รายงานการเยือนเมืองนูเอโว ลาเรโด รัฐธัมมาวลิปัส ประเทศเม็กซิโก ระหว่างวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 17, 2010 12:06 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ด้วยสำนักงานการส่งเสริมค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโกได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาสำรวจร่วมกับคณะของกรมเศรษฐกิจและกรมอเมริกา กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการจัดทำโครงการศึกษาเขตเศรษฐกิจชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก เพื่อเป็นแนวทางการจัดทำเขตเศรษฐกิจตามแนวชายแดนของไทย โดยเน้นการศึกษาด้านการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคตม ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านศุลกากร ด้านจัดการการขนส่งโดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย กกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรมกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคมนาคม สำนักตรวจคนเข้าเมืองสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้กำหนดเดินทางมาเยือนเมืองนูเอโว ลาเรโด รัฐธัมมาวลิปัส ระหว่างวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ 2533 โดยคณะฯ ได้เข้าพบนายกเทศมนตรี นาย Ramon Garza Barrios และได้รับการต้อนรับจากสถาบันการค้าและการแข่งขัน โดยนาย Jose Damiel Covarubias ผู้แทนสถาบันฯ ซึ่งได้ทำการบรรยายเกี่ยวกับพื้นที่เทศบาลร่วมระหว่างเมืองลาเรโด ในมลรัฐเท็กซัสและ เมืองนูเอโวลาเรโดในเม็กซิโก และมีการบรรยายเพิ่มเติมโดยตัวแทนจากกระทรวงเศรษฐกิจ ด้านศุลกากรเมืองนูเอโว ลาเรโด สภาพัฒนาอุตสาหกรรมนูเอโว ลาเรโด (CODEIN) และตัวแทนเขตการค้าเสรีนาฟต้า (NAFTA/TLCAN) สรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับเมืองนูเอโว ลาเรโด ได้ดังต่อไปนี้

ท่าขนส่งทางบก (Inland Port) และเขตพื้นที่เมืองของสองสัญชาติ (Binational Metropolitan Area)

พื้นที่เมืองบาลลาเรโด-นูเอโวลาเรโด (Laredo-Nuevo Laredo Metropolitan Area/ Two Laredos/ Laredo Borderplex) เป็นหนึ่งในหกพื้นที่สองสัญชาติ (binational) ระหว่างพรหมแดนเม็กซิโกกับสหรัฐฯ มีแม่น้ำ Rio Grande คาบเกี่ยวกันระหว่างรัฐธัมมาวลิปัสในฝั่งเม็กซิโกกับรัฐเท็กซัสฝั่งสหรัฐฯ มีประชากรร่วมกันประมาณ 700,000 คน โดยประมาณร้อยละ 65 ของประชากรในเขตเมืองลาเรโด ทำงานด้านการค้าหรือการขนส่ง และร้อยละ 20 ทำงานในภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกหรือโรงงานมาคิลา

เมืองนูเอโว ลาเรโด เป็นท่าขนส่งภายในประเทศ (inland port) ที่สำคัญที่สุดของเม็กซิโก โดยประมาณร้อยละ 50 ของสินค้าที่ส่งออกจากสหรัฐฯ ไปยังเม็กซิโก และร้อยละ 70 ของสินค้าที่ส่งออกจากเม็กซิโกไปยังสหรัฐฯ ผ่านด่านการขนส่งที่ท่าศุลกากรลาเรโดนี้ มีรถบรรทุกข้ามชายแดนในจุดนี้โดยเฉลี่ยวันละประมาณ 8,500 คันต่อวัน มีสะพานสำหรับการเดินรถข้างแม่น้ำริโอ แกรนด์ ที่เชื่อมกับทางหลวงสำคัญ 4 เส้นทางหลวงจากฝั่งสหรัฐฯ เชื่อมต่อกับอีกหลายเส้นทางในฝั่งเม็กซิโก 4 แห่ง อันได้แก่ Gateway to Americas International Bridge, Juarez-Lincoln International Bridge, World International Bridge ซึ่งเป็นทางข้ามสำหรับรถบรรทุกสินค้าเท่านั้น และ Colombia-Solidarity International Bridge และมีสะพานทางเดินรถไฟหนึ่งแห่ง คือ Texas- Mexican Railway International Bridge ซึ่งมีการเดินรถไฟอยู่สองสายสำคัญที่เชื่อมเส้นทางเดินไปถึงประเทศแคนาดา

เมืองนูเอโว ลาเรโดได้รับการเร่งรัดพัฒนาในช่วงระยะไม่นานมานี้ เนื่องจากการมีเขตการค้าเสรีนาฟต้าเป็นปัจจัยส่งเสริมที่สำคัญ ทั้งนี้ รัฐธัมมาวลิปัส เป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของเม็กซิโกมาก่อน เนื่องจากได้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมัน และการประมงในพื้นที่ดังกล่าว มาแต่ก่อน

ข้อได้เปรียบทางการค้าสำคัญ: ความสะดวกในการเชื่อมโยงและใกล้ชิดกับตลาดสำคัญ

เศรษฐกิจในเขตเมืองนูเอโว ลาเรโดมีอัตราการขยายตัวสูง เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ จนถึงแคนาดา เป็นจุดเชื่อมโยงกับผู้บริโภคฝ่ายเม็กซิกันถึงร้อยละ 80 กับผู้บริโภคฝ่ายสหรัฐฯ ร้อยละ 80 และกับฝ่ายแคนาดา ร้อยละ 76

เส้นทางหลวงที่สำคัญของสหรัฐฯ คือทางหลวงระหว่างรัฐ หมายเลข 35 เป็นเส้นทางหลักที่สามารถเชื่อมโยงไปยังทุก ๆ เส้นทางหลวงระหว่างรัฐทั่วประเทศสหรัฐฯ และสามารถเดินทางไปถึงชายแดนแคนาดาได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินรถไฟบรรทุกสินค้า ที่สามารถส่งสินค้าไปยังประเทศแคนาดา

เส้นทางหลวงฝั่งเม็กซิโก เป็นเส้นทางที่ส่งสินค้าไปยังภูมิภาคเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ โดยวิ่งตรงไปยังท่าเรือน้ำลึกสำคัญสองแห่ง คือ ท่าเรือ Lazaro Cardenas และท่าเรือ Manzanillo Port ทางมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนสินค้าที่ส่งไปยังตลาดยุโรปสามารถเดินทางไปยังท่าเรือ Tampico Madero — Altamira และท่าเรือง Veracruz. ซึ่งอยู่ฝั่งอ่าวเม็กซิโก เส้นทางดังกล่าวถือเป็นเส้นทางที่เรียกว่า NAFTA Route และยังใช้เชื่อมกับท่าเรือ Lazaro Cardenas ที่เป็นการนำเข้าของสินค้าในปริมาณมาก Bulk ซึ่งจะใช้เส้นทางของรถไฟเชื่อมเข้าไปสู่สหรัฐฯ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งที่เรียกว่า Kansas City Railroads

ข้อได้เปรียบ: การบริการด้านโลจิสต์ติกส์

เมืองนูเอโว ลาเรโด ได้พัฒนาเป็นจุดข้ามแดนที่สำคัญ โดยได้มีการลงทุนด้านโลจิสต์ติกส์ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากร การสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งรัฐบาลระดับสูงของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งการสนับสนุนจากรัฐบาลในระดับท้องที่ และองค์กรส่งเสริมการค้าอีกหลายทาง

การบริการด้านศุลกากร มีตัวแทนศุลกากร 237 บริษัทตัวแทน จากจำนวนตัวแทนศุลกากรทั้งประเทศที่มีอยู่ 464 ราย มีบริษัทขนส่งที่ทำการอยู่ในเมืองนูเอโว ลาเรโด 350 บริษัทมีคลังเก็บสินค้า เขตนิคมอุตสาหกรรม และเขตพื้นที่ปลอดภาษี และมีสนามบินระหว่างประเทศ ที่กำลังได้รับการปรับปรุงให้มีบริการรับขนส่งสินค้าทางอากาศ นอกจากนี้ โครงสร้างภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ในอัตราของเขตเมืองชายแดน ต่ำกว่าในเขตเมืองอื่นที่ร้อยละ 11 แทนอัตราร้อยละ 16 ของทั่วประเทศ ทั้งนี้ จากเมืองนูอาโว ลาเรโดของเม้กซิโก และของเมืองลาเรโดของเท็กซัสเชื่อมยังเมืองอื่นๆ ที่สำคัญในเม็กซิโกมีรายละเอียดตามตารางดังต่อไปนี้

อุตสาหกรรม

รัฐบาลเม็กซิโกได้ส่งเสริมการส่งออก โดยการให้สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับผู้ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ภายใตั้โครงการมาคิลาดอร่า โดยบริษัทแห่งแรกที่ได้ใช้สิทธิดังกล่าว ได้แก่ บริษัท A.C. Nielsen Co. S.A. de C.V. และได้เริ่มการดำเนินการขึ้นตั้งแรกที่เมืองนูเอโว ลาเรโดในปี 2505 ปัจจุบันมีบริษัทผู้ใช้สิทธิมาคิลาดอร่าจำนวน 56 แห่ง ที่จ้างแรงงานจำนวน 22,000 คน และในรอบ 15 ปี ที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฏการประท้วงของคนงานในโรงงานและบริษัทในเมืองฯ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะการจ้างงานและคุณภาพของแรงงานที่ดี ซึ่งตรงกันข้ามกับพื้นที่อื่นที่สหภาพแรงงานมีอิทธิภลอยู่มาก และเกิดการสไตร๊คบ่อยครั้ง ทั้งยังรองรับเขตนิคทมอุตสาหกรรมืที่รองรับจำนวน 6 แห่ง

มีเขตนิคมอุตสาหกรรมอยู่หกแห่ง คือ

          Company                     Employees
          Delphi - Alambrados           2500
          Teleflex Medical              1900
          Industrias Rheem              1300
          Sony Nuevo Laredo             1400
          Wiegand, S.A. De C.V.         1080
          Controles Temex               1000
          Linamar                        900

มีการคาดการณ์ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจเมืองนูเอโว ลาเรโด จะขยายตัวในอัตราร้อยละ 80 ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า

สิทธิประโยชน์และมาตรการส่งเสริมการส่งเสริมจากรัฐ

รัฐธัมมาวลิปัส ให้สิทธิพิเศษเพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมเพิ่มเติมอีก นั่นคือ การอุดหนุนภาษีเงินเดือน สำหรับบริษัทเปิดใหม่ ที่มีคุณสมบัติดังนี้

1. เป็นบริษัทในเขตอุตสาหกรรมในเมือง Matamoros, Reynosa, Nuevo Laredo และ Altamira และมีการจ้างงานตำแหน่งถาวรใหม่ จำนวน 250 ตำแหน่งในปีแรกของการดำเนินการ และอีก 200 ตำแหน่งใหม่ในปีที่สอง จะได้รับการอุดหนุนภาษีเงินเดือนเต็มส่วนในปีแรก และร้อยละ 50 สำหรับสองปีถัดไป

2. หากบริษัทตั้งอยู่ในพื้นที่อื่นในรัฐฯ แต่มีการจ้างงาน 150 ตำแหน่งถาวรในปีแรกและอีก 100 ตำแหน่งใหม่ในปีที่สอง จะได้รับการอุดหนุนภาษีเงินเดือนเต็มจำนวน 4 ปี

3. แสดงหลักฐานว่ามีการประกอบธุรกิจร่วมกับบริษัทที่มีถิ่นลำเนาในรัฐฯ ได้อย่างน้อยหนึ่งราย จากปี 2550

4. สั่งซื้อสินค้าหรือบริการจากกิจการในเมืองที่บริษัทมีภูมิลำเนา

5. ได้แจ้งขอสิทธิกับกรมการเงินของรัฐฯ ตามข้อกำหนดของกฏหมาย และในระยะเวลาที่ให้สิทธิ

สำหรับบริษัทที่เปิดใหม่ที่มีการจ้างงาน ได้ 20-149 ตำแหน่ง สามารถรับเงินอุดหนุนได้เต็มจำนวนจากรัฐฯ ได้ในกรณี

1. แสดงหลักฐานว่ามีภูมิลำเนาอยู่ในรัฐมาอย่างน้อย 5 ปี

2. แสดงว่ามีการร่วมกิจกรรมกับธุรกิจในรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2550

3. สั่งซื้อสินค้าและบริการจากซัพพลายเออร์ในเมืองที่ตั้งภูมิลำเนา อย่างต่ำ 3 ราย

4. ได้แจ้งขอสิทธิกับกรมการเงินของรัฐฯ ตามข้อกำหนดของกฏหมาย และในระยะเวลาที่ให้สิทธิ

และมีการมอบเงินอุดหนุนได้รัอยละ 75 สำหรับค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน สำหรับการจดทะเบียนหลักทรัพย์และการค้า การจดทะเบียนบริษัท การจดทะเบียนเพิ่มทุน สำหรับบริษัทที่ดำเนินกิจกรรมในหมวดที่แจ้งไว้ในกฏระเบียบรัฐธัมมาวลิปัสเกี่ยวกับการคลัง ข้อII, III, IV, V และ VI ของมาตรา 17

มาตรการส่งเสริมจากเขตเทศบาล
  • ลดภาษีที่ดิน
  • ส่วนลดสำหรับการออกใบอนุญาติ และทะเบียนต่าง ๆ เช่น ใบอนุมัติการก่อสร้างใบอนุมัติการใช้ที่ดิน
สภาพัฒนาอุตสาหกรรมนูเอโว ลาเรโด - CODEIN (Comite para Desarrollo Industrial de Nuevo Laredo)

CODEIN เป็นองค์กรเอกชนไม่แสวงหากำไร ที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและการค้าของเมืองนูเอโว ลาเรโด ก่อตั้งเมื่อปี 2529 โดยการรวมตัวของผู้ดำเนินการกิจการสำคัญ ๆ ของเมืองฯ ได้เป็นองค์กรที่ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ผลักดันโครงการคมนาคม ก่อสร้าง การค้า การท่องเที่ยว พัฒนาแรงงานและการศึกษา เป็นผู้ประสานงานรักษาความสัมพันธ์ระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐบาลและองค์กรประเภทอื่น และมีความร่วมมือด้านการฝึกอบรม เก็บข้อมูลและการวิจัยกับสถาบันการศึกษาสำคัญ ๆ เช่น มหาวิทยาลัยธัมมาวลิปัส สถาบันเทคโนโลยีนูเอโวลาเรโด มหาวิทยาลัยวาเยเดล์ บราโวและโรงเรียนเทคโนโลยีอื่น ๆ

นอกจากนี้แล้ว CODEIN ยังให้บริการในการจัดหางาน การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฏหมายและสิ่งแวดล้อม มีการเก็บข้อมูลสินค้า ผู้ส่งออกและนำเข้า และทำการเผยแพร่เกี่ยวงานแสดงสินค้า หรืองานอุตสาหกรรม

ขั้นตอนศุลกากร

ท่าศุลกากรนูเอโว ลาเรโด เป็นท่าที่สำคัญของเม็กซิโก เพราะเป็นทางผ่านของสินค้าครงวงจรผ่าน ร้อยละ 39 และการขนส่งทางบก ร้อยละ 15 มีรถบรรทุกสินค้าเดินทางผ่านประมาณวันละ 8500 คัน ซึ่งแต่ก่อนเปิดให้ข้ามชายแดนได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ภาวะวิกฤตการณ์เศรษฐกิจทำให้มีการขนถ่ายน้อยลง จึงเปิดให้สินค้าผ่านได้ระหว่าง 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน

การขอผ่านศุลกากรและการจ่ายภาษีผ่านธนาคาร ต้องดำเนินการล่วงหน้าผ่านตัวแทนศุลกากร เมื่อรถบรรุทนสินค้าที่ส่งสินค้านำเข้าเดินทางมาถึงท่าศุลกากร จะผ่านระบบการคัดเลือกเพื่อเรียกตรวจอัตโนมัติ โดยมีการตรวจรถบรรทุกสินค้าประมาณร้อยละ 15 ของรถบรรทุกที่ข้ามแดน แสดงภาพการผ่านท่าศุลกากรดังภาพข้างล่าง

ทั้งนี้มีแหล่งข้อมูลอื่นๆ ของหน่วยงานของเม็กซิโกหน้าเวปสำคัญมีดังนี้:

http://www.nuevolaredo.gob.mx/

http://www.inviertaentamaulipas.gob.mx/

http://www.codein.org/

http://www.nafta-mexico.org/

http://www.nadb.org/

http://www.cityoflaredo.com/

http://www.laredochamber.com/

http://en.wikipedia.org/wiki/Laredo-Nuevo_Laredo_Metropolitan_Area

รายงาน Federal Bank of Dallas “Southwest Economy”

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ