กิจกรรมสาธิตการประกอบอาหารไทยภายในงาน Smart Shoppers Expo 2010
โครงการ: ส่งเสริมการบริโภคอาหารไทยสู่ครัวเรือนอินเดีย
ประจำปีงบประมาณ 2553
ผู้ดำเนินการ: สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเจนไน-อินเดีย
กิจกรรมโครงการ : มีกิจกรรมที่ดำเนินงานในเดือนมกราคม 2553 จำนวน 1 กิจกรรม ประกอบด้วย
การดำเนินงาน สินค้าอาหารเป็นสินค้าที่มีศักยภาพมากที่สุดในการเข้าสู่ตลาดอินเดีย เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคของคนอินเดียร้อยละ 54 ของการจับจ่ายในชีวิตประจำวันเป็นสินค้าอาหาร การสาธิตการทำอาหารไทยจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญอันหนึ่งในการสร้างความยอมรับในอาหารไทย และส่งเสริมการส่งออกสินค้าอาหารไทยให้มากขึ้นโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนได้จัดสาธิตการปรุงอาหารไทยในงาน Smart Shoppers Expo 2010 ณ เมืองเจนไน เวลา 15.00-16.00 น. เป็นเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 14-18 มกราคม 2553) โดยการสนับสนุนจากบริษัท Oriental Food Ingredients ผู้นำเข้าสินค้าอาหารและเครื่องปรุงรายใหญ่จากไทย โดยมีแม่ครัวหัวป่าก์ชาวไทย คุณเพียงใจ วีณะคุปต์ แสดงการทำอาหารไทยอย่างสุดฝีมือ
ผลการดำเนินการ — ได้รับการยอมรับและเป็นที่สนใจของชาวอินเดียอย่างล้นหลาม ผลการตอบรับดีมาก มีชาวอินเดียสนใจเรียนการทำอาหารไทยหลายร้อยคน อนึ่ง แม้ว่าผู้ชมโดยเฉพาะตัวแทนจากสถาบันการศึกษาและโรงแรมต่างๆ หลังจากได้ชิมอาหารไทยแล้ว อาจจะรู้สึกเผ็ดไปบ้างแต่ก็ชื่นชอบในรสชาติ และแสดงความจำนงที่จะเข้าร่วมการอบรมการทำอาหารไทยอีก หาก สคต. เจนไนจัดอบรมในอนาคต
1. วัฒนธรรมการบริโภคของอินเดียกับไทยใกล้เคียงกัน โดยเครื่องแกงไทยเป็นแบบเปียก ขณะที่เครื่องแกงของอินเดียเป็นแบบแห้ง การสร้างการยอมรับจึงทำได้ไม่ยากนัก ประกอบกับคนอินเดียชื่นชอบวัฒนธรรมไทยเป็นพิเศษอยู่แล้ว ดังนั้น จึงควรมีกิจกรรมการสอนทำอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการโรงแรมและการทำอาหารจัดหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างจริงจัง เพื่อสร้างบุคลากรพ่อครัวอาหารไทยในโรงแรม และร้านอาหารชั้นนำ
2. สินค้าหลายชนิดมีอยู่ในวัฒนธรรมอินเดียอยู่แล้ว เช่น เส้นหมี่ แป้งทอดกรอบ ขนมทอดกรอบ นมถั่วเหลือง ขนมหวาน และเครื่องเทศสำหรับทำพะโล้ ในขณะที่สินค้าไทยคุณภาพสินค้าไทยดีกว่า การแนะนำสูตรทำอาหารไทยสู่ครัวเรือนอินเดีย จึงเป็นช่องทางสำคัญอันหนึ่งในการกระตุ้นการนำเข้าสินค้าอาหารจากไทย
3. เครื่องแกงสำเร็จรูปพร้อมปรุง หรือเครื่องปรุงรสสำเร็จรูปอาหารไทยเหมาะกับการเจาะตลาดอินเดียมากกว่ารูปแบบอื่นๆ เช่น รอยไทย กินดี โลโบ และรสดี เนื่องกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมอาหารไทยเป็นคนรุ่นใหม่ ฐานะดี มีกำลังซื้อสูง ต้องการสินค้าที่ปรุงได้อย่างรวดเร็ว รสชาติถูกใจ เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตน ผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวจึงควรเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น โรงแรม สถาบันการศึกษาด้านการโรงแรม และกลุ่มแม่บ้านในหัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งจะช่วยให้กระแสความนิยมอาหารไทยกระจายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
4. ปัจจุบันในเมืองเจนไน มีร้านอาหารไทยเปิดบริการหลายแห่ง เช่น บ้านไทย @siam, the Benjarong, the silk ในโรงแรมเอเชียนา ย่อมแสดงให้เห็นถึงการยอมรับอาหารไทยของคนอินเดียอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ซึ่ง สคร. เจนไนจะได้ดำเนินการหาแนวทางในการจัดกิจกรรมร่วมกับร้านอาหารไทยดังกล่าวในการส่งเสริมอาหารไทยให้กว้างขวางยิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป
ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไน-อินเดีย
ที่มา: http://www.depthai.go.th