ตารางแสดงมูลค่าการค้าไทย-สเปน ปี 2552
ธ.ค. 2552 ม.ค.-ธ.ค. 2552 มูลค่า (Mil.US$) เพิ่ม/ลด (%) มูลค่า (Mil.US$) เพิ่ม/ลด (%) จากเดือนก่อน ช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งออก 85.16 +6.39 795.01 -40.80 นำเข้า 38.39 -0.88 394.41 -25.94 การค้ารวม 123.55 +4.02 1,189.42 -36.58 ดุลการค้า +46.77 +13.16 400.60 -50.57
ที่มา: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
ในเดือนธันวาคม 2552 ไทยกับสเปนมีมูลค่าการค้ารวม 123.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยเป็นฝ่ายส่งออกไปสเปน 85.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.39 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยมีหลายหมวดสินค้าหลักที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน อาทิเช่น เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ (+95.85%) ยางพารา(+30.88%) เคมีภัณฑ์(+208.31%) เครื่องรับวิทยุ/โทรทัศน์และส่วนประกอบ (+19.07%) และผลิตภัณฑ์ยาง(+40.98%) ขณะที่นำเข้าจากสเปนรวม 38.39 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯลดลงร้อยละ -0.88 ทั้งนี้ ไทยได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นอีก 46.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ปี 2552 ไทย-สเปน มียอดการค้ารวม 1,189.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 36.58 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยไทยมียอดส่งออกมาสเปนรวม 795.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -40.80 ขณะที่นำเข้าจากสเปน 394.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -25.94 ทำให้ไทยได้ดุลการค้าจากสเปนทั้งสิ้น จำนวน 400.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -50.57
ตารางแสดงโครงสร้างการส่งออกของไทยไปยังสเปน ปี 2552
หมวดสินค้า มูลค่า(Mil.US$) เพิ่ม/ลด(%)จากปีก่อน สัดส่วน (%) สินค้าเกษตรกรรม(กสิกรรม/ปศุสัตว์/ประมง) 141.1 -48.45 17.75 สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 67.0 -36.20 8.43 สินค้าอุตสาหกรรม 586.7 -39.16 73.80 สินค้าแร่และเชื้อเพลิง 0.2 n/a 0.03 รวม 795.0 -40.80 100.0
ที่มา: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
จากโครงสร้างการส่งออกของไทยไปยังสเปน หมวดสินค้าอุตสาหกรรมยังครองส่วนแบ่งเป็นสินค้าส่งออกประมาณสามในสี่ อันประกอบด้วยสินค้าหลักๆได้แก่ เสื้อผ้าสำ เร็จรูป เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ยาง และเลนส์ รองลงมาได้แก่หมวดสินค้าเกษตรกรรมมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 18 ซึ่งปรับตัวลดลงเกือบครึ่ง โดยเฉพาะมันสำปะหลังที่มียอดส่งออกลดลงมาก ขณะที่การส่งออก กุ้งสดแช่แข็งและข้าว ยังคงมีอัตราการขยายตัวที่ดี และในหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรมีสัดส่วนการส่งออกไม่มากนักและปรับตัวลดลงร้อยละ 36
ตารางแสดงมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยมายังสเปน 10 อันดับแรก ปี 2552
ที่ สินค้า มูลค่า (Mil.USD) สัดส่วน(%) เปลี่ยนแปลง(%) 1 เสื้อผ้าสำเร็จรูป 146.3 18.40 +6.74 2 เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 80.2 10.80 -55.72 3 ยางพารา 50.5 6.35 -53.29 4 เคมีภัณฑ์ 40.9 5.15 -31.37 5 กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง 36.7 4.62 +16.30 6 ผลิตภัณฑ์ยาง 30.1 3.79 -23.04 7 เลนส์ 29.2 3.67 +33.42 8 ข้าว 26.5 3.33 +15.24 9 อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 25.4 3.19 -44.28 10 ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 24.3 3.06 -32.60 ที่มา: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลกอย่างต่อเนื่องมาจากช่วงปลายปี 2551 ต่อเนื่องมาตลอดปี 2552 ทำให้มูลค่าการส่งออกรวมของไทยมายังสเปนมีมูลค่าลดลงถึงร้อยละ 40 จากปีที่ผ่านมาถึงแม้ว่าสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป เลนส์ และหมวดอาหารบางรายการ ได้แก่ กุ้งสดแช่เย็น/แช่แข็งและข้าวมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่สินค้าส่งออกหลักของไทยในตลาดนี้ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ รถยนต์ และส่วนประกอบ ยางพารา และมันสำปะหลัง ล้วนประสบปัญหาจากความต้องการของตลาดที่ลดลงอย่างรุนแรงในอัตรากว่าร้อยละ 50 ทั้งสิ้น ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี มีสัญญาณว่าภาวะเศรษฐกิจได้ก้าวพ้นช่วงต่ำสุดและเริ่มปรับตัวดีขึ้นบ้างเล้ว แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าการส่งออกของไทยยังคง ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องไปถึงกลางปี 2553
ในช่วงเดียวกันไทยนำเข้าสินค้าจากสเปน เป็นมูลค่า 394.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ -25.94 โดยมีรายละเอียดการนำเข้าสินค้า 5 อันดับแรกที่มีมูลค่าสูงสุด ดังนี้
ตารางแสดงมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากสเปน 5 อันดับแรก ปี 2552
สินค้า มูลค่า (Mil.USD) สัดส่วน(%) เปลี่ยนแปลง(%) เคมีภัณฑ์ 53.5 13.56 -22.49 ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม 48.8 12.37 -31.80 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 40.9 10.38 -29.68 สินค้าทุนอื่นๆ 37.3 9.47 78.53 สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูป 25.2 6.39 -6.33
ที่มา: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
ตั้งแต่กลางปี 2552 สเปนได้ก้าวผ่านจุดต่ำสุดของภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจไปแล้วผู้บริโภคเริ่มผ่อนคลายการรัดเข็มขัดลงเล็กน้อย และหวังว่าปัจจัยอัตราดอกเบี้ยที่ยังต่ำ การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล การฟื้นตัวของตลาดการเงิน จะช่วยเยียวยาความมั่นใจของผู้บริโภคที่หดหายไป โดยเฉพาะยอดขายรถยนต์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาหลายเดือนติดต่อกันอันเนื่องมาจากการเข้ามาแทรกแซงของรัฐบาลโดยให้เงินสนับสนุนผู้บริโภคที่ซื้อรถยนต์ใหม่โดยตรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับการยืดเวลาออกไปอีกเพื่อพยายามประคับประคองอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่มีผลกระทบกับอุตสาหกรรมต่อเนื่องและการจ้างงานจำนวนมากในวงกว้าง
ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปมีสภาพหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยกันอย่างชัดเจนไประดับหนึ่งแล้ว แต่สภาพเศรษฐกิจของสเปนจะยังคงอึมครึมต่อไปอีกในปี 2553 และมีปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไขกันต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจนมีงบประมาณขาดดุลมหาศาลถึงร้อยละ 11 ซึ่งเกินระดับมาตรฐานปกติของสหภาพยุโรปที่จะยินยอมให้ตั้งงบประมาณขาดดุลได้ไม่เกินร้อยละ 3 แถมสื่อบางแห่งขุดคุ้ยว่ารัฐบาลใช้จ่ายเกินรายรับไปถึงร้อยละ 73 อีกทั้งสารพัดปัญหารุมเร้าเกี่ยวกับนโยบายการสร้างงานที่ไม่ได้ผล ในขณะที่อัตราการว่างงานที่ยังมีสภาพเลือดไหลไม่หยุด และคาดว่าจะพุ่งทะลุระดับอัตราร้อยละ 20 ในเร็วๆ นี้
ในภาพรวมทางเศรษฐกิจแม้ว่าจะเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาความไม่สมดุลย์ที่ระบบเศรษฐกิจของสเปนสะสมมาอย่างยาวนานจนไม่สามารถจะกำจัดให้หมดสิDนไปโดยง่าย แต่คาดหวังว่าอุปสงค์ในต่างประเทศที่ขยับสูงขึ้น ร่วมกับการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนที่ขยายตัว จะช่วยให้สเปนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ทั้งนี้จะเป็นไปอย่างเชื่องช้าโดยในปี 2553 สเปน จะยังคงมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม -0.4
ในปี 2553 สินค้าส่งออกหลักดั้งเดิมของไทย ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เสื้อผ้าสำเร็จรูปยางพารา กุ้งแช่เย็น/แช่แข็ง ข้าว ยานพาหนะและส่วนประกอบ ในตลาดสเปนจะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มปรับตัวสูงขึ่น แต่ทั่งนี้ ผู้บริโภคยังคงขาดความมั่น ใจและยึดระดับราคาสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าต่อไป
สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหารและเครื่องนุ่งห่ม ก็ยังมีแนวโน้มที่จะพัฒนาตลาดต่อไปได้ โดยเฉพาะกุ้งแช่เย็น/แช่แข็ง ที่เริ่มติดตลาดหลังจากเครือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ได้เข้ามาเปิดตัวและผลักดันอย่างจริงจัง รวมทั้งสินค้าอาหารพร้อมรับประทานที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่าสินค้าเกษตรหรืออุตสาหกรรมการเกษตร สำหรับสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจะเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยมีระดับราคาเป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน
ส่วนสินค้าที่มีลักษณะฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่าง เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ ยังคงซบเซาต่อไป แต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะมีแนวโน้มขยายตลาดได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคหันมาหาความสุขจากการใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านมากขึ้น กอปรกับกำหนดเวลาการเปลี่ยนสัญญาณถ่ายทอดโทรทัศน์จากอนาล็อกไปเป็นดิจิตอลที่ใกล้เข้ามา จะยังคงเป็นตัวเร่งยอดจำหน่ายโทรทัศน์ต่อไปหลังจากที่ได้ช่วยกระตุ้นให้ตลาดตื่นตัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมทั้ง โทรศัพท์มือถือที่มีการแข่งขันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกสู่ตลาดตลอดเวลาก็ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค
ในแง่ของสถานะคู่แข่งโดยทั่วไป จีนจะยังคงครองการเป็นเจ้าแห่งการผลิตและการส่งออกต่อไป นอกจากข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนการผลิตแล้วยังพัฒนาระดับฝีมือและเทคโนโลยีขึ้นเป็นลำดับด้วย นอกจากนั้น เวียดนามก็เป็นประเทศที่มีความได้เปรียบในแง่ของต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าและ สามารถผลิตสินค้าประเภทเดียวกับไทยแทบทุกชนิด หากเวียดนามยังเดินหน้าลดค่าเงินของตนลงอีกจะยิ่งทำให้สินค้าไทยเสียเปรียบมากยิ่งขึ้น
โดย กิตตินันท์ ยิ่งเจริญ
ที่มา: http://www.depthai.go.th