ภาวะการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐเช็ก ปี 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 18, 2010 17:03 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สำนักงานสถิติแห่งชาติของสาธารณรัฐเช็ก รายงานว่าในปี 2552 สาธารณรัฐเช็กมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ รวม 216.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ (4,097 พันล้านเช็กคราวน์) ลดลงจากปี 2551 ร้อยละ 24.9 โดยแยกเป็นมูลค่าการส่งออก 112.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (2,125.1 พันล้านเช็กคราวน์) ลดลงร้อยละ 23.2 และมูลค่าการนำเข้า 104.3 พันล้านเหรียญสหรํฐ (1,971.9 พันล้านเช็กคราวน์) ลดลงร้อยละ 26.6 ได้ดุลการค้า จำนวน 8.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 92.85

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงสถิติการค้าในมูลค่าเงินสกุลท้องถิ่น จะพบว่าอัตราการลดลงของมูลค่าการส่งออกและนำเข้าจะต่ำกว่าสถิติที่เป็นเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐ ทั้งนี้เนื่องจากในปี 2552 เงินสกุลเช็กคราวน์ซึ่งเป็นเงินท้องถิ่น อ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและดอลล่าร์สหรัฐ ตัวอย่างเช่น มูลค่าการส่งออกในรูปของเงินสกุลเช็กคราวน์ จะลดลงเพียงร้อยละ 14.1 ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าลดลงร้อยละ 18.1

สาเหตุหลักที่ทำให้มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐเช็กลดลงในปี 2552 มาจาก

1. การลดลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ทำให้การส่งออกลดลง

2. ปริมาณความต้องการของผู้ซื้อลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศเยอรมันที่เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของสาธารณรัฐเช็ก มียอดสั่งซื่อในปี 2552 ลดลงประมาณร้อยละ 10

3. ปริมาณความต้องการของผู้บริโภคในประเทศก็ลดลงเช่นกัน โดยเป็นผลกระทบจากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นและนโยบายประหยัดของผู้ประกอบการ เพื่อลดต้นทุน ทำให้การจับจ่ายใช้สอยลดลง

4. ราคาน้ำมันของตลาดโลกลดลง ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าลดลง

สินค้าส่งออกหลักของสาธารณรัฐเช็ก : ในปี 2552 เช็กส่งออกรถยนต์โดยสารมากเป็นอันดับ 1 มูลค่า 200 พันล้านเช็กคราวน์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากปี 2551 รองลงมาได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์ มูลค่า 138 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 14) เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ มูลค่า 111 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 12) เครื่องรับโทรทัศน์และจอภาพ มูลค่า 55 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 24) พลังงานไฟฟ้า มูลค่า 34 พันล้านเช็กคราวน์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 49) เครื่องโทรศัพท์ มูลค่า 33 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 23) ยางรถยนต์ มูลค่า 31 พันล้านเช็กคราวน์ (-) ฯลฯ

ในขณะที่สินค้าส่งออกสำคัญของเช็กเกือบทุกรายการมีมูลค่าลดลง การส่งออกรถยนต์ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของเช็กกลับเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สาเหตุมาจากนโยบาย “CAR — SCRAPPING SUBSIDIES ” ของประเทศในสหภาพยุโรปหลายประเทศ ที่กำหนดให้รัฐจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ซื้อรถยนต์ใหม่และทำลายรถยนต์เก่าที่มีอายุเกินสิบปี ส่งผลให้ความต้องการรถยนต์เพิ่มสูงขึ้น เช็กเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกรายใหญ่ของสหภาพยุโรป จึงได้รับผลพวงจากนโยบายดังกล่าว ทำให้ยอดส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ลูกค้ารายใหญ่ของเช็กคือเยอรมัน

สินค้านำเข้าหลักของสาธารณรัฐเช็ก : ในปี 2552 สินค้านำเข้าอันดับ 1 ของเช็ก ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์ มูลค่า 91 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 5) รองลงมาได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ มูลค่า 64 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 8) ก๊าซธรรมชาติ มูลค่า 63 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 15) น้ำมันปิโตรเลียม มูลค่า 60 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 41 สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากราคาลดลง) ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ มูลค่า 56 พันล้านเช็กคราวน์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 8) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มูลค่า 49 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 10) รถยนต์นั่ง มูลค่า 45 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 21) ชิ้นส่วน เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ มูลค่า 37 พันล้านเช็กคราวน์ (ลดลงร้อยละ 33 แผงวงจรไฟฟ้า มูลค่า 35 พันล้านเช็กคราวน์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 9) ฯลฯ

จะเห็นได้ว่า สินค้านำเข้าลำดับต้นๆของเช็กจะเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ในขณะที่เช็กนำเข้าก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในปริมาณที่สูง เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมภายในประเทศ สำหรับยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่นำเข้าเพิ่มขึ้นในปี 2552 เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขของเช็กสั่งซื้อวัคซีนสำหรับโรคไข้หวัดหมูในปริมาณที่มาก/

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐ เท่ากับ 16 เช็กครวน์

1 ยูโร เท่ากับ 25 เช็กคราวน์

1 เช็กคราวน์ เท่ากับ 1.80 บาท (โดยประมาณ)

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ