโลก จึงอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ไปใช้วัตถุดิบทำจากพืชแทนน้ำมันดิบอย่างรวดเร็วก็เป็นได้
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครโอซากา
ที่มา: http://www.depthai.go.th