กรมศุลกากรประเทศจีนเผยข้อมูลว่าเดือนมกราคม 2553ที่ผ่านมา ประเทศจีนมีมูลค่าการส่งออก 1.0947 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 21 สำนักงานเศรษฐกิจหลายสำนักของจีนออกมาคาดการณ์ว่าสถานการณ์การส่งออกจีนมีหวังจะฟื้นตัวดีขึ้นในปีนี้ พร้อมกันนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานตัวเลขการค้าปี 2009 มูลค่ารวม 2.2073 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออก1.2017 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับประเทศเยอรมันมีตัวเลขการส่งออกที่ 1.1213 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ประเทศจีนเป็นประเทศส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่งของโลกแทนเยอรมันนีในปีที่ผ่านมา
ข้อมูลข้างต้นส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศจีนเอาชนะภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมาได้ และเศรษฐกิจจีนกับโลกได้เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่นแล้ว แต่ในขณะเดียวกันนายหม่า เจี้ยนถัง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในมุมต่างว่า "ตัวเลขการส่งออกของจีนมากเป็นอันดับหนึ่งของโลกเนื่องจากปริมาณ แต่ในเรื่องของโครงสร้างสินค้าส่งออกยังต้องมีการปรับปรุง เช่นศักยภาพในการคิดค้นและพัฒนาสินค้าส่งออก และการส่งเสริมประสิทธิภาพของผู้ประกอบการส่งออกเป็นต้น จีนเองอยู่ในสถานะคนกลางในห่วงโซ่การผลิตโลก ซึ่งอยู่ระหว่างประเทศแหล่งวัตถุดิบต้นน้ำ กับประเทศผู้บริโภคปลายน้ำ จึงถูกกดดันในเรื่องกำไรที่ได้จากทั้งสองฝ่าย อีกทั้งปัญหาในเรื่องการกีดกันทางการค้า ซึ่งในปี 2009ที่ผ่านมาจีนได้ว่าความคดีกีดกันการค้าที่เกิดกว่า 116 คดี มูลค่า 1.27 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งองค์การการค้าโลกก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า หากประเทศยักษ์ใหญ่ทางการค้าต่างๆยังคงดำเนินมาตรการกีดกันโดยไม่ตระหนักถึงผลลัพธ์ใดๆ พฤติกรรมการเลียนแบบอย่าง และมาตรการควบคุมการกีดกันการค้าก็จะใช้ไม่ได้ผลในอนาคต และที่สำคัญคือตำแหน่งที่ได้มานี้ไม่มั่นคงเนื่องจากเยอรมันส่งออกลดลง ไม่ใช่การส่งออกของจีนที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ค.ของปีที่ผ่านมาตัวเลขการค้าเกินดุลย์ลดลงร้อยละ 64 "
ปัจจัยรอบด้านที่ยังทำให้จีนไม่สามารถวางใจได้ต่อตำแหน่งที่ได้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจคือ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่ยังไม่เป็นดั่งที่คาดการณ์ อัตราการว่างงานของประเทศสำคัญต่างๆก็ยังคงสูงอยู่ กำลังซื้อของผู้บริโภคซึ่งวัดจากอัตราการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายส่วนบุคคลที่เป็นกลไกสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างอ่อนกำลัง การกีดกันและคุ้มครองทางการค้าของประเทศสำคัญทางการค้าต่างๆ ล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญในการพิสูจน์ตำแหน่งที่ได้ของจีน ว่าจริงแท้แค่ไหน
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: http://www.depthai.go.th