“พาณิชย์” มั่นใจภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช่วยผลักดันยอดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปี 53 ขยายตัวเพิ่มจากปีก่อนกว่า 18%
กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายในระยะยาวภายในปี 58 ไทยจะเป็นผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก โดยจะมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 810,000 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 18% ต่อปี
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการส่งออก ร่วมกับ สมาคมอัญมณีไทยและเครื่องประดับ จัดงานแถลงข่าวงานแสดงสินค้า Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 45 โดยได้รับเกียรติจาก นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก นายวิชัย อัศรัสกร นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทย และเครื่องประดับ และนายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานคณะกรรมการบริการโครงการบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดงานดังกล่าว
ภายในงาน นางศรีรัตน์ เผยว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยถือเป็นอันดับ 3 ของสอนค้าส่งออกทั้งหมดของไทย โดยในช่วงปี 2552 ที่ผ่านมามีมูลค่าการส่งออกกว่า 9,761.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการผลักดันของภารัฐและสมาคมผู้ค้าอัญมณี”
“ด้านการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 18% จากปีก่อนที่มีมูลค่าส่งออก 9,761 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 330,000 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีก่อน ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2558 ไทยจะเป็นผู้ส่งออกอัญมณีฯติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก มีมูลค่าส่งออกมากกว่า 810,000 ล้านบาท ส่วนการจัดงานบางกอก แอนด์ จิวเวอรี่แฟร์ ครั้งที่ 45 ที่จะมีขึ้นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท” นางศรีรัตน์กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายในระยะยาวภายในปี 58 ไทยจะเป็นผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก โดยจะมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 810,000 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 18% ต่อปี
ด้านนายวิชัย อัศรัสกร นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทย และเครื่องประดับ เชื่อว่า การเปิดงานบางกอก แอนด์ จิวเวอรี่แฟร์ ครั้งที่ 45 ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งตรงกับวันที่ศาลฎีกาฯ ตัดสินคดียึดทรัพย์ จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับงานฯ เนื่องจากขณะนี้มีนักธุรกิจต่างชาติตอบรับการเข้าร่วมงานและจัดงานแฟร์จำนวน 5,300 บริษัท
"ไม่มีรายใดที่จะถอนการร่วมงานบางกอกเจมส์ในครั้งนี้ และที่สำคัญนักลงทุนรายใหญ่ต่างก็ไม่ยกเลิกที่จะเข้ามาร่วมงานและทางคณะผู้จัดงานก็เชื่อมั่นว่า สถานการณ์จะผ่านพ้นไปด้วยดี และคาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท" นายวิชัย กล่าว
ขณะที่นายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานคณะกรรมการบริการโครงการบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ กล่าวว่า การตัดสินคดียึดทรัพย์จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอัญมณี และการเดินทางเข้ามาร่วมงานบางกอก แอนด์ จิวเวอรี่แฟร์ เพราะที่ผ่านมาก็เคยจัดงานตรงกับการรัฐประหารมาแล้ว ประกอบกับ คนที่มาในส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจต้องเดินทางเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่น่าจะมีผลกระทบ
บางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ ครั้งที่ 45 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ — 2 มีนาคม 2553 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. บุคคลทั่วไปเสียค่าผ่านประตู 100 บาท สำหรับผู้ที่อยู่ในแวดวงอัญมณีและเครื่องประดับ สามารถแลกบัตรผ่านประตูได้เลย
ที่มา: http://www.depthai.go.th