สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครโอซากา ขอรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ในพื้นที่ดูแลของสคร.โอซาการวม 17 จังหวัด คือ โอซากา เกียวโต วากายาม่า นารา ชิกะ ฟุกุอิ อิชิกาว่า โตยาม่า มิเอะ ไอจิ กิฟุ ชิซึโอกะ คากาว่า โทกุชิม่า เอฮิเมะ โคจิ เฮียวโกะ ในปี 2552 (12 เดือน) สรุปได้ดังนี้
1. การส่งออกสินค้าทั้ง 17 จังหวัดมายังประเทศไทยมีมูลค่า 13,103.18 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีมูลค่า 18,404.17 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 28.8 ทั้งนี้สินค้าขาออกจากญี่ปุ่นไปยังไทยจะผ่านทางท่าเรือในเขตที่สคต.โอซากาดูแลคิดเป็นร้อยละ 59.20 ของปริมาณการส่งออกทั้งหมดจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยในช่วงเดียวกัน (มูลค่า22,133.68 ล้านเหรียญสหรัฐ)
2. การนำเข้าสินค้าทั้ง 17 จังหวัดจากประเทศไทยมีมูลค่า 7,108.56 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีมูลค่า 9,972.68 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 28.72 ทั้งนี้สินค้านำเข้าจากประเทศไทยจะส่งมาที่ท่าเรือในเขตที่สคต.โอซากาดูแลคิดเป็นร้อยละ 44.49 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดจากประเทศไทยมายังประเทศญี่ปุ่นในช่วงเดียวกัน (มูลค่า 15,978.24 ล้านเหรียญสหรัฐ)
3. สัดส่วนของสินค้าทั้ง 17 จังหวัดที่ส่งออกมาประเทศไทยของปี 2552 ได้แก่ เครื่องจักร (ร้อยละ27.8) อุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ (ร้อยละ23.1) สินค้าส่วนประกอบ(ร้อยละ 20.1) ชิ้นส่วนยานยนต์(ร้อยละ 12.6) เคมีภัณฑ์ (ร้อยละ9.8) สินค้าจำพวกวัตถุดิบ (ร้อยละ 1.4) อาหาร (ร้อยละ0.4) เชื้อเพลิง (ร้อยละ0.4) และอื่นๆ (ร้อยละ4.6)
4. สัดส่วนของสินค้าทั้ง 17 จังหวัดที่นำเข้าจากประเทศไทยของปี 2552 ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกส์ (ร้อยละ19.9) อาหาร (ร้อยละ 18.6) เครื่องจักร(ร้อยละ13.2) สินค้าส่วนประกอบ (ร้อยละ 12.6) เคมีภัณฑ์ (ร้อยละ 12.2) ชิ้นส่วนยานยนต์ (ร้อยละ 4.4) วัตถุดิบ (ร้อยละ 4.3) เชื้อเพลิง (ร้อยละ 1)และอื่นๆ (ร้อยละ14)
1. ยอดขายสินค้าในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เช่น ไดมารู ทากาชิมาย่า อิเซตัน และมัตซูซากายะ ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง และในเดือนสิงหาคม 2552 ห้างสรรพสินค้าโซโก้ สาขาโอซากาได้ประกาศปิดตัวลง นับเป็นการปิดฉากของห้างสรรพสินค้าอายุถึง 74 ปี ที่มีจุดเริ่มต้นที่นครโอซากา ซึ่งอาคารสำนักงานเดิมได้ถูกห้างไดมารูซึ่งเป็นคู่แข่งและตั้งอยู่ติดกันซื้อไปเพื่อขยายพื้นที่ของไดมารูออกไปอีก ส่วนสาขาต่างๆนอกประเทศของโซโก้ได้แยกการบริหารและการเงินจากกันอยู่แล้วจึงไม่ได้รับผลกระทบต่อการขายกิจการนี้แต่อย่างใด
2. อัตราการว่างงานในประเทศญี่ปุ่นลดลงอยู่ที่ร้อยละ 5.5 ของแรงงานทั้งหมด ในขณะที่อัตราการว่างงานในเขตคิงกิ (โอซากา เกียวโต เฮียวโก นารา ชิกะ และวากายาม่า) อยู่ที่ร้อยละ 5.8 ของแรงงานทั้งหมดในเขตคันไซ (ลดลงจากการสำรวจใน เดือนพฤศจิกายน 2552ซึ่งมีจำนวนผู้ว่างงานถึง ร้อยละ 6.7 ของแรงงานทั้งหมดในเขตคันไซ)
3. บริษัท Watts เจ้าของร้านร้อยเยนในเขตคันไซมีแผนที่จะเปิดร้านเพิ่มอีก 2 สาขาในประเทศไทยภายในเดือนพฤษภาคม 2553 รวมเป็น5 สาขา โดยปัจจุบันการส่งสินค้าจะส่งจากญี่ปุ่นไปไทย แต่ในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นส่งสินค้าจากผู้ผลิตในจีนไปยังไทยโดยตรง
4. บริษัท Fuji Oil สำนักงานใหญ่อยู่ที่โอซากาจะลงทนสร้างโรงงานใหม่ที่ จ. ระยองร่วมกับบริษัท Itochu มูลค่าถึง 2 พันล้านเยน ในเดือน กุมภาพันธ์ 2554 โดยจะผลิตน้ำมันที่ใช้สำหรับของขบเคี้ยวช็อคโกแลต โดยจะส่งให้ผู้ผลิตในญี่ปุ่น และไทย คาดว่าจะมียอดขาย 5 พันล้านเยน ในปี 2555
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครโอซากา
ที่มา: http://www.depthai.go.th