รายงานข่าวจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (Department of Justice) เปิดเผยว่า Mr. Thomas George, CEO บริษัท Sterling Seafood Corp. ยอมรับผิดต่อข้อกล่าวหาในการนาเข้าปลาจากเวียตนามโดยปลอมแปลงฉลากชื่อปลา เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีทุ่มตลาดมากกว่า 60 ล้านเหรียญฯ และยังจาหน่ายปลาซึ่งจงใจติดฉลากปลอม แปลงชื่อปลาจาก ผู้นาเข้ารายอื่นด้วยอีกกว่า 500,000 เหรียญฯ เลยโดนเข้าไป 2 กระทงเต็มๆ
จากการสอบสวนของกรมศุลกากรสหรัฐฯ (U.S. Immigration and Customs Enforcement) พบว่า ตั้งแต่มกราคม 2546 (2003) ถึง มิถุนายน 2549(2006) นายจอร์จ ได้มีสายสัมพันธ์ธุรกิจกับผู้กระจายสินค้าอาหารทะเลเวียตนามผ่านทางบริษัท Sterling Seafood และได้ซื้อปลา Catfish จากเวียตนาม และยอมรับว่าระหว่างปี 2547(2004)-2549(2006) ได้กระทาความผิดติดฉลากปลา Catfish เป็น Grouper เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีทุ่มตลาด
สาหรับบทลงโทษตามกฎหมายครั้งนี้ โทษสูงสุดของข้อหาแรกนาเข้าปลาโดยจงใจปลอมฉลากชื่อ คือจาคุก 2 ปีและปรับ 250,000 เหรียญฯ หรือ 2 เท่าของเงินที่ได้รับจากการทาความผิด และสาหรับข้อหาที่สองการขายสินค้าที่ปลอมแปลงฉลาก โทษสูงสุดจาคุก 3 ปี และปรับ 250,000 เหรียญฯหรือ 2 เท่าของเงินที่ได้รับจากการทาความผิด
นายจอร์จยินยอมที่จะจ่ายเงินบริการชุมชน (Community-Service Payment) ให้แก่มูลนิธิสัตว์ป่าและปลาแห่งชาติ (National Fish and Wildlife Foundation) จานวน 50,000 เหรียญฯ เพื่อนาไปใช้ในการทาวิจัยเพื่อ ระบุชนิดของอาหารทะเล
เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์เตือนใจผู้อยู่ในวงการอาหารทะเลในสหรัฐฯ และผู้ส่งออกไทยที่ส่งสินค้ามายังสหรัฐฯด้วยว่า อย่าได้ริที่จะทาความผิดในลักษณะนี้ เพียงเพื่อเห็นแก่เงินที่ได้จากการหลบเลี่ยงภาษี เพราะในที่สุดแล้ว นอกจากต้องเสียเงิน เสียชื่อเสียงบริษัทและสินค้า แล้วยังอาจถึงต้องติดคุกได้
นางสมจินต์ เปล่งขำ
สานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก
ที่มา: http://www.depthai.go.th