ข้าวไทยในตลาดจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 17, 2010 15:21 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครซีอาน รายงานว่า รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนการเพาะปลูกข้าวที่ได้รับการตกแต่งพันธุกรรมเทเทคโนโลยีชีวภาพ (GMO) ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกของจีนลดน้อยลงจากผลพวงการขยายตัวของเมือง ประกอบกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น คาดว่า ข้า GMO จะได้รับอนุญาตให้วางจำหน่ายในท้องตลาดได้ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า หลังจากผ่านการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่รับรองถึงความปลอดภัยต่อการบริโภคและไม่ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแน่นอนแล้ว เป็นเครื่องชี้ว่าในอนาคตจีนจะส่งออกข้างได้มากขึ้น

ในปัจจุบันแม้ผลผลิตข้าวของจีนเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ พลเมืองจีน 1,300 ล้านคน บริโภคข้าและธัญพืชโดยเฉลี่ย 388 กิโลกรัม/คน/ปี คาดว่าในขณะนี้ธัญพืชคงคลังมีสำรองเพื่อการบริโภคไม่น้อยกว่า 100 วัน เป็น เป็นข้าวคุณภาพต่ำ จีนมีการนำเข้าและส่งออกข้าวเพื่อรักษาสมดุลของอุปสงค์และอุปทานของตลาดหากปีไหนผลผลิตข้าวมีน้อย และเกิดภาะขาดแคลน ก็จะมีแหล่งที่จะนำมาชดเชยการผลิตภายในได้ โครงสร้างการนำเข้าข้าวของจีนเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เคยนำเข้าข้าวคุณภาพต่ำเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือนทั่วไป เพื่อการดำรงชีพมาเป็นการนำเข้าข้าวคุณภาพสูงตอบสนองต่อความเจริญทางเศรษฐกิจของผู้ที่มีฐานะร่ำรวยขึ้น รวมทั้งใช้ในภัตตาคารร้านอาหารระดับสูง

พื้นที่เพาะปลูกธัญพืชในประเทศจีนมีรวมทั้งสิ้น 1,800 ล้านมู่ (1 มู่=0.4 ไร่) ผลผลิตรวมธัญพืชทุกประเภท 540,000 ล้านกิโลกรัม/ปี โดยเฉลี่ยพื้นที่เพาะปลูกข้าวของจีนประมาณ 180 ล้านไร่ ในปีเพาะปลูก2552/2553 คาดว่าจะมีปริมาณข้าวออกสู่ท้องตลาด 196.4 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 1,000 กิโลกรัม สต๊อกข้าวจะมีจำนวน 13.71 ล้านตัน (ที่มา: CNGOIC)

ข้าวเป็นอาหารหลักของชาวจีน ถึงแม้ว่าชาวจีนจำนวนมากโดยเฉพาะทางภาคเหนือ มีอาหารหลักอื่นซึ่งทำจากแป้งข้าวสาลีหรือธัญพืชอื่นๆ ที่ปลูกันมากทางภาคเหนือ เช่น บะหมี่ เกี๊ยว ซาลาเปา เป็นต้น ข้าวที่จีนบริโภคมีคุณภาพแตกต่างกัน ข้าวที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูง มักจะเป็นข้าวคุณภาพต่ำ ในขณะที่ข้าวที่มีชื่อเสียงขึ้นชื่อเป็นที่ยอมรับ นอกจากข้าวหอมมะลิเมล็ดยาวของไทย ยังมีข้าวเมล็ดสั้นคุณภาพสูงราคาแพงที่จีนปลูกได้เองในเขต Heilongjiang ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดจนข้าวแบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น อาทิ "Koshinhikari" และ "Hitome-bore" ซึ่งควบชื่อเสียงของแบรนด์มากับแหล่งผลิตเพื่อยืนยัน "ของแท้" ข้าวมีชื่อโด่งดังละชนิด มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ทั้งความนุ่มนวมรสชาติ กลิน และวิธีหุงที่แตกต่าง ก่อให้เกิดเสนห์และเอกลักษณ์ที่สร้างความโดดเด่น

จีนผูกพันไว้ในองค์การการค้าโลก (WTO) กำหนดโควต้านำเข้าข้าวปีละ 5.32 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเมล็ดยาว 2.66 ล้านตัน และข้าวเมล็ดสั้น 2.66 ล้านตัน ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ทำให้ภาษีข้าวลดลงเหลือร้อย 0 ซึ่งทำให้ข้าวไทยได้เปรียยบมากกว่าสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ แต่ไทยยังมีคู่แข่งภายในอาเซียน อย่างไรก็ตาม หากไทยมุ่งไปที่ตลาดระดับบน และใช้ชื่อเสียงความเป็นข้าวไทยเป็นจุดขาย ไทยก็จะสามารถแยกตัวเองออกจากคู่แข่งในสมาชิกอาเซียนด้วยกันได้ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนในการที่จะนำเสนอจุดแข็งเป็นจุดขายของข้ามหอมมะลิไทย ที่ไม่มีการปลอมปนใดๆ วิธีหนึ่งที่จะช่วยได้คือการรับรองแหล่งผลิต โดยใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นแบรนด์รับประกันความแท้มาตรฐานคุณภาพข้าวหอมมะลิไทย

การจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวที่เน้นตลาดข้าวไทยในจีนโดยเฉพาะจะช่วยให้ข้าวไทยขยายตัวและเป็นที่แพร่หลายได้มากขึ้น เศรษฐกิจของจีนกำลังเติบโตอย่างมาก ถนนการค้าทุกสายจากทั่วโลกตัดตรงมาที่จีน ถึงแม้ว่าจีนสามารถผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคได้ทั้งหมดเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ แต่จีนซึ่งเป็นชนชาติที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับอาหาร ทั้งเพื่อสุขภาพ ความพึงพอใจ และการพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากหากคุ้มค่า ข้าวคือ วัฒนธรรมการกินอาหารของชาวจีนมาแต่โบราณ ชื่อชั้นข้าวหอมมะลิของไทยเป็นเลิศในสายตาของชาวจีนและทั่วโลก ถึงแม้ระบบการค้าและวิธีคือทางธุรกิจของจีนไม่ได้ลอกเลียนแบบอย่างตามตะวันตกซึ่งเราคุ้นเคย แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะทำความรู้จักเรียนรู้ให้เกิดความเข้าใจ เพื่อประโยชน์ระยะยาวทางธุรกิจ ซึ่งข้าวไทยยังมีโอกาสอีกมากในตลาดจีน

สิริรัตน์ วงศ์ไพโรจน์พานิช

สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ นครซีอาน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ