เบลเยี่ยมเป็นประเทศหนึ่งในกลุ่มประเทศเบเนลักซ์1 ซึ่งอยู่ในเขตดูแลของสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก 2 รวมทั้งเป็น Gateway สำคัญแห่งหนึ่งที่นำเข้าและกระจายสินค้าไทยไปสู่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและประเทศใกล้เคียง
รายงานนี้เป็นการรายงานข้อมูลการค้าช่วง 12 เดือน (มกราคม-ธันวาคม) ปี 2552 โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เกี่ยวกับการค้าไทย-เบลเยี่ยม และส่วนที่ 2 เป็นภาวะการแข่งขันของสินค้าไทย 3 รายการแรกในตลาดเบลเยี่ยมช่วง 10 เดือน (มกราคม- ตุลาคม) ปี 2552
1. ภาวะการค้าไทย - เบลเยี่ยม ในช่วง 12 เดือน (มกราคม - ธันวาคม) ปี 2552 ในภาพรวมเบลเยี่ยมนำเข้าสินค้า ไทยลดลงร้อยละ -20.463 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1.1 มูลค่าการค้ารวม 1,953.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -26.71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 (มูลค่า 2,665.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
1) การส่งออกของไทย - ในช่วงดังกล่าวมีมูลค่า 1,349.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -20.46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 (มูลค่า 1,696.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) นับเป็นประเทศสมาชิกฯ ที่นำเข้าจากไทยสูง 1 ใน 6 ประเทศตามลำดับ ได้แก่ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และอิตาลี
2) การนำเข้าของไทย - ไทยนำเข้าสินค้าจากเบลเยี่ยมมูลค่า 604.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -37.67 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 (มูลค่า969.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
3) ดุลการค้า - ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับเบลเยี่ยม มูลค่า 744.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2551(มูลค่า 726.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
ตารางที่ 1 : มูลค่าการค้าแลัดุลการค้ารัหว่างไทย-เบลเยี่ยม ในช่วง 12 เดือน
(มกราคม-ธันวาคม) ปี 2552
(มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
2551 2552 %
(ม.ค.-ธ.ค.) (ม.ค.-ธ.ค.) เพิ่ม/ลด
การค้ารวม 2,665.8 1,953.5 -26.71
ไทยส่งออก 1,696.2 1,349.1 -20.46
ไทยนำเข้า 969.6 604.4 -37.67
ดุลการค้า 726.6 744.7 +2.49
1.2 เมื่อเปรียบเทียบการส่งออกไทย -สหภาพยุโรป การส่งออกไปเบลเยี่ยมมีส่วนแบ่งร้อยละ 7.43 ของการส่งออกรวมของไทยไปสหภาพยุโรป
ตารางที่ 2 : เปรียบเทียบการส่งออกไทย - สหภาพยุโรป (6 ประเทศแรกที่นำเข้า
จากไทยมากที่สุด)ในช่วงดังกล่าว
ประเทศ มูลค่า(ล้าน USD) ส่วนแบ่ง (%)
สหภาพยุโรป 18,154.5 100.00
อังกฤษ 3,237.1 17.83
เนเธอร์แลนด์ 3,123.8 17.20
เยอรมนี 2,626.9 14.46
ฝรั่งเศส 1,546.5 8.51
เบลเยี่ยม 1,349.1 7.43
อิตาลี 1,314.6 7.24
หมายเหตุ: สศค.4 วิเคราะห์ว่าดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2552 ขยายตัวที่ร้อยละ 30.7 ต่อปี เป็นผลทำให้ไตรมาสที่ 4 ขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบปี ที่ร้อยละ 11.5 ต่อปี หรือ 6.4 ต่อไตรมาส ไทยขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.7 ต่อไตรมาส (ขจัดผลทางฤดูกาลออกแล้ว) บ่งชี้ถึงภาคการผลิตเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งนี้ในปี 53 สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 3.5 ต่อปี จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและนโยบายของภาครัฐในการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ
1) ภาพรวมสินค้าที่ไทยส่งออกไปเบลเยี่ยม - ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ
ตารางที่ 3 : รายการสินค้าที่ไทยส่งออกไปเบลเยี่ยม 10 อันดับแรกในช่วง 12 เดือน (มกราคม-ธันวาคม) ปี 2552
ลำดับ รายการสินค้า มูลค่า อัตรา
(ม.ค.-ธ.ค.2552) การขยายตัว
(ล้าน USD) (%)
1. อัญมณีและเครื่องประดับ 263.6 -16.84
2. เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ 127.5 15.15
3. เสื้อผ้าสำเร็จรูป 83.5 3.14
4. ผลิตภัณฑ์ยาง 77.2 -38.45
5. เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 56.0 -51.32
6. รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 55.8 -25.61
7. ข้าว 54.2 0.63
8. รองเท้าและชิ้นส่วน 53.0 -30.40
9. กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ 44.7 -13.93
10. กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง 32.6 40.87
ที่มา: Macro Morning focus วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553, สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
เพิ่มขึ้น - 10 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ (ร้อยละ 15.15) เสื้อผ้าสำเร็จรูป (ร้อยละ 3.14) ข้าว (ร้อยละ 0.63) กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง (ร้อยละ 40.87) ส่วนประกอบอากาศยานและอุปกรณ์ การบิน (ร้อยละ 88.28) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (ร้อยละ 41.45) เส้นใยประดิษฐ์ (ร้อยละ 67.43) เครื่องโทรสารโทรศัพท์ อุปกรณ์ฯ (ร้อยละ 96.44) ทองแดงและของทำด้วยทองแดง (ร้อยละ 3.26) เลนซ์ (ร้อยละ 41.01)
ลดลง - 10 อันดับแรก ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ (ร้อยละ -16.84) ผลิตภัณฑ์ยาง (ร้อยละ -38.45) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ (ร้อยละ -51.32) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ร้อยละ -25.61) รองเท้าและชิ้นส่วน (ร้อยละ -30.40) กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ (ร้อยละ -13.93) ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ (ร้อยละ -5.49) เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ (ร้อยละ -41.17) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วน ประกอบ (ร้อยละ -7.46) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ (ร้อยละ -28.88)
ตารางที่ 4 : รายการสินค้า 3 หมวดสำคัญที่ไทยส่งออก 5 อันดับแรก
ลำดับ รายการสินค้า มูลค่า(ม.ค-ธ.ค.52) อัตราการ
(ล้าน USD) ขยายตัว(%)
1 หมวดสินค้าแร่ธาตุและสินค้าเกษตร
ข้าว 54.2 0.63
กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง 32.6 40.87
ยางพารา 20.2 -22.87
ใบยาสูบ 16.9 -18.13
ผลไม้สดแช่เย็น 1.7 25.72
แช่แข็งและแห้ง
2 หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร
ผลิตภัณฑ์ยาง 77.2 -38.45
อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 20.4 41.45
ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 7.6 -22.84
ผักกระป๋องและแปรรูป 3.48 -0.70
ไก่แปรรูป 5.6 -17.48
3 หมวดสินค้าอุตสาหกรรม
อัญมณีและเครื่องประดับ 263.6 -16.84
เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ 127.5 -15.15
เสื้อผ้าสำเร็จรูป 83.5 3.14
เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 56.0 -51.32
รองเท้าและชิ้นส่วน 53.0 -30.40
เพิ่มขึ้น - เช่น ข้าว (ร้อยละ 0.63) กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง (ร้อยละ 40.87) ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (ร้อยละ 25.72) เป็ดสดแช่เย็น แช่แข็ง (ร้อยละ 12.51) ผักสดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (ร้อยละ 12.51) สินค้าปศุสัตว์อื่น ๆ (ร้อยละ 300.78) สัตว์น้ำจำพวกครัสตาเซีย (ร้อยละ 72.03) ประมงอื่น ๆ (2.90) กระดูกสัตว์และขนสัตว์ปีก (ร้อยละ 6.67)
ลดลง - เช่น ยางพารา (ร้อยละ -22.87) ใบยาสูบ (ร้อยละ -18.13) ปลาสดแช่เย็น แช่แข็ง (ร้อยละ -41.80) ปลาหมึกสด แช่เย็นแช่แข็งและแห้ง (ร้อยละ -23.42) ฝ้าย (ร้อยละ -44.99) ดีบุก (ร้อยละ -74.39)
เพิ่มขึ้น - เช่น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (ร้อยละ 41.45) อาหารสัตว์เลี้ยง (ร้อยละ 27.98) สิ่งปรุงรสอาหาร (ร้อยละ 9.73) ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (ร้อยละ 2,237.96)
ลดลง - เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง (ร้อยละ -38.45) ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (ร้อยละ -17.30) ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ (ร้อยละ -22.84) ไก่แปรรูป (ร้อยละ -17.48)
เพิ่มขึ้น - เช่น เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ (ร้อยละ 15.15) เสื้อผ้าสำเร็จรูป (ร้อยละ 3.14) ส่วนประกอบ อากาศยานและอุปกรณ์การบิน (ร้อยละ 88.28) เส้นใยประดิษฐ์ (ร้อยละ 67.43) เครื่องโทรสาร โทรศัพท์และอุปกรณ์ (ร้อยละ 151.62) เลนซ์ (ร้อยละ 41.04) เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ (ร้อยละ 13.41) ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ (ร้อยละ 10.72) ของเบ็ดเตล็ดทำด้วยโลหะสามัญ (ร้อยละ 87.05) เครื่องใช้สำหรับเดินทาง (ร้อยละ 46)
ลดลง - เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ (ร้อยละ -16.84) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ (ร้อยละ -51.32) รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ร้อยละ -25.61) รองเท้าและชิ้นส่วน (ร้อยละ -30.40) กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ (ร้อยละ -13.93) ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ (ร้อยละ -5.49) เครื่องยนต์สันดาปภายใน แบบลูกสูบ (ร้อยละ -41.71) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ร้อยละ -7.46) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ (ร้อยละ -28.88) เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น (ร้อยละ -40.74)
สินค้ารายการสำคัญที่ไทยนำเข้าจากเบลเยี่ยม - ในช่วง 12 เดือน (มกราคม-ธันวาคม) ปี 2552 มูลค่ารวม 604.4 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -37.67 เมื่อเทียบกับการนำเข้าในช่วงเดียวกัน ปี 2551 (มูลค่า 969.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
ตารางที่ 5 : รายการสินค้าที่ไทยนำเข้าจากบลเยี่ยม 10 อันดับแรกในช่วง 12 เดือน(มกราคม-ธันวาคม) ปี 2552
ลำดับ รายการสินค้า มูลค่า อัตรา
(ม.ค.-ธ.ค.2552) การขยายตัว
(ล้าน USD) (%)
1. เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ 136.8 -57.11
2. เคมีภัณฑ์ 118.5 -47.81
3. เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 61.8 -14.97
4. ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม 46.5 13.15
5. เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 46.4 -6.44
6. ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก 30.0 -19.37
7. พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช 27.2 -49.25
8. เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 19.3 5.85
9. ยุทธปัจจัย 13.4 -14.07
10. สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ 12.4 -12.15
2.1 Video Appr W/O Tape (รหัส 852190) มูลค่าการนำเข้ารวม 333.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -13.48 แหล่งที่นำเข้า 5 อันดับแรก ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ (ส่วนแบ่งการนำเข้า ร้อยละ 25.89) ไทย (ร้อยละ 22.43) ไอร์แลนด์ (ร้อยละ 16.71) ฮังการี (ร้อยละ 9.63 ) จีน (ร้อยละ 5.41)
2.2 Diamonds, Non industrial, Worked (รหัส 710239) มูลค่าการนำเข้ารวม 3,406.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ -39.6 แหล่งที่นำเข้า 5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย (ส่วนแบ่งการนำเข้า ร้อยละ 29.94) ฮ่องกง (ร้อยละ 14.91) จีน(ร้อยละ 14.54) สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ (ร้อยละ 9.02) สวิสเซอร์แลนด์ (ร้อยละ 4.51) ไทย (ร้อยละ 3.95 อันดับ 8)
2.3 Air Condition Mach. Window/Wall (รหัส 841590) มูลค่าการนำเข้ารวม 311.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.82 แหล่งที่นำเข้า 5 อันดับแรก ได้แก่ สาธารณรัฐเชค (ส่วนแบ่งการนำเข้า ร้อยละ 32.45) ไทย (ร้อยละ 11.56) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 11.11) อิตาลี (ร้อยละ 8.63) ฝรั่งเศส (ร้อยละ 8.50)
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก
ที่มา: http://www.depthai.go.th